ทรัพย์สินที่จะนำออกมาประมูลในครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเปล่าเพราะมีถึง
131 รายการ บ้านเดี่ยว 29 รายการ ทาวน์เฮาส์ 34 รายการ บ้านแฝด 3 รายการ
อาคารพาณิชย์ 57 รายการ อาคารสำนักงาน 29 รายการ ออฟฟิศคอนโดมิเนียม 43 รายการ
และคอนโดมิเนียมพักอาศัย 11 รายการ โรงแรม 1 รายการ และสนามกอล์ฟ หอพัก อพาร์ตเมนต์อีก
15 รายการ รวมทั้งสิ้น 354 รายการ มีโฉนดรวม 1,644 โฉนด มูลค่าตามราคากลางรวมทั้งสิ้น
2,872 ล้านบาท
และยังมีทรัพย์สินที่ไม่ประมูลในรอบนี้อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในระหว่างการจัดการเรื่องกรรมสิทธิ์
รวม 122 รายการ 133 โฉนด ราคากลาง 1,256 ล้านบาท
ทาง ปรส.ได้จัดนิทรรศการแสดงรายละเอียดของทรัพย์สินที่จะประมูลที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
เมื่อวันที่ 7-11 ตุลาคมที่ผ่านมา และจะจัดอีกครั้งในวันที่ 7 พฤศจิกายน
2541 สำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคากลางต่ำกว่า 15 ล้านบาทนั้นจะใช้วิธียกมือแข่งขันราคา
โดยผู้สนใจจะต้องมีหลักประกันในการประมูลคือแคชเชียร์เช็คจำนวน 2% ของราคากลาง
แต่ไม่ต่ำกว่า 50,000 บาทต่อทรัพย์สิน สั่งจ่ายบริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์
แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นผู้ดำเนินการประมูลหาก
ไม่ชนะการประมูล จะได้แคชเชียร์เช็คคืน ภายใน 1 สัปดาห์หลังวันประกาศผลการประมูล
สำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคากลางตั้งแต่ 15 ล้านบาทขึ้นไปนั้นกำหนดให้ยื่นซองประมูลได้ตั้งแต่วันที่
2-6 พฤศจิกายน 2541 ซึ่งผู้ประมูลต้องเตรียมแคชเชียร์เช็คจำนวน 2% ของราคากลาง
แต่ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทต่อทรัพย์สิน โดยสั่งจ่ายสถาบันการเงินที่เป็นกรรมสิทธิ์
หากไม่ชนะก็จะได้รับเงินคืนภายในเวลา 1 สัปดาห์เช่นกัน
ผู้ที่ประมูลได้หรือผู้รับมอบอำนาจต้องลงลายมือชื่อในสัญญาจะซื้อจะขายภายใน
19.00 น.ของวันที่ 8 พ.ย. 41 และต้องชำระเงินมัดจำให้ครบ 10% ของราคาประมูล
ภายในวันที่ 13 พ.ย. 41 และภายใน 15 วันนับจากวันที่ประมูลได้ต้องชำระมัดจำอีกส่วนหนึ่งให้ครบ
25% ของราคาที่ประมูลได้ และจะต้องโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ที่ประมูลได้
พร้อมทั้งชำระเงินในส่วนที่เหลือให้เสร็จเรียบร้อยภายใน 60 วันนับจากวันที่ประมูลได้
ทางปรส.ยังยืนยันว่าสำหรับที่อยู่อาศัยนั้น ผู้ที่ประมูลได้จะมีธนาคารอาคารสงเคราะห์
และธนาคารไทยทนุเข้ามาเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อให้ในวงเงินประมาณ 80% ของราคาประเมิน