Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มิถุนายน 2541








 
นิตยสารผู้จัดการ มิถุนายน 2541
วอลโว่ ลดขนาดกิจการ รับมือวิกฤติเศรษฐกิจ             
 


   
search resources

สวีเดนมอเตอร์ส, บมจ.
Auto Dealers




ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรงในรอบนี้เป็นเหตุให้กิจการ ต่างๆ ต้องปรับตัวกันขนานใหญ่ ซึ่งวอลโว่ก็เริ่มดำเนินการลดขนาดองค์กรด้วยการลดจำนวนศูนย์บริการ ในกรุงเทพฯ โดยปิดไป 5 สาขา ลด จำนวนพนักงานลงประมาณ 80 คน โดยสาขาที่ปิดไปนั้นเป็นสาขาที่มีผลการดำเนินงานขาดทุนและมีลูกค้าน้อย คือ พหลโยธิน, สุขุมวิท 39, รังสิต, แฟชั่น ไอส์แลนด์ และสุขาภิบาล (ซึ่งตอนนี้เป็นแผนกรถใช้แล้ว) คงเหลือปัจจุบัน 8 แห่ง โดยปกติลูกค้าวอลโว่จะมีอัตราการเข้าใช้ศูนย์บริการปีละ 3-4 ครั้ง

มร.เจฟฟรีย์ โรว์ ผู้อำนวยการบริหารอาวุโส และผู้จัดการทั่วไป บริษัท สวีเดน มอเตอร์ส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "จำนวนสาขา 8 แห่งที่มีอยู่ในตอนนี้ถือว่าเหมาะสมกับสถานการณ์แล้ว ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายสาขาทั้งหมดคิดเป็น 10 ล้านบาทต่อเดือน"

นอกจากการลดศูนย์บริการลงแล้ว ก็มีการเพิ่มจำนวนช่างเครื่อง และการจัดการเพื่อให้มีประสิทธิ ภาพสูงสุดในศูนย์บริการ กล่าวคือ ในด้านช่าง ปัจจุบันทุกสาขาจะมีจำนวนช่างครบแล้ว

ด้านการปรับปรุงประสิทธิภาพ การทำงานภายในศูนย์บริการ มี 2 จุดคือการวางแผนที่ศูนย์บริการ จุดที่สองคือการลดจำนวน การสั่งซ่อมซ้ำหรือ repeat job เพราะปัจจุบันประสิทธิ ภาพที่ศูนย์บริการมีไม่ถึง 70% จะปรับปรุงให้เป็น 80% และ จะลดจำนวน repeat job ลง 50%

การทำเช่นนี้จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพศูนย์บริการขึ้นได้ 20% และคาดว่าภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ วอลโว่จะสามารถทำประสิทธิภาพได้สูงสุดเท่าที่จะทำได้

ทางด้านราคาอะไหล่ สวีเดน มอเตอร์ส มีนโยบายในการปรับราคาอะไหล่โดยใช้ระบบ market price เข้ามาดำเนินการ นั่นคือ จะมีการเปรียบเทียบราคาอะไหล่ของรถยนต์วอลโว่ กับรถยนต์คู่แข่งจากค่ายยุโรปอื่นๆ คือเบนซ์ บีเอ็มดับบลิว และออดี้ เพื่อปรับราคาให้ใกล้เคียงกับอะไหล่ของบริษัทคู่แข่งเหล่านี้ และยังมีการเพิ่มจำนวนอะไหล่ในโกดังสินค้า (Central Warehouse) โดยมีการสั่งอะไหล่เข้ามาล็อตใหญ่มูลค่า 100 ล้านบาท โดยขนส่งทางเครื่องบิน เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนอะไหล่รถอยู่ในช่วงที่ผ่านมา

มร.โรว์ ให้การรับรองว่า "จะไม่มีปัญหาการขาด แคลนอะไหล่ของวอลโว่อีกในปัจจุบัน"

ทั้งนี้วอลโว่มีขีดความสามารถในการให้บริการหรือ service degree ในอัตราแค่ 70% ในช่วงต้นปีด้วยสต็อก มูลค่า 140 ล้านบาท แต่ในตอนนี้ได้มูลค่าสต็อกเพิ่มขึ้นเป็น 185 ล้านบาท ทำให้สามารถเพิ่มอัตราการบริการได้เป็น 85% แต่หากจะเพิ่มอัตรานี้ให้เป็น 90% นั้นต้องเพิ่มมูลค่าสต็อกเป็น 200-210 ล้านบาท

ตัวเลขที่จะดูประสิทธิภาพในเรื่องการให้บริการอะไหล่ คือดู turnover หรือจำนวนรอบของการหมุนของอะไหล่ ซึ่งตอนนี้มีอยู่ 3.75 รอบต่อปี (หากรอบหมุนช้าแสดงว่ามีสต็อกอะไหล่มาก หากรอบหมุนเร็วแสดงว่ามีสต็อกอะไหล่น้อย)

