ตัวเลขจำนวนผู้ที่เข้ามาร่วมงาน เอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 13 นี้ คาดว่าจะมีคนจากประเทศต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องกับงานนี้เข้ามาในประเทศไทยประมาณ 20,000 คน ประกอบด้วยนักกีฬาประมาณ
10,000 คน สื่อมวล ชนประมาณ 7,000 คน และเจ้าหน้าที่อีกประมาณ 3,000 คน ยังไม่รวมถึงผู้คนที่สนใจมาชมกีฬาครั้งนี้ในประเทศไทยอีกนับหมื่นคน
และจากตัวเลขสถิติของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เก็บข้อมูลการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในเมืองไทย
จะมีการจับจ่ายใช้สอยประมาณ 4,000 บาทต่อคนต่อวัน ทางรัฐบาลจึงหวังสร้างเม็ดเงินรายได้จากส่วนนี้
จึงจัดให้มีคณะทำงานสาขาการท่องเที่ยว สังกัดฝ่ายกิจกรรมเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่
13 ดังนั้นการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงมีบทบาทในการจัดงานการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้
2 ส่วนคือ เป็นสาขาย่อยของฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ รับผิดชอบงานด้านการแถลงข่าว
และเป็นตัวแทนในคณะกรรมการ สาขาการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นสาขาย่อยของฝ่ายกิจกรรม
รับผิดชอบงานด้านการจัดกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย
"การท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในสาขาย่อยของคณะกรรมการฝ่ายกิจกรรมเอเชี่ยนเกมส์เท่านั้น
เราไม่ได้แยกออกมาเป็นฝ่ายต่างหาก เพราะจุดหลักของงานนี้อยู่ที่การแข่งขันกีฬา
ส่วนการท่องเที่ยวเป็นเพียงผลพลอยได้จากคนที่มาร่วมงานกีฬาครั้งนี้เท่านั้น"
พัชร์พงศ์ อภิชาตะพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกล่าว
สำหรับงบประมาณที่สาขาการท่องเที่ยวได้รับการจัดสรรในการดำเนินการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน
2.5 ล้านบาท จากงบรวมของทั้งