Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2541








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2541
LEONICS สร้าง UPS ขายทั่วโลก             
 


   
search resources

ลีโอนิคส์, บจก.




เมื่อมีเหตุการณ์ไฟฟ้าขัดข้องไม่ว่าจะเป็นไฟเกิน ไฟตก ไฟดับ ย่อมส่งผลกระทบไปสู่อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าโดยตรง โดยเฉพาะมีผลกระทบต่อระบบคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์เหล่านี้สามารถป้องกันได้ โดยการใช้เครื่องสำรองไฟฟ้าแบบต่อเนื่อง หรือเรียกกันติดหูว่า UPS (Uninterruptible Power Supply) โดยอุปกรณ์ดังกล่าวจะทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่ ที่ติดตั้งอยู่ระหว่างแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้าหลักกับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ

ในอดีต UPS คืออุปกรณ์สิ้นเปลืองในความรู้สึกของคนทั่วไป ประกอบกับราคายังอยู่ในระดับสูงพอสมควร จึงทำให้ความนิยมในการใช้อยู่วงแคบๆ เท่านั้น แต่ในขณะนี้ UPS คืออุปกรณ์เสริมที่ขาดไม่ได้สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าโดยเฉพาะระบบคอมพิวเตอร์

ปัจจุบัน UPS ที่จำหน่ายกันทั่วไป ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ เช่น Merlin Gerin, APC, DETEC, SIEMENT, VICTRON ทำให้แบรนด์เนม UPS ที่ผลิตโดยคนไทยล้วนๆ ถูกบดบังรัศมีไปหมด สาเหตุหลักๆ มาจากการพัฒนายังไม่ถึงขั้นและไม่ต่อเนื่องเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ที่สำคัญผู้บริโภคยังนิยมซื้อ UPS ที่มาจากต่างประเทศกันอยู่

อย่างไรก็ตามมีวิศวกรที่เป็นคนไทยกลุ่มหนึ่งที่ไปศึกษา ณ มหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นำโดย เดโช อภิญญาลาวัลย์ ซึ่งหลังจากกลับมาประเทศไทยได้เข้าทำงานเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ บมจ.ล็อกซเล่ย์ จนกระทั่งมีแนวความคิดอยากจะก่อตั้งบริษัทผลิต UPS จึงได้ชวนเพื่อนวิศวกร 5 คน มาร่วมวิจัย ออกแบบ พัฒนา ตลอดจนควบคุมการผลิตเอง ในที่สุดบริษัทผลิต UPS ชื่อ บริษัท ลีโอนิคส์ จำกัด จึงได้ก่อกำเนิดขึ้นในปี 2534

"ในช่วงนั้นเราคิดว่าแต่ละคนต่างมีประสบการณ์กันมามากแล้ว จึงคิดว่าควรทำอะไรได้บ้าง โดยเฉพาะด้าน power electronics เพราะน่าจะมีอนาคตไกลและ UPS เริ่มแพร่หลายมากขึ้น ซึ่งใช้เวลาในการวิจัยประมาณ 3 ปี" สำเริง เกรียงปรารถนา ประธานกรรมการ ลีโอนิคส์ กล่าว ถึงจุดเริ่มต้นของบริษัทฯ

โรงงานแห่งแรกตั้งอยู่แถวบุคคโล โดยช่วงแรกๆ มีทีมงานวิศวกร 6 คน พนักงานอีก 4 คน ทำการผลิต UPS ประมาณ 100 เครื่องต่อเดือน จากนั้นก็นำไปจำหน่ายในสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะที่พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า

"โชคดีที่ยุคนั้นเราผลิตมาเท่าไหร่ก็ขายได้หมดเนื่อง จากการแข่งขันไม่รุนแรงและสินค้าจากต่างประเทศยังไม่เข้ามามากเช่นในปัจจุบัน"

หลังจากนั้นเมื่อปี 2536 ความต้องการ UPS มีมากขึ้น ลีโอนิคส์ จึงได้ย้ายฐานการผลิตทั้งหมดมาที่นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ และในปี 2538 โรงงานแห่งใหม่ได้เปิดดำเนินการผลิต UPS ด้วยเงินลงทุน 50 ล้านบาท มีกำลังการผลิต 10,000 เครื่องต่อเดือน และสามารถขยายกำลังการผลิตได้สูงถึง 30,000 เครื่องต่อเดือน

ปัจจุบัน UPS ภายใต้ชื่อ ลีโอนิคส์ สามารถเข้าไปแย่งส่วนแบ่งตลาดกับแบรนด์เนมต่างประเทศได้มากขึ้นแล้ว แม้ว่าสำเริงจะยอมรับว่าชื่อเสียงของลีโอนิคส์จะยังไม่เป็นที่คุ้นหูมากนัก แต่ถ้าเปรียบเทียบด้านราคาและคุณภาพแล้วลีโอนิคส์แข่งขันได้