นอกจากนี้ วอลโว่ยังคงโครงการที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ด้วยการจัดกิจกรรมสนับสนุนลูกค้า และการติดตามลูกค้าอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ซึ่งในเดือนกันยายนศกนี้ จะมีโครงการ "Volvo Care" ซึ่งสร้างประโยชน์หลายอย่างแก่ลูกค้าวอลโว่ เช่น มีบัตรเครดิต การประกันภัย บริการฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงทั่วประเทศ นอกจากนี้ก็จะมีการร่วมมือกับสายการบิน ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงแรม เพื่ออำนวยความสะดวกและการรับส่วนลดเมื่อใช้บริการ ซึ่งรายละเอียด ในเรื่องนี้จะติดตามมา

กิจกรรมอื่นๆ เพื่อสร้างและกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าก็จะมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เช่น กีฬา แรลลี่ กอล์ฟ เทนนิส แนะ นำ การบำรุงรักษารถยนต์ เป็นต้น

มร.โรว์เชื่อมั่นว่า โครงการ วอลโว่ แคร์ของเขาจะมีประโยชน์อย่างมากสำหรับลูกค้าวอลโว่

สวีเดน มอเตอร์ส ได้ขยายการผลิตสินค้าครอบคลุมในเรื่องของผลิตภัณฑ์รถยนต์ด้านอื่นๆ ด้วย ซึ่งสินค้าบางตัวได้ออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนเมษายนแล้ว เช่น น้ำมันเครื่อง ต่อไปจะเป็น น้ำมันเบรก, Coolant, น้ำมันเกียร์ รวมถึง Volvo car care products ต่างๆ

ในส่วนของน้ำมันเครื่องนั้น สามารถทำยอดขายได้เดือนละประมาณ 8-9 ล้านบาท

ในการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดนั้น วอลโว่ได้ตั้งศูนย์ Hot line เพื่อให้บริการสอบถามตอบปัญหาต่างๆ และรับฟังข้อแนะนำ ซึ่งตอนนี้ มร.โรว์กล่าวว่ามีลูกค้าโทรฯ เข้ามาใช้บริการเฉลี่ยวันละ 15 รายแล้ว

เขากล่าวว่า "ผมมั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ ทั้งด้านของศูนย์บริการและการสนับ สนุนลูกค้า จะทำให้สวีเดนมอเตอร์ส สร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น"

การขยายตัวของสินค้าในสายนี้ มร.โรว์เน้นว่าเป็นไปในลักษณะของ one-stop shopping เพื่อให้ลูกค้าได้ของและบริการที่ครบถ้วนในจุดเดียว เป็นประโยชน์ในแง่ความสะดวกสบายของลูกค้า

ด้านรายงานตัวเลขยอดขาย ปรากฏว่าเมื่อสิ้นไตรมาส แรกของปี ตัวเลขจำหน่ายรถยนต์วอลโว่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย "อัตราส่วนที่ลดลงไปนั้นเป็นไปในระดับใกล้เคียงกับอัตราลดลงของตลาด เป็นการลดในลักษณะที่ไม่มีอะไรผิดปกติ เป็นไปตามสภาพตลาด อย่างไรก็ดี คาดว่ายอดขายเมื่อสิ้นปี จะทำได้ประมาณ 1,200 คัน"

ทั้งนี้ตัวเลขการจำหน่ายรถยนต์ในประเทศมีอัตราลดลงประมาณ 75%

ต่อประเด็นที่เวลานี้ บริษัทรถยนต์แม่ในต่างชาติเริ่มเข้ามาดูแลตลาดรถของตัวในประเทศมากขึ้น และหลายรายได้เข้ามาซื้อหุ้นร่วมทุน เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบางยี่ห้อก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่กรณีของวอลโว่นั้น เนื่อง จากมีการถือหุ้นในบริษัท สวีเดน มอเตอร์ส อยู่แล้ว บริษัทรถยนต์แม่จึงยังไม่มีท่าทีที่จะเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มเพื่อเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่แต่อย่างใด

นอกจากนี้ หากภาวะตลาดไม่ได้เลวร้ายไปกว่าที่เกิดขึ้นในไตรมาส 1 และ 2 แล้ว การปรับตัวของวอลโว่ครั้งนี้จะสามารถทำให้สวีเดน มอเตอร์สดำเนินธุรกิจได้ตามเป้าหมาย

มร.โรว์กล่าวว่า "เป้าหมายของปี ค.ศ. 2000 คือการเป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้านยอดขาย และการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าในกลุ่มตลาดรถยนต์ยุโรป ซึ่งต้องมีส่วนแบ่งการตลาดให้ได้ 30%" ปัจจุบันวอลโว่มีส่วนแบ่งอยู่ในอัตราประมาณกว่า 20%

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us