|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แมงป่องเจอพิษโรคเลื่อนผังรายการช่อง 5 ต้องชะลอ แผนการผลิตวีซีดีการ์ตูน "สามก๊ก" อย่างไม่มีกำหนด เผยเตรียมซื้อลิขสิทธิ์ทั้งภาพยนตร์และการ์ตูนอีกเพียบ พร้อมเจรจาค่ายโรงหนังเตรียม นำหนังฮ่องกงออกฉาย ปลาย ก.ค.นี้ ส่วนภาพยนตร์การ์ตูนคุยกับน้าต๋อย เซมเบ้ เจ้าพ่อการ์ตูนช่อง9 คาดสรุปผลได้เร็วนี้
นายวิชาญ ธรดุษฎี ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตรายการ บริษัท แมงป่อง จำกัด(มหาชน) เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ว่า จากการที่ช่อง 5 เลื่อนการ ปรับผังรายการออกไปโดยไม่มีกำหนดนั้น ได้ส่งผลกระทบกับบริษัท เช่นกัน โดยในส่วนของบริษัทซึ่งได้เวลาในช่วง 17.00 น. ทุกวันจันทร์- วันศุกร์เตรียมที่จะนำการ์ตูน "สามก๊ก" มาออกอากาศ และแผนงานจะให้การ์ตูนได้ออกฉายทางโทรทัศน์ก่อนประมาณ 1 เดือน เพื่อสร้างเรตติ้ง จากนั้นก็จะนำไปผลิตเป็นวีซีดี วางขายตามร้านแมงป่อง และเครือข่ายทั่วประเทศ ดังนั้นเมื่อมีการเลื่อนผังรายการ ออกไป ทำให้บริษัทก็ต้องชะลอแผนการผลิตวีซีดีอย่างไม่มีกำหนดเช่นกัน
"ถือเป็นครั้งแรก ที่บริษัทเริ่มขยายธุรกิจในหมวดผู้ผลิตรายการ แต่เมื่อมาเจอปัญหาเช่นนี้ ก็ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร คงต้องรอเวลาให้ตัดสินกันเสร็จสิ้นก่อน เพราะหากการ์ตูนไม่ได้ฉายในจอแก้ว บริษัทก็ยังไม่ผลิตเป็นหนังแผ่นแน่นอน"
ทั้งนี้การ์ตูนเรื่อง สามก๊ก เป็นการตูนแอนิเมชันที่ใช้เทคนิคพิเศษ ผสมกับตัวการ์ตูนที่เป็นภาพวาด นำเสนอเนื้อหาในแนวที่สนุกสนาน เด็กๆ สามารถเรียนรู้และเข้าใจเนื้อหาได้อย่างรวดเร็ว โดยบริษัทได้ซื้อลิขสิทธิ์มาจากประเทศฮ่องกง เป็นเวลา 5 ปี และเป็นครั้งแรกที่แมงป่องได้ขยายไลน์ธุรกิจจากหนังแผ่น สู่การผลิตรายการผ่านจอแก้ว และกำลังที่จะเข้าสู่ธุรกิจภาพยนตร์
โดยบริษัทได้ซื้อลิขสิทธ์ภาพยนตร์เรื่อง "กอวู่" หรือ "เฉือนคมโคตรเจ้าพ่อ" ซึ่งเป็นภาพยนตร์ทำเงิน อันดับหนึ่งของประเทศฮ่องกง นำแสดงโดย หลิวเตอะหัว คาดว่าจะเข้าโรงฉายได้ประมาณปลาย เดือนกรกฎาคม ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับค่ายโรงภาพยนตร์อยู่
