Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ สิงหาคม 2541








 
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2541
ไทยพาณิชย์ลุ้นสินเชื่อเคหะสุดตัว             
 


   
search resources

ธนาคารไทยพาณิชย์, บมจ.




เป็นเพราะธนาคารไทยพาณิชย์มีพอร์ตของสินเชื่อเคหะซึ่งใหญ่ที่สุด เมื่อเทียบกับบรรดาแบงก์พาณิชย์ด้วยกัน คือเป็นตัวเลขที่สูงถึง 90,000 ล้านบาท มีลูกหนี้ต้องคอยดูแลประมาณ 120,000 ราย ในขณะเดียวกันทางธนาคารเองเคยหวังไว้ว่าปี 2541 นี้ สินเชื่อเคหะนี้ควรจะมีตัวเลขที่เติบโตขึ้นประมาณ 16-17% แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นก็คือระยะเวลาจากต้นปีจนถึงกลางปีนั้น ตัวเลขของการปล่อยสินเชื่อเคหะต่อเดือนจะประมาณ 1,000-1,200 ล้านบาทเท่านั้นเอง ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่ได้เป็นไปตามเป้าเลยแม้แต่น้อย ไม่มีอัตราการเติบโตแต่อย่างใด

"6 เดือนนี้เราปล่อยสินเชื่อเคหะใหม่ไปประมาณ 6,000 กว่าล้านบาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงสิ้นปีแล้วเป็นบวกเพียง 400-500 ล้านบาท เพราะส่วนหนึ่งมีการชำระหนี้คืน มีปิดบัญชีของใหม่ได้มาก็ได้แค่นี้ ซึ่งนับว่าน้อยแต่เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น" นะเพ็งพาแสง กฤษณามระ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่สายงานลูกค้าบุคคลกล่าวกับ "ผู้จัดการรายเดือน" และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในจำนวน 120,000 รายนี้มีประมาณ 20% ที่เป็นลูกหนี้ที่กำลังมีปัญหาต้องส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลช่วยเหลือเป็นพิเศษ

วิธีการต่างๆ เพื่อหาลูกค้ารายใหม่ รวมทั้งการช่วยเหลือลูกค้ารายเก่า เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในเรื่องการผ่อน จึงจำเป็นต้องเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อจะได้ไม่ต้องตั้งเงินสำรองหนี้สูญมากนัก

เริ่มตั้งแต่การจัดทำโครงการตลาดบ้านพร้อมอยู่โดยทางธนาคารได้รวบรวมบ้านที่ยึดจากลูกค้า และบ้านที่เสร็จแล้วแต่ลูกค้าผ่อนต่อไม่ไหวเอามาฝากขาย มาดำเนินการเป็นตัวแทนในการขายให้ โดยครั้งแรกได้จัดไปแล้วเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2541 ที่ผ่านมา ที่ตึกไทยพาณิชย์ปาร์ค ถนนรัชดา ซึ่งครั้งแรกนั้น ทางแบงก์มีบ้านที่ยึดมาประมาณ 90 หลัง และประสบผลสำเร็จพอสมควรโดยเฉพาะที่อยู่อาศัยในย่านฝั่งเหนือของกรุงเทพฯ เช่นย่านดอนเมือง รังสิต และหากไม่มีอะไรผิดพลาดในเดือนสิงหาคม 2541 นี้ งานตลาดบ้านพร้อมอยู่ครั้งที่ 2 ก็จะจัดขึ้นที่จังหวัด เชียงใหม่

ในการจัดงานที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น นอกจากเป็นการขายโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่แล้วทางแบงก์ก็หวังผลโดยอ้อม ว่าจะได้นำเอาโครงการแถวชายทะเลในภาคกลาง เช่นที่พัทยา ระยองขึ้นไปขายด้วย เพราะคนเชียงใหม่ที่มีกำลังซื้อนั้นต้องการได้บ้านพักชายทะเลไว้เป็นที่พักผ่อน รวมทั้งที่โครงการที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ เพื่อเสนอขายให้กับผู้ที่ต้องการซื้อให้บุตรหลานอยู่อาศัยเพื่อการศึกษา

