|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ กรกฎาคม 2547
|
|
ประเทศสเปน มีประชากร 40 ล้านคน แต่ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่ประเทศนี้ถึง 52 ล้าน คนเมื่อปี 2003 ซึ่งนั่นก็คือ มากกว่าจำนวนประชากรของประเทศ และแต่ละปีก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากตัวเลขดังกล่าวทำให้สเปนเป็นประเทศที่มีผู้คนมาเที่ยวมากเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป นี่เป็นตัวเลขของนักท่องเที่ยวต่างชาติล้วนๆ คือไม่นับการท่องเที่ยวภายใน เพื่อที่ท่านผู้อ่านจะได้เห็นความชัดเจนในเรื่องของตัวเลข ก็ขอเทียบกับนักท่องเที่ยวในประเทศไทยของเราครับ ในปีที่มีการรณรงค์กันอย่างเต็มที่ยอดนักท่องเที่ยวก็อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านคนต่อปีครับ
จากปริมาณดังกล่าวของนักท่องเที่ยว ทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวของสเปนทำรายได้ให้กับประเทศคิดเป็น 12 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี หรือ 4,500 ล้านยูโร
ประเทศสเปนมีจุดเด่นหลายอย่างที่ทำให้กลายเป็นที่หมายของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก อย่างแรกก็คือ ค่าครองชีพจะถูกกว่าพอสมควรเมื่อเทียบกับทางยุโรปเหนือ หรือถ้าเทียบกับฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี ก็ถูกกว่าเช่นกัน อย่างที่สองคือประเทศนี้มีแสงแดด ชาว ยุโรปด้วยกันมักจะพูดว่า ประเทศสเปนขายดวงอาทิตย์ นั่นก็คือมีแสงแดดเป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวจากเมืองหนาวนั่นเอง ความจริงก็เป็นอย่างนั้น เนื่องจากว่าประเทศสเปนจะมีแสงแดดตลอดทั้งปี โดยเฉพาะทางแถบชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน อากาศจะดีเป็นพิเศษ
ในบางปี ช่วงหน้าร้อนนั้นอากาศร้อนมาก อุณหภูมิขึ้นไปถึง 45 องศาในบางพื้นที่ แม้ในช่วงหน้าหนาวจะหนาวมากแต่ก็มีแสงแดดให้สัมผัสอยู่เสมอ
กล่าวโดยสรุปก็คือ ถ้าคนยุโรปจะมาแสวงหาแสงแดด มาสเปนก็จะใกล้สุด และถูกที่สุดนั่นเอง นอกจากความโดดเด่นด้านดินฟ้าอากาศแล้ว สเปนยังมีเสน่ห์อื่นๆ อีกมากมาย ที่เป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
เริ่มกันที่เสน่ห์ในเรื่องของภาษา เรียกได้ว่า เมื่อคุณออกจากสนามบินแล้ว ความรู้ภาษาอังกฤษที่คุณมี จะใช้ประโยชน์ได้น้อยมาก ไม่ว่าจะเป็นป้ายหรือคำเตือน อะไรต่างๆ ก็เป็นภาษาสเปนเกือบทั้งหมด จะไปสนทนา กับใคร หรือไปถามเส้นทาง ต้องเป็นผู้ที่มีโชคพอสมควร จึงจะเจอคนที่ฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่อง ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ต้องพึ่งมือทั้งสองประกอบกับสีหน้าท่าทาง สิ่งนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่าได้ผจญภัย แม้จะอยู่ในตัวเมืองก็ตาม
ถ้าพูดถึงคนสเปนก็ถือได้ว่าเป็นผู้คนที่มีเสน่ห์พอสมควร คนสเปนเป็นคนง่ายๆ ไม่ค่อยมีพิธีรีตองอะไรมาก มักชอบสนทนากับผู้คน พูดทักทายกันได้ตลอด นั่นก็คือถ้าสื่อสารกันรู้เรื่อง เขาก็พร้อมจะช่วยเหลือคุณตลอดเวลา
สำหรับคนที่ชอบทางศิลปวัฒนธรรม ประเทศนี้ ก็มีอะไรให้ดูเยอะ เริ่มกันตั้งแต่ภาพเขียนผนังถ้ำสมัยยุคหินจนถึงศิลปะยุคปัจจุบัน งานศิลปะที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่ก็อยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติและพิพิธภัณฑ์ของแต่ละเมือง ในด้านสถาปัตยกรรม ก็สามารถย้อนยุคไปถึงสมัยอาณาจักรโรมัน คือมีเมืองเก่าของโรมันที่ยังรักษาสภาพไว้ได้ดี นอกจากนั้นยังมีบ้านเรือนสิ่งก่อสร้าง ในยุคกลางจนถึงยุคใหม่ โดยเฉพาะโบสถ์ของโรมัน