Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2547








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2547
Truehits เรตติ้งเอเยนซี่ในโลกออนไลน์             
โดย ไพเราะ เลิศวิราม
 


   
www resources

Truehits Homepage

   
search resources

truehits
ปิยะ ตัณฑวิเชียร




หากเอซี นีลสัน เป็นตัวกลางในโลกสื่อโฆษณาใบเก่าแล้ว truehits ก็คงไม่ต่างกันนัก เว็บไซต์แห่งนี้ถือกำเนิดมาจากคนหนุ่มสาวทั้ง 4 ที่เป็นเพียงพนักงานในหน่วยงานของภาครัฐ แต่สามารถร่วมกันสร้างเว็บไซต์แห่งนี้กลายเป็นเครื่องมือวัดเรตติ้งในโลกออนไลน์

"ผู้จัดการ" พบทีมงานสร้างเว็บไซต์ truehits ในสำนักงานบริการเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐ บนชั้น 17 อาคารบางกอกไทยทาวเวอร์ ช่วงเช้าปลายเดือนมิถุนายน

สถานที่ทำงานของพวกเขาเป็นเพียงพื้นที่เล็กๆ ที่มีเพียงโต๊ะทำงานและคอมพิวเตอร์ ไม่ต่างจากหน่วยงานของภาครัฐทั่วไป แต่ต่างกันอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับออฟฟิศ ของ "ดอทคอม" หรือไอที ที่มักต้องสร้างสภาพแวดล้อมของสถานที่ทำงาน เพื่อให้ทีมงานสร้างสรรค์ "ไอเดีย" ใหม่ๆ ตลอด เวลา

แต่สิ่งที่พวกเขามีไม่ต่างไปจากกลุ่ม คนหนุ่มสาวทั่วไป การร่วมแรงร่วมใจขับเคลื่อน truehits ให้เป็นที่รู้จักไปทั่ว

truehits ถือกำเนิดขึ้นมาในเดือนมกราคม 2543 ช่วงแรกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ภายใน "เนคเทค" วัดเรตติ้งของผู้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของหน่วยงาน 10 เว็บ ทำ ได้ไม่นานรัฐบาลมีนโยบาย e-government ต้องการให้หน่วยงานราชการทุกแห่งมีเว็บไซต์ จากที่ทำขึ้นมาใช้งานภายในก็เริ่ม ให้บริการกับเว็บไซต์อื่นๆ ทั้งรัฐและเอกชน

เนื่องจากเวลานั้นยังไม่มีเว็บไซต์ไหนที่ให้บริการในลักษณะนี้ จะมีก็แต่เว็บไซต์ขนาดใหญ่ที่ลงทุนติดตั้งเครื่องมือวัดเรตติ้งกันเอง

"เว็บไซต์ทำขึ้นมาก็ต้องอยากรู้ว่า ลงทุนไปแล้วคุ้มหรือไม่ มีคนเข้ามาดูแค่ไหน ตัวเลขคนเยี่ยมชมเหล่านี้จะนำไปวิเคราะห์ มีผลต่อเว็บไซต์ e-commerce ที่เขาจะนำไปใช้ปรับปรุง" ดร.ปิยะ ตัณฑวิเชียร ผู้อำนวยการส่วนวิจัย เล่าถึงแรงบันดาลใจ ของการพัฒนาเว็บไซต์ในช่วงนั้น

การโปรโมตเว็บไซต์ในช่วงแรกทำ ผ่านชมรมเว็บมาสเตอร์ ซึ่งมีบรรดาเจ้าของ เว็บชื่อดัง อย่าง puntip.com, thaisecondhand.com เป็นสมาชิก และเป็นผู้บุกเบิก นำไปใช้เป็น "เคาน์เตอร์กลาง" ในการวัดยอดผู้เข้าชม

วิธีการที่ truehits ใช้ในการวัดเรตติ้งให้กับเว็บไซต์คือ การสร้างโปรแกรม remote monitoring ที่เขียนมาจากภาษา "จาวาสคริปต์" เว็บไซต์ใดต้องการวัดเรตติ้ง สามารถลงทะเบียนนำ code ไปใส่ลงบนหน้าเว็บไซต์ เลือกได้ว่าจะวัดเรตติ้งเฉพาะหน้าแรกหรือวัดจากทุกหน้าของเว็บไซต์

"กระแสดอทคอมจะกลับมาบูมอีกครั้ง และเขาต้องพึ่งพารายได้จากโฆษณา แต่ปัญหาคือ ทำอย่างไรให้เอเยนซี่รู้จัก เมื่อมีเคาน์เตอร์กลาง เขาก็สามารถวัดได้ว่า ควรลงโฆษณาเว็บไหน เป้าหมายเราต้อง การให้เว็บมาสเตอร์หรือเจ้าของเว็บไซต์มีรายได้เลี้ยงตัวเองได้" ดร.ปิยะบอก

