|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ กรกฎาคม 2547
|
|
โจทย์ท้าทายที่รออยู่ : ทำอย่างไรจึงจะรักษาการเติบโตในระดับเดิมไว้ได้ต่อไป
5 ปีก่อน ไม่ว่า Singapore Telecommunication 'SingTel' บริษัทของรัฐบาลสิงคโปร์ จะหยิบจะจับอะไรก็ดูผิดที่ผิดทางไปเสียหมด SingTel พ่ายแพ้ให้แก่ Richard Lee มหาเศรษฐีชาวฮ่องกง ในปี 2000 ใน การเสนอซื้อบริษัท Cable & Wireless ของฮ่องกง ปีต่อมาหุ้นของ SingTel รูดลงถึง 38% หลังจากถูกนักวิเคราะห์ ติงว่า SingTel ซื้อ Cable & Wireless Optus บริษัทโทรคมนาคมใหญ่อันดับสองของออสเตรเลียในราคาที่แพงเกินไป ผู้ถือหุ้นยังพากันตั้งคำถามถึงการที่ SingTel เข้าไปลงทุนในบริษัทโทรคมนาคมในประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศ
"5 ปีก่อนเมื่อเราบอกว่า SingTel ตั้งเป้าจะเป็นบริษัทระดับภูมิภาค มีแต่คนหัวเราะเยาะ" CEO Lee Hsien Yang ของ SingTel กล่าว
แต่วันนี้ SingTel กลายเป็นบริษัทโทรศัพท์ใหญ่อันดับสามของเอเชีย ซึ่ง 3 ใน 4 ของยอดขายและ 66% ของกำไรจากการดำเนินการมาจากนอกสิงคโปร์ นอกจากนี้ Optus ที่เคยถูกตำหนิ ว่าซื้อมาแพงก็กำลังเติบโต ส่วนบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำในประเทศกำลังพัฒนาที่ SingTel เข้าไปลงทุนต่างก็มีมูลค่าสูงขึ้น (โปรดดูล้อมกรอบ)
กำไรสุทธิของ SingTel เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าในปีการเงินที่สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 2.64 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งบริษัทได้ปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นถึง 2.4 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่ หุ้นของบริษัทก็พุ่งขึ้นถึง 55% เมื่อสิ้นสุดปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จที่งดงามนี้ อาจยากที่จะเลียนแบบได้อีก เพราะผลกำไร ดังกล่าวรวมถึงรายได้จำนวน 1.95 พันล้าน ดอลลาร์ ที่ได้มาจากการขายหุ้นในบริษัท Belgacom ของเบลเยียม และการไปรษณีย์ ของสิงคโปร์ รวมทั้งธุรกิจสมุดหน้าเหลืองของสิงคโปร์ ถ้าหากหักรายได้ส่วนนี้ไป กำไรจากการดำเนินงานของ SingTel จะเพิ่มขึ้นเพียง 38.2% ซึ่งถึงแม้จะเป็นอัตราที่ยังน่าประทับใจอยู่แต่ก็ไม่ได้สูงลิบลิ่ว
นอกจากนี้ยังเป็นเพราะ SingTel ได้เที่ยวกว้านซื้อหุ้นในบริษัทที่มีอนาคตไกลส่วนใหญ่ในเอเชียมาไว้ในมือเกือบหมดแล้ว อย่างเช่น Bharti Televentures ของอินเดีย และ Telkomsel ของอินโดนีเซีย ทำให้แทบ ไม่เหลือสินทรัพย์ที่น่าสนใจที่จะเข้าลงได้อีก "SingTel กำลังตกเป็นเหยื่อความสำเร็จของตนเอง" นักวิเคราะห์จาก Gartner Group ของสิงคโปร์ชี้ "สิ่งที่ SingTel ต้อง การในตอนนี้คือการวางยุทธศาสตร์ระยะยาว"
SingTel ยังมั่นใจ
แต่ SingTel ยังเชื่อมั่นว่า ตลาดยังมีช่องว่างให้เติบโตได้อีกมาก และยังสามารถ จะเพิ่มผลกำไรได้อีก ด้วยการเปลี่ยนไปมุ่งขยายฐานลูกค้าธุรกิจให้มากขึ้น นอกจาก นี้ SingTel ยังยืนยันจะใช้กลยุทธ์การเติบโต ด้วยการซื้อกิจการ ในการ 'ก๊อบปี้' ความสำเร็จของตนเอง "เราจะรุกเข้าไปในตลาด ที่ยังมีจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในระดับต่ำ" เป็นคำยืนยันจาก Stephen Rotheram ผู้บริหาร SingTel ซึ่งรับผิดชอบเรื่องการลงทุนของบริษัท
SingTel ยังกำลังสำรวจตลาดของประเทศกำลังพัฒนาอย่างปากีสถานและบังกลาเทศ เพื่อมองหาโอกาสสำหรับโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ยังกำลังสนใจจะลงทุนในบริษัท CSL ของฮ่องกง และ Celcom ของมาเลเซีย ซึ่งคาดว่า Telekom Malaysia กำลังจะเสนอขายในปลายปีนี้
ส่วน Optus ก็ยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก ปีที่แล้ว ยอดขายของบริษัทแห่งนี้เพิ่มขึ้น 10.4% สู่ระดับ 4.6 พันล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรจากการดำเนินการเพิ่มขึ้น 27.7% อยู่ที่ระดับ 445 ล้านดอลลาร์ และกำลังลดการพึ่งพิงตลาดผู้บริโภค โดยการเพิ่มฐานลูกค้าในตลาดผู้ใช้ที่เป็นธุรกิจ ซึ่งมีส่วนต่างกำไรสูงกว่า เพราะตลาดลูกค้าองค์กรมีการใช้โทรศัพท์ทางไกลภายในประเทศและต่างประเทศสูงกว่าลูกค้าผู้บริโภค นอกจากนี้ Optus ยังหวังจะเพิ่มบริการใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้า โดยมีแผนจะซื้อ Uecomm บริษัทเคเบิลใยแก้วของออสเตรเลียด้วยเงิน 159 ล้านดอลลาร์
มีเพียงตลาดเดียวที่ SingTel ไม่อาจรักษาความสำเร็จไว้ได้ นั่นคือตลาดในบ้านเกิดของตัวเอง กำไรในสิงคโปร์ของปีที่แล้วลดลง 15.8% และยอดขายตกลง 14.6% ด้วยจำนวนประชากรเพียง 4 ล้านคน และตลาดโทรศัพท์มือถือที่กำลังจะอิ่มตัวด้วยจำนวนผู้ใช้ 85% ทำให้โอกาสที่ SingTel จะเติบโตในตลาดนี้มีน้อย
นอกจากนี้ SingTel ยังจะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ร้อนแรงอีกครั้งในบ้านตัวเอง หากคู่แข่งอย่าง StarHub ซื้อ Mobile One บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือสัญชาติเดียวกัน
CEO Lee Hsien Yang แห่ง SingTel ยังยืนยันว่า จะปกป้องตลาดสิงคโปร์ แต่ยอมรับว่าสัดส่วนรายได้จากตลาดสิงคโปร์ เมื่อเทียบกับรายได้ทั้งหมดของบริษัท คงจะลดต่ำลง ในขณะที่สัดส่วนรายได้ที่มาจากตลาดนอกสิงคโปร์จะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจาก SingTel จะมุ่งเน้นการเป็นบริษัทระดับภูมิภาคให้มากขึ้นอีก และยังคงดำเนินกลยุทธ์การเติบโตแบบเดิมที่เคยทำสำเร็จมาแล้ว
|
|
|
|
|