ทีเอ เป็นกลุ่มทุนสื่อสาร ที่กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด กำลังทำอะไรกับธุรกิจอินเทอร์เน็ต

การไม่ออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องเหล่านี้มากนัก ทำให้เกิดคำถามว่า ทีเอคิดอะไรอยู่กับเครือข่าย และบริการที่อยู่ในมือ ทีเอจะประยุกต์สิ่งที่มีอยู่ โทรศัพท์พื้นฐาน ไฟเบอร์ออพติก โทรศัพท์มือถือ พีซีที เคเบิลทีวี อินเทอร์เน็ต มาใช้ประโยชน์สำหรับโลกใบใหม่นี้ได้อย่างไร

ศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร (ซีอีโอ) บริษัทเทเลคอมเอเซีย คอร์ปอเรชั่น (ทีเอ) ลูกชายคนรอง วัย 33 ปี ของธนินท์ เจียรวนนท์ ผู้ที่ถูกมอบหมายให้กุมกิจการโครงข่ายพื้นฐาน ที่เป็นเส้นเลือดของบริการเหล่านี้คือ ผู้ตอบคำถามเหล่านี้ได้ดีที่สุด

ผู้จัดการ ทีเอกำหนดหรือยังว่า จะเข้าไปมีส่วนในธุรกิจ อี-คอมเมิร์ซอย่างไรบ้าง

ศุภชัย ถ้าถามถึงจุดแข็งของทีเอในเรื่องนี้ เราจะเข้าไปในส่วนของ business to consumer หรือบีทูซี ไม่กระโดดเข้าไปในส่วนของ business to business หรือ บีทูบี เพราะฐานลูกค้า ที่ access อยู่กับบริการของเราเวลานี้ ส่วนใหญ่จะเป็น consumer หรือลูกค้ารายย่อยไม่ใช่องค์กร

ผู้จัดการ ทีเอจะจัดการกับเครือข่าย และบริการที่มีอยู่อย่างไร สำหรับการเตรียมพร้อมสำหรับ โลกใบใหม่ ที่จะเป็นโลกของอินเทอร์เน็ตในอนาคต

ศุภชัย เราจะเป็น multimedia access provider เป็นการรวมเครือข่าย ที่มีอยู่ทั้งหมด โทรศัพท์ พื้นฐาน เคเบิลทีวี พีซีที อินเทอร์เน็ต ให้เป็น 1 บริการลูกค้าไม่ว่าอยู่ ที่ไหน จะอยู่นอกบ้าน อยู่บนรถ เขาจะสามารถใช้การสื่อสารข้อมูล หรือ รับข้อมูล entertainment นี่คือ สิ่งที่ทีเอจะต้องทำ เราจะโฟกัส ที่ลูกค้า ไม่ใช่เทคโนโลยี เราไม่สนใจว่า จะเป็นเทคโนโลยีอะไร เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทีเอจะไม่จำกัดอยู่กับเทคโนโลยีตัวใดตัวหนึ่ง เรามีเทคโนโลยีทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น brodband narrowband wireline และเราจะนำบริการเหล่านี้มาให้บริการแก่ลูกค้าในลักษณะของ one stop shopping ให้ลูกค้าได้เลือก ลูกค้าเขาไม่รู้หรอกว่าเทคโนโลยีอะไร แต่เขาจะได้รับบริการอะไรได้บ้าง ดังนั้น สิ่งที่ทีเอต้องทำก็คือ ไม่ว่าลูกค้าจะไปอยู่ ที่ไหน ใช้อุปกรณ์อะไร เครือข่ายอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์พื้นฐาน โทรศัพท์มือถือ พีซีที เคเบิลทีวี เขาจะต้องมี common access ที่จะเข้าไปรับบริการทุกอย่างได้เหมือนๆ กัน

ผู้จัดการ ทีเอจะทำให้แนวคิดเหล่านี้เป็นรูปเป็นร่างได้อย่างไร

ศุภชัย ในส่วนของอินเทอร์เน็ต เราจะเปิดบริษัทใหม่ขึ้นมา เพื่อให้บริการในสิ่งที่เรียกว่า near to free internet access หรือบริการที่ใกล้เคียงกับการให้ฟรีอินเทอร์เน็ต แต่ยังไม่ถึงกับให้ฟรี เพราะการทำธุรกิจต้องมีต้นทุนในเรื่องของค่าเช่าวงจรต่างประเทศ ที่ยังแพงอยู่

