หลังจากในช่วงต้นปีได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูงของธนาคารกสิกรไทย โดยบัณฑูร ล่ำซำ เลื่อนขึ้นไปเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แล้วให้ประสาร ไตรรัตน์วรกุล เข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการแทนแล้ว ดูเหมือนผู้บริหารทุกระดับของธนาคารแห่งนี้จะทวีความคึกคักขึ้นอย่างทันตาเห็น

ล่าสุดช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ธนาคารกสิกรไทยได้จัดกิจกรรมขึ้นถึง 2 ครั้ง ภายในชั่วเวลาแค่ครึ่งวัน เรียกว่าหวังสร้างความประทับใจให้กับผู้สื่อข่าวที่อุตส่าห์เดินทางไปถึงอาคารสำนักงานใหญ่ ย่านราษฎร์บูรณะรู้สึกว่าคุ้มค่าต่อการไปอยู่ที่นั่นเลยทีเดียว

ช่วงเช้า ธนาคารกสิกรไทยจัดพิธีลงนามปล่อยเงินกู้ให้กับการประปานครหลวง (กปน.) ในวงเงิน 1,150 ล้านบาท เพื่อให้ กปน.นำเงินดังกล่าวไปรีไฟแนนซ์เงินกู้สกุลเงินต่างประเทศที่ กปน.กู้มาจากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC) เพื่อลดภาระหนี้สินของ กปน. โดยธนาคารกสิกรไทย คิดอัตราดอกเบี้ยจาก กปน.ในรูปแบบของเงินกู้ระยะยาวอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสกุลบาท (Thai Baht Fixed : THBFIX)

ตัวแทนของธนาคารกสิกรไทยที่ทำหน้าที่ลงนามในสัญญาเงินกู้ที่ปล่อยให้กับ กปน.ในครั้งนี้คือประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ และบุญทักษ์ หวังเจริญ รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานบรรษัทธุรกิจ โดยพิธีลงนามถูกจัดขึ้นที่ห้องจินดาธร ชั้น 8

หลังเสร็จพิธีลงนามในสัญญาเงินกู้กับ กปน.เพียงไม่นาน กลุ่มผู้สื่อข่าวก็ต้องย้ายขึ้นไปยังชั้น 35 เพื่อฟังการแถลงข่าวความคืบหน้าของโครงการปล่อยเงินกู้ ให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)

โดยมีกฤษฎา ล่ำซำ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานวิภัชธนกิจ และพิพิธ เอนกนิธิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด และผลิตภัณฑ์สินเชื่อวิภัชธนกิจ เป็นผู้แถลง

กฤษฎา ล่ำซำ ได้บอกกับกลุ่มผู้สื่อข่าวว่าสินเชื่อสำหรับธุรกิจ SMEs นั้น มีขนาดใหญ่เท่ากับ 50% ของพอร์ตสินเชื่อรวมทั้งหมดของธนาคารกสิกรไทย โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ธนาคารมียอดสินเชื่อ SMEs อยู่ที่ 2.36 แสนล้านบาท และเป็น การปล่อยสินเชื่อใหม่ 2.7 หมื่นล้านบาท

เรียกได้ว่า 2 สายงานหลักของธนาคารทั้งบรรษัทธุรกิจ และวิภัชธนกิจ ล้วนไม่ยอมน้อยหน้า ต่างนัดกันออกมาแสดงบทบาทสำคัญ และโชว์ผลงานกับผู้สื่อข่าวอย่างถ้วนหน้าในเวลา ไล่เลี่ยกัน