หลังจากเปิดดำเนินกิจการมาแล้ว 3 ปีเต็ม ปีนี้ดูเหมือนจะเป็นปีแรกที่บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวงจำเป็นต้องเปิดตัวต่อสาธารณะอย่างเป็นทางการ

และด้วยความที่เป็นบริษัทที่มีการเปิดตัวไม่บ่อยครั้งนัก การจัดงานแถลงข่าวโดยการนำผู้บริหาร ซึ่งประกอบด้วย ชอง โท กรรมการผู้อำนวยการ และญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการผู้จัดการ ออกมาพบปะกับสื่อมวลชนจึงได้รับความสนใจจากผู้สื่อข่าวอย่างคับคั่ง จนที่นั่งภายในห้องมณฑาทิพย์ 3 โรงแรมโฟร์ซีซั่น มีไม่พอรองรับจำนวนคนที่ไปร่วมฟังการแถลงครั้งนี้

หัวข้อที่ถูกกำหนดไว้ในการแถลง นอกจาก การพูดถึงผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา และแผนที่จะดำเนินธุรกิจต่อไปของ บล.บัวหลวงแล้ว ยังมีรายการเสวนาในหัวข้อ "มองตลาดหุ้นไทยครึ่งปีหลัง" โดยทีมนักวิเคราะห์ชื่อดังของบริษัท ซึ่งประกอบด้วย เผดิมภพ สงเคราะห์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานค้าหลักทรัพย์ สุเมฆ จันทราสุริยารัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานค้าหลักทรัพย์สถาบันและงานวิจัย และวิวัฒน์ วิชิตบุญญเศรษฐ ผู้ช่วยกรรมการ ผู้อำนวยการ สายงานบริหารกองทุนส่วนบุคคล ซึ่งปกตินักลงทุน มักได้ยินหรือพบเห็นทั้ง 3 คนทางสื่อวิทยุ และโทรทัศน์ในฐานะ ตัวแทนของบริษัทเป็นประจำ มานั่งวิเคราะห์ให้ผู้สื่อข่าวที่ไปร่วมงานฟังถึงทิศทางของตลาดหุ้นในช่วง 6 เดือนข้างหน้า

ความจำเป็นต้องเปิดตัวสู่สาธารณะของ บล.บัวหลวงครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากแผนหลักของบริษัท คือการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปีนี้ โดยจะเป็นอีกเครือข่ายหนึ่งที่ทำหน้าที่ด้านธุรกิจหลักทรัพย์ให้กับบริษัทแม่ คือธนาคารกรุงเทพ ซึ่งก็มี บล.เอเซีย พลัส เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว 1 แห่ง

บล.บัวหลวง ได้ว่าจ้างบริษัทไอเอฟซีที แอ๊ดไวซอรี่ เป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัท White & case (Thailand) เป็นที่ปรึกษากฎหมาย เพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียน

"ผมเชื่อมั่นว่าแผนธุรกิจที่วางแนวทางไว้จะสามารถบรรลุ ผลสำเร็จภายใน 3 ปี นับจากนี้ เนื่องจากจุดแข็งของ บล.บัวหลวง คือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดทุนของธนาคารกรุงเทพ และมีบริการที่ครบวงจร" ญาณศักดิ์ประกาศบนเวทีแถลงข่าว

ไตรมาสแรกของปีนี้ บล.บัวหลวงมีรายได้รวม 335.5 ล้าน บาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว 449% โดย 85% ของรายได้ มาจากค่านายหน้าในการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยมีลูกค้าเปิดบัญชี ซื้อขายหุ้น 14,000 บัญชี มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 3.49% อยู่อันดับ 6 ของจำนวนโบรกเกอร์ที่มีอยู่ทั้งสิ้น 35 บริษัท

การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ บล.บัวหลวง น่าจะเพิ่มสีสันให้กับหุ้นกลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ในตลาดฯ ซึ่งปัจจุบันมีตัวเลือกให้เล่นอยู่เพียง 4-5 บริษัท

เพียงแต่ต้องไม่เปลี่ยนแผนงานหันไปควบรวมกับ บล.เอเซีย พลัส เพื่อขยายส่วนแบ่งตลาดค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ให้ขึ้นมาแข่งเป็นอันดับ 1 กับ บล.กิมเอ็งไปเสียก่อน