วิธีการของเราก็คือ จะให้ลูกค้าเข้าสู่อินเทอร์เน็ตได้ง่าย ไม่ว่าลูกค้านั้น จะเป็นโทรศัพท์พื้นฐาน พีซีที โทรศัพท์มือถือ เคเบิลทีวี จะสามารถ access เข้าสู่อินเทอร์เน็ตได้ทันที ไม่ต้องไปสมัครเป็นสมาชิกไอเอสพี แต่ทีเอจะทำเป็นบริการเสริม ที่ให้ลูกค้าเหล่านี้เสียค่าบริการเป็นรายเดือน แต่จะเสียราคา ที่ถูก อยู่ระหว่างคิดกันอยู่ว่าจะคิดค่าบริการในอัตราเท่าใด

เมื่อลูกค้า access เข้ามาแล้ว แทน ที่จะเข้าไป ที่ yahoo หรือเว็บอื่นๆ จะต้องมา ที่เว็บท่า portal site ที่ทีเอจะทำขึ้น เพื่อ ที่จะเป็นหน้าด่าน ก่อน ที่จะไปยังเว็บไซต์อื่นๆ สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหมือนกับการรวม เอโอแอล และยาฮู เข้าด้วยกัน

ตัวอย่างที่ทำไปแล้วก็คือ พีซีที ลูกค้า ที่ใช้พีซีที ที่จะสามารถใช้อินเทอร์เน็ต โดยที่ไม่ต้องสมัครเป็นสมาชิกจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่จะสามารถ access เข้าสู่อินเทอร์เน็ตได้ทันที ผ่านบริการเอเซีย อินโฟเน็ต แต่จะเสียค่าบริการเป็นแอร์ไทม์ในการใช้พีซีทีปกติ นี่ก็คือ ตัวอย่างหนึ่ง

และนี่ก็คือ สาเหตุที่เราต้องแยกออกมาเป็นบริษัทต่างหาก เพราะ portal web นี้ จะเป็นการร่วมมือกันกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ และเจ้าของ content ต่างๆ ว่าจะมาร่วมมือ และแบ่งผลประโยชน์กันอย่างไร เวลานี้เราเองก็ยังไม่เห็นว่า มี web site ไหนในเมืองไทย ที่โด่งดังแล้ว อยู่ได้ตลอด มีแต่ดังขึ้นมาพักหนึ่งแล้วก็เงียบ

ในส่วนของเราจะมี content ของเราเองด้วย เช่น ยูบีซีจะเป็น content entertainment รูปแบบหนึ่ง ส่วนทีเอจะต้องมี content ของตัวเอง แต่เราจะเลือกทำในบางเรื่อง ที่เราถนัด แต่ต้องศึกษาก่อนว่า จะเน้นในเรื่องของอะไรบ้าง

ถาม แผนการระดมทุนในตลาดทุนระดับ International

ศุภชัย ตลาดทุนต่างประเทศเป็นสิ่งที่ทีเอให้ความสำคัญ และมีแผนที่จะเข้าไปในตลาดระดับนี้ เพราะเป้าหมายระดมทุนในตลาดระดับโลก ไม่ใช่ เพื่อประโยชน์ในการระดมทุน ในตลาดระดับโลกเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการเข้าไปมีส่วนร่วม (tap) ในเรื่องของเทคโนโลยี และบุคลากร ที่จะเป็นองค์ประกอบ ที่สำคัญสำหรับการทำธุรกิจในวันหน้า ซึ่งเราจำเป็นต้องพาตัวเองเข้าไปอยู่ในระดับ standard ให้ได้ เพราะโลกทุกวันนี้มันเป็น Globalization ทุกอย่างจะเชื่อมโยงถึงกันหมด ถ้าไม่แย่จริงๆ เราก็คงจะเข้าไปมีส่วนในตลาดทุนระดับโลกได้ภายในปีนี้