"ถ้าเทียบราคาขายแล้วเราขายถูกกว่ายี่ห้ออื่นประมาณ 40-50% เพราะฐานการผลิตเราอยู่ใกล้ตลาด ด้านส่วนแบ่งตลาดเรามีประมาณ 50% มีทั้งลูกค้าประเภทโรงงานและลูกค้าตามบ้านทั่วๆ ไป" สำเริง กล่าว

อย่างไรก็ตามท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังกระหน่ำประเทศไทยในตอนนี้ ส่งผลให้ลีโอนิคส์ มีอาการซวนเซอยู่พอสมควร โดยเฉพาะยอดขาย เรื่องนี้สำเริงเล่าว่า ปี 2539 คือยุคบูมสุดๆ ของลีโอนิคส์ ยอดขายดีที่สุดตั้งแต่ตั้งบริษัทฯ มาถ้าคิดเป็นเม็ดเงินปรากฏว่า ยอดขายเกิน 200 ล้านบาท แต่เมื่อผ่านช่วงนั้นไปยอดขายเริ่มหดหายไปเรื่อยๆ

"ปีที่ผ่านมายอดขายประมาณ 200 ล้านบาท ส่วนปีนี้เราคาดว่ายอดขายคงจะไม่ขยายมาก เนื่องจากสภาพตลาด UPS หายไปประมาณ 50% ในขณะที่ผู้แข่งขันยังมีเท่าเดิมการแข่งขันจึงมีค่อนข้างสูง แต่ไม่หนักใจเพราะเราได้เปรียบด้านราคา"

ส่งผลให้ลีโอนิคส์ต้องหาทางออกด้วยการเน้นส่งออกมากขึ้น จากปีที่ผ่านมาส่งออกไปจำหน่ายในสัดส่วนประมาณ 20% แต่ขณะนี้สามารถเพิ่มสัดส่วนการส่งออกได้ถึง 30% โดยมีตลาดที่สำคัญ ได้แก่ ลาว เวียดนาม พม่า มาเลเซีย ฟิลิปปินส์

"เรายังมีแผนจะรุกให้ครอบคลุมเอเชียทุกประเทศ ล่าสุดได้รับเป็นที่ปรึกษาให้กับนักลงทุนญี่ปุ่นที่จะเข้าไปสร้างโรงานในพม่า" สำเริง กล่าว

อีกทั้งแผนการระยะยาวของลีโอนิคส์ในปี 2543 คือ จะนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ไปจำหน่ายในแถบยุโรปและอเมริกาให้ได้ ปัจจุบันกำลังเจรจากับตัวแทนจำหน่ายในเยอรมนี อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ เพราะแผนการตลาดของลีโอนิคส์ในต่างประเทศ คือ เมื่อมีผลิตภัณฑ์จำหน่ายในประเทศไหนจะต้องมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศนั้น

สำหรับแผนการตลาดในประเทศไทย ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ตั้งบริษัทลูกขึ้นมา 2 บริษัท คือ บริษัท ลีโอนิคส์ อิเล็คทรอนิกส์ จำกัด ทำหน้าที่ด้านการตลาดและจัดจำหน่ายทุกชนิด เช่น UPS อุปกรณ์รักษาระดับแรงดันและปรับคุณภาพไฟฟ้า (LEONICS Stabilizer) อุปกรณ์ ป้องกันแรงดันสูงชั่วขณะจากสายส่ง ฟ้าผ่า (LEONICS Protector) หรืออุปกรณ์ป้องกันและแก้ปัญหาทางไฟฟ้า เฉพาะการใช้งาน (Industrial power protection products) และบริษัท ลีโอนิคส์ เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด ทำหน้าที่ติดตั้งและให้บริการหลังการขาย

"ขณะนี้เรามีศูนย์บริการ 2 แห่ง และกำลังเปิดอีก 6 แห่งทั้งชลบุรี ระยอง เชียงราย หาดใหญ่ และภูเก็ต ซึ่งเราตั้งเป้าไว้ว่าจะมีศูนย์บริการ 12 แห่งทั่วประเทศ นอกจาก นี้ยังมีแผนจะเปิดในต่างประเทศด้วย เช่น ลาว เวียดนาม ฟิลิปปินส์" สำเริงกล่าว

คงจะต้องติดตามต่อไปว่าผลิตภัณฑ์ UPS ตระกูลลีโอนิคส์ ซึ่งเป็นน้องใหม่ในวงการจะก้าวไปไกลได้ขนาดไหน เพราะปัจจุบันปัญหาทางด้านเศรษฐกิจเริ่มส่งผลกระทบไปทั่วทุกมุมโลกแล้ว

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us