การยกเครื่องระบบไอทีของเคาน์เตอร์เซอร์วิส มาจากหลายเหตุผล นอกจากปรับให้เท่าทันกับความต้องการของลูกค้า ที่ต้องมีบริการหลากหลายแล้ว ยังเป็นการรับมือกับคู่แข่งที่มากหน้าหลายตาทั้งรายเก่าและใหม่

คู่แข่งของเคาน์เตอร์เซอร์วิสในเวลานี้ มีทั้งที่เป็นคู่แข่งทางตรง เช่น pay point แม้จะเปิดให้บริการในเวลาใกล้เคียงกัน แต่จุดให้บริการของค่ายนี้ยังมีอยู่น้อยแค่ 100 กว่าแห่ง

ส่วนคู่แข่งที่กำลังมาแรงคือไปรษณีย์โทรเลข แม้จะผันตัวมาจากหน่วยงานภาครัฐ แต่จุดแข็งของค่ายนี้ที่มองข้ามไม่ได้ เพราะมีสาขาให้บริการครอบคลุมอยู่ทั่วประเทศ แถมอยู่ระหว่างปรับปรุงโฉมหน้า เพิ่มเติมบริการใหม่ๆ เข้ามาไว้ในสาขาเพิ่มเติมตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม ทำเลที่ตั้งสาขาของไปรษณีย์นั้นส่วนใหญ่กระจายอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ในขณะที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสจะเน้นกรุงเทพฯ ปริมณฑล ถ้าต่างจังหวัดก็ต้องอยู่อำเภอเมืองเป็นหลัก

คู่แข่งทางอ้อมที่จะเป็นคู่แข่งในอนาคตคือ ไทย ทิกเก็ต มาสเตอร์ของค่ายบีอีซีเทโร เปิดให้บริการจองตั๋วคอนเสิร์ตที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก แม้จะเป็น niche market แต่เป็นคู่แข่งในอนาคตอันใกล้

คู่แข่งหน้าใหม่ที่เป็น newcomer คือบริการ phone payment ของค่าย อาร์.เอ็น.ที.กรุ๊ป ซึ่งกำลังโด่งดังเรื่องการทำโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมของกรมประชาสัมพันธ์ เพิ่งเปิดตัวบริการรับชำระค่าสินค้าและบริการ ผ่านระบบโทรศัพท์มือถือทุกระบบAIS, DTAC, ORANGE และโทรศัพท์บ้านทุกระบบ ร่วมกับธนาคาร 9 แห่ง เช่น กรุงเทพ ไทยพาณิชย์ กรุงศรีอยุธยา กสิกรไทย กรุงไทย นครหลวงไทย ทหารไทย

ขั้นแรกผู้ใช้บริการมีบัญชีออมทรัพย์ และลงทะเบียน เพื่อขอใช้บริการกับธนาคารแห่งใดแห่งหนึ่งในจำนวน 9 แห่งดังกล่าว และทันทีที่โทรใช้บริการชำระค่าบริการ ค่าธรรมเนียมจะถูกหักจากบัญชีของลูกค้า ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับการหักเงินในบัญชีเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการ เฉลี่ยบิลละ 5-20 บาทขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าและบริการ นอกจากนี้จะเสียอัตราค่าโทรศัพท์นาทีละ 6 บาท เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อแลกกับความสะดวกในการชำระค่าบริการได้ทุกที่ ทุกเวลา เริ่มจากบริการ ไฟฟ้า น้ำประปา และโทรศัพท์
ยังไม่รวมบริการของธนาคาร รับชำระค่าสินค้าและบริการผ่านเครื่อง ATM และอินเทอร์เน็ต ที่ถือเป็นคู่แข่งทางอ้อมในอีกรูปแบบหนึ่ง