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาบริษัทแมงป่องจะทำสัญญาซื้อลิขสิทธ์หนังเพื่อผลิตเป็นวีซีดีเพียงอย่างเดียว แต่จากนี้ไป การเจรจาซื้อลิขสิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ หรือการ์ตูน จะพิจารณาบริษัทที่ให้ลิขสิทธิ์ การผลิตที่ครอบคลุมทั้ง การผลิตหนังแผ่น การฉาย ในโรงภาพยนตร์ และการออกอากาศทางโทรทัศน์ แม้จะทำให้ต้นทุนหนังแต่ละเรื่องแพงขึ้นอีก 20-30% และเริ่มเจรจาและซื้อภาพยนตร์มาแล้วหลายเรื่อง ส่วนใหญ่เป็นหนังจากฮ่องกง
นายวิชาญ กล่าวต่อว่า นอกจากการตกลงผลิตรายการกับช่อง 5 แล้ว บริษัทก็ได้ติดต่อและเสนอรายการไปยังสถานีช่องอื่นๆ เช่นกัน อาทิ เคเบิลทีวีอย่าง ยูบีซีด้วย รวมถึงได้เจรจาเพื่อขอเวลาเพิ่มช่วงการ์ตูน จากทางช่อง 9 ด้วย โดยนโยบายการผลิตรายการบริษัทวางไว้ว่าจะต้องเป็นรายการที่มีสาระและความ บันเทิงเพื่อเจาะกลุ่มครอบครัวเป็นหลัก ทั้งนี้ ธุรกิจหลักของบริษัทยังให้ความสำคัญกับการผลิตหนังแผ่น ซึ่งธุรกิจที่เพิ่มขึ้นมาจะเป็นส่วนเสริมในการสร้างกระแสให้หนังแผ่นของบริษัทขายดียิ่งขึ้น
ผลประกอบการในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 20% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 1,500 ล้านบาท แต่ในปี 2548 จะเติบโตมากกว่า 20% เพราะสานต่อธุรกิจใหม่อย่างจริงจัง
นายวิชาญกล่าวด้วยว่า ขณะนี้บริษัทฯได้รุกโครงการหนัง 3 มิติทะลุจอเต็มที่ ซึ่งได้ทุ่มงบประมาณ ไปมากกว่า 40 ล้านบาทแล้ว ในการสร้างหนังผีขึ้นมาถึง 7 เรื่อง คือ ย่านาค ผีเจ้าเล่ห์ จองเวร ผีไม่อยากให้คนเห็น หอผี มนต์ผีบอก คนตัดหัว โดยใช้เวลาเตรียมการนานถึง 2 ปี ตั้งแต่การคัดเลือกบทประพันธ์ การวางตัวนักแสดง การเลือกผู้กำกับ การออกแบบแพกเกจจิ้งที่มีดีไซน์เฉพาะสำหรับแถม แว่นตา 3 มิติในกล่องด้วย ล่าสุดบริษัทฯได้วางแผง ประเดิมตลาดด้วยเรื่อง ย่านาค นำแสดงโดย เมย์ ภัทรวรินทร์ ทิมกุล และสุรพันธ์ ชาวปากน้ำ
สำหรับโครงการหนัง 3 มิต ิ ทะลุจอนี้ เป็นการสร้างตลาดความบันเทิงในบ้านอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ผู้ชมสามารถสวมแว่นหรือไม่สวมแว่นตา 3 มิติก็ได้ เพราะถ่ายทำด้วยเทคนิคพิเศษ และเลนส์ชนิดพิเศษ แตกต่างจากการถ่ายทำภาพยนตร์ทั่วไป โดยใช้ขั้นตอนการผลิตหลายขั้นตอน เวลา และงบประมาณที่สูงกว่าปกติ นอกจากนี้เลนส์แว่นตาที่จะทำให้สามารถมองเห็นภาพยื่นออกมานอกจอนั้น ในระบบนี้ต้องใช้เลนส์ชนิดพิเศษกว่าภาพยนตร์ 3 มิติทั่วไปด้วย ซึ่งแมงป่องได้สั่งเลนส์พิเศษนี้จาก บริษัท Peloah International GM bh จากประเทศเยอรมนีเข้ามาใช้
|
|
|
|
|