โทชิคาซึ โมริ เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัทชาร์ป เทพนคร เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา พร้อมกับการประกาศแผนการรุกใน ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2543 ที่มุ่งหมายจะผลักดันยอดขายให้เพิ่มขึ้น 20% จากปีที่ผ่านมา

การวางเป้าหมายเช่นนี้ผูกพันอยู่ กับการวางน้ำหนักไว้ ที่ผลิตภัณฑ์ดิจิตอล และเครือข่าย ซึ่งเขาเชื่อว่า ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ เป็นสินค้า ที่ชาร์ป มีความแข็งแกร่ง และสามารถแข่งขันได้ เพราะชาร์ปได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เหล่านี้มานานกว่า 25 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีจอภาพ LCD ซึ่งกำลังขยายตัวเป็นส่วนหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายชนิด

"ในอดีตผู้บริโภคอาจมีทัศนะเกี่ยวกับสินค้าในกลุ่มนี้ในลักษณะ ที่เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ที่เกินเลยจากความจำเป็น แต่ในยุคสมัยปัจจุบัน ที่วิถีชีวิตสมัยใหม่ผูกพันกับสื่อดิจิตอล และอินเทอร์เน็ตมากขึ้นนั้น สิ่งเหล่านี้จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น"

หากพิจารณาจากประวัติ และบทบาท ที่ผ่านมาของโทชิคาซึ โมริ จะไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยว่าเพราะเหตุใด เขาจึงมีความเชื่อเช่นนั้น

โทชิคาซึ โมริ ซึ่งปัจจุบันอายุ 47 ปี เริ่มงานกับชาร์ป คอร์ปอเรชั่น ตั้งแต่ปี 2519 ก่อน ที่ต่อมาจะดูแลผลิตภัณฑ์เกี่ยว เนื่องกับระบบสารสนเทศ และระบบเอกสาร เป็นเวลานานนับ 10 ปี ตั้งแต่ปี 2520-2529

ในปี 2529-2536 เขาร่วมงานกับบริษัทชาร์ป อิเล็กทรอนิกส์ ประเทศอังกฤษ ในตำแหน่งรองผู้จัดการทั่วไป กลุ่มระบบสารสนเทศ ก่อน ที่จะกลับมาประจำการในญี่ปุ่นอีกครั้ง โดยดูแลธุรกิจลูกข่ายระบบจีเอสเอ็มในยุโรป และเอเชีย ระหว่างปี 2537-2538 และมีบทบาทในการสรุปผลสัญญาความร่วมมือระหว่างชาร์ป และอัลคาเทล รวมถึงผลิตภัณฑ์ลูกข่ายจีเอสเอ็ม และพีดีเอ ในช่วงปี 2538-2539

ในช่วงปี 2539-2541 เขามีส่วนร่วมในโครงการพีซีที ที่ชาร์ปร่วมกับ เทเลคอมเอเซีย ในประเทศไทย ก่อน ที่จะขยับไปรับผิดชอบธุรกิจเครื่องโทรสาร ในเอเชีย โอเชียเนีย จีน และตะวันออกกลาง โดยตำแหน่งสุดท้ายก่อน ที่จะมารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของชาร์ป เทพนครนั้น เขาดำรงตำแหน่งผู้จัดการแผนกทั่วไป ส่วนการขาย และการตลาด รับผิดชอบผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ และจอแอลซีดีสำหรับพีซีของชาร์ป

"ผู้บริโภคจะไม่พึงพอใจอยู่เพียง การดูหรือฟังอีกต่อไป หากแต่พวกเขาต้องการที่จะเชื่อมโยงเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย ซึ่งผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจำต้องสามารถ ที่จะต่อพ่วงเข้ากับผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อตอบสนองวิถีชีวิต และธุรกิจรูปแบบใหม่นี้ด้วย"

อย่างไรก็ดี โทชิคาซึ โมริ ซึ่ง เชื่อว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่น่าสนใจ และมีศักยภาพ ยอมรับว่าเป้าหมายการเติบโต 20% ในปี 2543 สำหรับชาร์ป เทพนครนั้น เป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่ง ซึ่งจะสำเร็จลุล่วงตามความมุ่งหมายหรือไม่เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาต่อไป