อีกไม่นานบ้านเก่าท่ามกลางพันธุ์ไม้ในเนื้อที่ไร่ครึ่งหลังนี้จะถูกทุบทิ้งและ Silver Heritage Hip คอนโดหรูยูนิตละ 12-44 ล้านบาทจะเกิดขึ้นมาแทนที่

เมื่อต้องขายคอนโดแพงในแผ่นกระดาษบนถนนสุขุมวิท ในช่วงเวลาที่หลายโครงการเปิดตัวไปแล้วนั้น จุดขายของโครงการนี้จึงจำเป็นต้องมีความแตกต่าง

ธนานันท์ กาญจนกิจ ประธานบริหารบริษัทซิลเวอร์ เฮอริเทจ สาวสวยหน้าใหม่วัย 37 ปีของวงการอสังหาริมทรัพย์ บอกว่าเธอตกหลุมรักที่ดินจำนวน 150 ตารางวาแปลงนี้ทันทีที่ได้เห็น และวางแผนสร้างเป็น HIP คอนโดทันทีเหมือนกัน

HIP มีที่มาจากคำว่า Highly Individual Person ซึ่งหมายถึง การใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อคนที่มีไลฟ์สไตล์เป็นของตนเอง

โจทย์ข้อแรกของเธอคือการสร้างคอนโดที่มีเอกลักษณ์ เพื่อการพักผ่อนที่แท้จริงหลังการทำงานแต่ละวัน โดยไม่จำเป็นต้องรอเวลาวันหยุด ซึ่งเป็นความต้องการของลูกค้ากลุ่มที่เป็นนักบริหารชั้นสูง โครงการนี้เลยมีเพียง 8 ชั้น 29 ยูนิต ต่างกับโครงการอื่นโดยทั่วไปเพราะในขนาดพื้นที่โครงการเท่ากันระดับราคาใกล้กัน จำนวนยูนิตจะมากกว่านี้เพื่อผลกำไรสูงสุด

และยังทุ่มทุนเกือบ 10 ล้านบาท ปรับปรุงบ้านหลังนั้นเป็นห้องตัวอย่างสุดหรู เพื่อสร้างจินตนาการให้ลูกค้าได้เห็นภาพกันสุดฤทธิ์ โดยได้รุจิราภรณ์ ล่ำซำ แห่งบริษัท PIA มารับผิดชอบงานตกแต่งภายใน

ถ้าพูดถึงความเป็นมาของธนานันท์ ต้องยอมรับว่าเธอเป็นหน้าใหม่ของวงการอสังหาริมทรัพย์ ก่อนหน้านี้หลังวิกฤติเศรษฐกิจเธอคือเจ้าของบริษัททีเอ็นเค บิสสิเนส คอลซัลแตนท์ บริษัทให้คำปรึกษาทางด้านธุรกิจให้กับกลุ่มลูกหนี้ NPL เคยเป็นผู้จัดการฝ่ายการ ตลาดบริษัทฮานาโกะ คอสเมติกส์ แห่งประเทศไทย และฝ่ายการตลาด บริษัทไอบีเอ็ม จำกัด จบการศึกษาจากวิทยาลัยครูบ้านสมเด็จด้านสื่อสารและประชาสัมพันธ์ เมื่อปี พ.ศ.2530 จบปริญญาตรีด้านสังคมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และปริญญาโทด้านการสื่อสารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เมื่อ พ.ศ.2537

ที่อยู่อาศัยโครงการแรกของเธอจึงจำเป็นอย่างมากที่ต้องดึงมืออาชีพเข้ามาร่วมทีม เช่น บริษัท Rega เป็นสถาปนิก งานอินทีเรียร์ ดีไซน์ให้ PIA ทำ มีบริษัท Rafa Design ดูเรื่องแลนด์สเคป ทางด้านการขาย Sallmanns Group รับผิดชอบโดยมีจีน่า สนิทพิมพ์ เอกชัย เจ้าของบริษัทพิมพลัส พีอาร์ รับงานประชาสัมพันธ์ และช่วยเอาโบรชัวร์ไปแจกเพื่อนฝูงในวงการไฮโซให้ช่วยเข้ามาอุดหนุน

ราคาขายประมาณ 12 ล้านบาทขึ้นไปถึง 44 ล้านบาทนั้น เริ่มต้นที่ขนาดห้อง 148 ตารางเมตรถึง 445 ตารางเมตร ราคาจอง 2 แสนบาท วางดาวน์ 10 เปอร์เซ็นต์ของราคาขาย ผ่อนชำระ 20 เปอร์เซ็นต์ 12 งวด โดยมีธนาคารกรุงไทยสนับสนุนโครงการ

วันนี้เธอลงทุนไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท (ยังไม่รวมค่าก่อสร้าง) ซึ่งต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท เฉพาะราคาที่ดินอย่างเดียวประมาณ 90 กว่าล้านบาท (ราคาที่ดินตารางวา ละ 1.5 แสนบาท) และหากเป็นไปตามแผนที่วางไว้ บ้านหลังนี้จะเริ่มทุบทิ้งในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ เพื่อเร่งงานก่อสร้างให้เสร็จเรียบร้อยปลายปี 2548 เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าจับตามองว่าความ โดดเด่นของจุดขายดังกล่าวจะเป็นที่ถูกใจของผู้มีกำลังซื้อจริงหรือไม่ ท่ามกลางสงครามการแข่งขันที่ร้อนระอุบนถนนสุขุมวิท