หลังจากนั้น โครงการตลาดนัดพร้อมอยู่จะกลับมาจัดในกรุงเทพฯ และปริมณฑลอีกครั้ง คราวนี้จะเป็นการจัดพร้อมกันทั้ง 4 มุมเมืองในวันเดียวกัน โดยร่วมมือกับทางธนาคารไทยพาณิชย์สาขาต่างๆ ในการจัดงาน ส่วนเงื่อนไขพิเศษเพื่อเป็นการกระตุ้นลูกค้าในการที่จะตัดสินใจซื้ออีกทางก็คือ จะมีการคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในราคาพิเศษต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยปกติประมาณ 5% สำหรับระยะเวลา 2-3 ปี แรก

โครงการกู้เงินกู้ก่อนการซื้อบ้านเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ทางธนาคารได้จัดขึ้น โดยร่วมมือกับบริษัทของผู้ประกอบการเข้าไปวิเคราะห์สินเชื่อให้ลูกค้าก่อนการซื้อบ้าน ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ผู้ประกอบการเองก็จะได้ลูกค้าที่มีกำลังซื้อแน่นอน ส่วนแบงก์เองก็จะได้ลูกค้าที่มีคุณภาพ บริษัทแลนด์แอนด์ เอ็าส์ จำกัด มหาชน เป็นบริษัทแรกที่เข้ามาทำโครงการนี้ร่วมกับทางไทยพาณิชย์ ซึ่งนะเพ็งพาแสง ยืนยันตัวเลขว่าในระยะเวลาของการจัดงาน 2 วัน มีลูกค้าแสดงความสนใจที่จะซื้อบ้าน และยื่นเรื่องต้องการสินเชื่อทั้งหมดประมาณ 400 ราย ซึ่งปรากฏว่าหลังจากผ่านการวิเคราะห์แล้วทางแบงก์สามารถอนุมัติได้ทันทีในวันงานนั้นเลย 141 ราย อีก 4 รายไม่ผ่านกฎเกณฑ์ ส่วนอีกประมาณ 60% ที่เหลือ กำลังรอความพร้อมของหลักฐานต่างๆ และจะค่อยๆ ทยอยอนุมัติสินเชื่อให้

ในโครงการเงินกู้ก่อนซื้อบ้านนี้ ทางธนาคารมีแผนที่จะจัดร่วมกับบริษัททางด้านที่อยู่อาศัยอีกหลายบริษัทที่กำลังรอจ่อคิวอยู่ก็มี เช่น บริษัทมั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน), บริษัทวังทองกรุ๊ป, บริษัทคลอลิตี้เฮ้าส์จำกัด (มหาชน) ซึ่งการที่จะดำเนินการกับโครงการใดก่อนได้นั้น ขึ้นอยู่กับความพร้อมในข้อมูลของลูกค้า ซึ่งจะนำมาเก็บในคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ร่วมกัน ซึ่งขั้นตอนนี้จะต้องใช้เวลาในการทำพอสมควรทีเดียว

นะเพ็งพาแสงอธิบายว่า ที่ดำเนินการกับบริษัทแลนด์ แอนด์เฮ้าส์ก่อนโครงการอื่น เป็นเพราะเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่มีโครงการบ้านและที่อยู่อาศัย ที่กำลังก่อสร้างหลายโครงการในพื้นที่หลายจังหวัด แต่กว่าจะทำข้อมูลเสร็จก็ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6-7 เดือนเช่นกัน

ส่วนมาตรการทางด้านช่วยเหลือลูกค้าที่สำคัญก็คือทางธนาคาร จะลดดอกเบี้ยเงินกู้เคหะลงประมาณ 1% สำหรับลูกค้าที่กู้เงินซื้อบ้านในราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งลูกค้าในกลุ่มนี้มีอยู่ประมาณ 16-17% ของวงเงิน 90,000 ล้านบาท ส่วนวิธีการที่จะผ่อนผันให้เปลี่ยนจากซื้อเป็นเช่าเหมือนกับทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ทำนั้น นะเพ็งพาแสงยืนยันว่า ทำไม่ได้ เพราะผิดหลักเกณฑ์ของธนาคารพาณิชย์ สวนทาง ธอส. ทำได้เพราะไม่ได้อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์นี้ นอกจากเป็นเรื่องที่ต้องขอผ่อนผันเป็นรายๆ ไป แต่ก็จะยุ่งยากมากเพราะทางธนาคารมีลูกค้าอยู่เป็นจำนวนมาก

ก็ได้แต่หวังไว้ว่าตัวเลขสินเชื่อบุคคลจะเพิ่มขึ้นในปีต่อๆ ไปเพราะที่ผ่านมาหลายโครงการมีปัญหาทางด้านการเงินต้องชะลอการก่อสร้างออกไป ทำให้การโอนต้องล่าช้าไปด้วย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us