การเป็นหน่วยงานราชการที่มีความเป็นกลาง "มาตรฐาน" ที่น่าเชื่อถือได้มากกว่าการที่เว็บไซต์จะใช้วัดผลกันเองไม่ต่างไปจากโลกโฆษณาใบเก่าที่ต้องมี "ตัวกลาง" มาเป็นผู้ทำหน้าที่เหล่านี้

เมื่อการวัดผลมีมาตรฐานมากขึ้น ย่อมส่งผลต่อการลงโฆษณาบนเว็บไซต์ และประโยชน์ย่อมตกอยู่กับเว็บไซต์ และส่งผลต่อภาพรวมของประเทศ

ทีมงานของ truehits คิดหาวิธีการใหม่ๆ เพื่อสร้างมาตรฐานป้องกันการ "ปั่น" ยอด page view แบบไม่สมจริง เริ่มจากการสร้างโปรแกรมวัดผลผู้ที่เข้ามา ดูเว็บในช่วง 30 นาที ถ้าซ้ำคนเดิมจะไม่นับ

รวมทั้งการวัดผลจากตัว IP (internet protocol) ซึ่งทำให้การ "ปั่น" ยอด hit rate ทำได้ยาก เพราะสามารถวัดได้ว่าคนที่เข้ามาดูเว็บเป็นสมาชิกของ ISP รายใด เข้ามาดูเวลาใด และ IP ของผู้ใช้คืออะไร และใช้ browser เวอร์ชั่นอะไร

อุปสรรคครั้งใหม่ไม่ได้อยู่ที่ความนิยม แต่กลับเป็นว่าเมื่อความนิยมมากขึ้น ระบบที่มีอยู่เดิมเริ่มรองรับไม่ได้ เมื่อปริมาณ การใช้งานจากเดิมเฉลี่ยวันละ 1 ล้านคลิก เพิ่มเป็น 20 ล้านคลิกต่อวัน ทีมงานต้องแก้ปัญหากันอีกครั้ง

เงื่อนไขของ truehits ไม่เหมือนกับเอกชนอื่นๆ การเป็นหน่วยงานสังกัดของภาครัฐที่ต้องอาศัยงบประมาณจากรัฐบาล การแก้ปัญหาด้วยการซื้อ server และการสร้าง database ซึ่งมีข้อดีที่การบริหารจัดการทำได้ง่าย แต่ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด

"ต้นทุนต้องมี server ตัวเป็นแสน ค่าไฟ ค่าเช่าที่ งบประมาณที่เราได้ต้องมาแชร์กัน truehits เราได้งบประมาณไม่มาก"

แทนที่จะลงทุนซื้อ server ก็ใช้บริการ hosting เช่าบริการจากภายนอก ฐานข้อมูลก็ต้องเปลี่ยนจากการใช้จัดเก็บด้วยโปรแกรมฐานข้อมูล (database) ซึ่งต้องใช้พื้นที่เก็บข้อมูล (storage) ขนาดใหญ่ และใช้เงินลงทุนสูง มาใช้โครงสร้างการเก็บ ข้อมูลที่เขียนด้วยภาษา C เพื่อรองรับปริมาณการใช้มากและใช้เงินลงทุนต่ำ

หลักคิดของ ดร.ปิยะเชื่อว่า ธุรกิจดอทคอมต้องยึดหลักต้นทุนไม่สูง ทีมงานไม่มาก แต่ต้องทำงานได้อย่างเห็นผล

เว็บไซต์ที่ต้องรองรับคนเข้าชมเฉลี่ย 20 ล้านคลิกต่อวัน อย่าง truehits มีทีมงานเพียงแค่ 4 คน ที่ร่วมกันวางโครงสร้าง ทั้งหมด แต่ละคนจะถูกฝึกมาอย่างเข้มงวด เพื่อดูแลรับผิดชอบงานที่เฉพาะเจาะจงทั้ง 4 คน มีอายุเฉลี่ย 25 ปี

"ไอทีเป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ ผมมี หน้าที่ให้โจทย์เขาไปทำ การทำตรงนี้เราสามารถจดสิทธิบัตรขึ้นมาได้เลย"

เมื่อคนไม่มากจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากไอทีให้มากที่สุด และเป็นที่มาของการต่อยอดบริการใหม่ๆ เช่น การสร้างระบบ sms แจ้งเตือนกรณีเครื่อง server เกิดปัญหา ทดลองใช้ภายในและเริ่มให้บริการแก่สมาชิก เก็บค่าใช้จ่ายเดือนละ 100 บาท

เขาจึงไม่ได้ทำแค่เป็น "แนวรับ" เท่านั้น แต่ยังเป็น "แนวรุก" หากเว็บไซต์ไม่มีคนมาดูข้อมูลไปให้เว็บมาสเตอร์ เพื่อปรับปรุงต่อไป