คาทอลิกนั้นมีให้ดูให้ชมกันทุกเมือง และประเทศสเปนยังมีเทศกาลงานรื่นเริงตลอดทั้งปี เพราะว่าแต่ละเมืองแต่ละแคว้นก็มีงานประเพณีของตนเอง หลายเมืองหลายแคว้นรวมกันจึงมีงานให้เที่ยวได้ตลอด ในช่วงหน้าร้อนก็เป็นเทศกาลแทงวัวกระทิงซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ช่วงหน้าหนาวก็ไปเล่นสกีหิมะกัน มีสนามสกีที่ดังๆ อยู่หลายแห่งโดยเฉพาะทางแถบเทือกเขาปิริเนว และที่พลาดไม่ได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ ลาลีก้า ฟุตบอลดิวิชั่นหนึ่งของสเปน ซึ่งถือว่าเป็นลีกชั้นนำของโลกแห่งหนึ่ง
ในปัจจุบันแม้ไม่ใช่ช่วงเทศกาล แต่ละเมืองก็พยายามจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น การแสดงละคร, คอนเสิร์ต, ฟอรั่ม, นิทรรศการทางศิลปะ เป็นต้น เพื่อจะดึงดูดนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี
สิ่งที่พลาดไม่ได้อีกอย่างหนึ่งของสเปน ก็คือเรื่องอาหาร สเปนมีอาหารลือชื่อหลายอย่าง อย่างแรกก็คือ คามอน เป็นขาหมูแขวนทิ้งไว้ข้ามปีหรือหลายปีจนกินได้แม้จะดิบอยู่ก็ตาม อีกอย่างที่เป็นที่รู้จักกันมาก คือ ปาเอย่า เป็นข้าวผัดสเปนนั่นเอง อย่างอื่นก็เป็นอาหารจานเด็ดของแต่ละแคว้น
สำหรับคริสต์ศาสนิกชนผู้แสวงบุญส่วนใหญ่จะมีสเปนเป็นเป้าหมายอยู่ในใจตลอดมา เพราะว่าที่นี่มีเส้นทางจาริกแสวงบุญที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมาก คือ เส้นทางจาริกไปยังโบสถ์ของเมืองซานติอโก คอมโปสเตล่า ซึ่งอยู่ในแคว้นกาลิเซียทางภาคเหนือ
สรุปก็คือว่า ประเทศสเปนมีสิ่งที่น่าสนใจที่ตอบสนองทุกเพศทุกวัย และทุกรสนิยม จนกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
สำหรับปัจจัยทางด้านอื่น ประเทศนี้ถือได้ว่าเป็นประเทศที่เที่ยวง่าย เที่ยวสะดวก และปลอดภัยในระดับหนึ่ง เนื่องจากระบบการขนส่งสาธารณะ เช่น เครื่องบิน, เมโทร, รถไฟ, รถบัส มีความลงตัวพอสมควร ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวได้เกือบทุกที่ทุกเมือง แม้จะไปตามหมู่บ้านเล็กๆ ก็ตาม
ความหลากหลายทางวัฒนธรรมก็มีส่วนช่วยอย่างมาก สเปนปกครองเป็นระบบแคว้นอิสระที่มีภาษาและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ฉะนั้นมาสเปนที่เดียวก็เหมือนได้เที่ยวหลายประเทศ
กลุ่มนักท่องเที่ยวหลักก็ยังเป็นชาวยุโรปด้วยกัน ตามข้อมูลปี 2003 อันดับหนึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากอังกฤษ 16.1 ล้านคน รองลงมาเป็นชาวเยอรมัน 9.8 ล้านคน และฝรั่งเศส 7.7 ล้านคน จากทางประเทศแถบ เอเชีย ที่ติดอันดับก็มีเพียงญี่ปุ่นประเทศเดียว 2.5 แสน คน
แคว้นที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวมากที่สุด ส่วนใหญ่ จะเป็นเมืองที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลและหมู่เกาะ คือแคว้นคาตาลุนญ่า ซึ่งมีเมืองบาร์เซโลนา เป็นเมืองหลวง ตามมาด้วยหมู่เกาะคานาเรียส และหมู่เกาะบาเลอาเรียส
สำหรับในไตรมาสแรกของปี 2004 ได้มีนักท่อง เที่ยวเข้ามาแล้วถึง 13 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.5 เปอร์เซ็นต์เทียบจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แม้ว่าในปีนี้จะมีข่าวคราวเรื่องของผู้ก่อการร้ายและการวางระเบิด แต่ดูเหมือนว่าไม่ได้มีผลกระทบมากมายต่อการท่องเที่ยวของประเทศสเปน จึงมีการคาดการณ์กันว่ายอดนักท่องเที่ยวในปีนี้จะสูงกว่าปีที่แล้วอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในช่วงซัมเมอร์นี้ คือช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน นักท่องเที่ยวจะทะลักเข้ามามากเป็นพิเศษจนเต็มล้นชายหาด เหมือนดังที่เคยปรากฏมาแล้วในทุกๆ ปี
|
|
|
|
|