การเพิ่ม Feature มีขึ้นตลอดเวลา บริการ ล่าสุด "secure chat" ที่มีระบบรักษาความปลอดภัย นำระบบลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการลงทะเบียน

อย่างไรก็ตาม หลักใหญ่ของ "truehits" จะอยู่ที่ความสามารถในการ "มอนิเตอร์" เว็บไซต์ เขายกตัวอย่างกรณี องค์กรที่มีหลายเว็บไซต์ ข้อมูลที่ได้จากการมอนิเตอร์ของผู้เข้าชมเว็บไซต์น่าจะนำไปใช้ประโยชน์ในแง่ของโฆษณา

การมีงบประมาณจำกัดและต้องบริหารต้นทุนให้สามารถ "เลี้ยงตัวเองได้" ไม่รอแต่เพียงงบประมาณจากภาครัฐ ทำให้ "truehits" ริเริ่มเก็บค่าบริการในเดือนตุลาคม 2546 ในอัตรารายละ 1,800 บาท ต่อปี เพื่อหารายได้มาใช้ในการดำเนินงาน

"ถ้าผมไม่รับเงินบริจาค ทุกครั้งที่ซื้อเครื่องผมก็ต้องของบประมาณ ถ้าช่วงไหนไม่ได้งบก็แย่ เพราะเท่ากับว่ายิ่งโตยิ่งแย่ ยิ่งมีคนใช้ นักวิจัยยิ่งปวดหัว เหมือน กับว่าผมทำก๋วยเตี๋ยวให้ทุกคนทานฟรีทุกคนก็กิน แต่พอเราเก็บเงินก็มีคนโจมตี"

ทุกวันนี้ truehits มีเว็บไซต์ที่มาเป็น "ผู้สนับสนุน" จำนวน 250 ราย จาก 9,657 เว็บไซต์ สำหรับ ดร.ปิยะแล้วเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ ยิ่งเมื่อบวกรวมกับจำนวนสมาชิก ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

แนวคิดของทีมงานวิจัยที่นี่จึงแตกต่างไปจากที่อื่น ดร.ปิยะมองว่าการเพิ่มบริการใหม่ๆ ของที่นี่แม้จะเป็นเรื่องจำเป็น ไม่ใช่เรื่องของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ทำแล้วต้องมีคนใช้เป็นเรื่องที่ยากกว่า

การวัดความสำเร็จของ "truehits" แม้จะมีเรื่องของ "รายได้" เป็นเงื่อนไขสำคัญ แต่ไม่ได้หมายถึงเน้น "กำไร" ความ หมายของเขาคือถ้ามีบริการใหม่แล้วไม่มี คนใช้ก็เปล่าประโยชน์

เปรียบได้กับ "สินค้า" ที่ต้องปรับปรุง ตัวเอง เมื่อยอดขายอิ่มตัวก็ต้องมีสินค้าใหม่ๆ ออกมากระตุ้นรายได้ เช่นเดียวกับ truehits ที่ต้องเพิ่มฟังก์ชันใหม่ๆ โดยต้องยึดหลักที่ว่าเพิ่มบริการได้แต่ต้องมีคนใช้

"นักวิจัยของเราต้องไม่มีมุมมองเหล่านี้ถ้าไม่มีก็ไม่มีประโยชน์"

เป็นวิธีคิดของการวิจัยผสมผสานกับเรื่องราวทางธุรกิจต้องเดินควบคู่กันไป อย่างลงตัว เพื่อสร้างความอยู่รอดได้อย่างมั่นคง

ไม่น่าแปลกที่อนาคต truehits อาจ เปิดให้มีการร่วมลงทุนกับเอกชนภายนอก เพื่อสร้างความต่อเนื่องในการพัฒนา

"ผมอยากให้พนักงานเราอยู่ที่นี่เป็น 10 ปี เพราะส่วนใหญ่อย่างมากก็อยู่แค่ 3 ปี ถ้าไม่ไปเรียนต่อก็ลาออกไปทำงานกับเอกชน แต่ถ้าเราสร้างมุมมองใหม่ๆเยอะแยะ โอกาสที่เขาจะทำงานอยู่กับเรามีมากขึ้น"

อนาคตจะเป็นเช่นไรยังไม่มีคำตอบ แต่ที่แน่ๆ ทีมงานทั้ง 4 ยังมุ่งมั่นอยู่กับการ สร้างสรรค์เว็บไซต์ในฐานะของนักวิจัยที่ต้องมีไอเดียธุรกิจ

"หน้าที่ของผม" คือการสร้างแรงบันดาลใจให้เขาทำงานเป็นทีมเวิร์ค" คำตอบของ ดร.ปิยะกับเรื่องราวการต่อสู้ที่กว่าจะเป็น truehits   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us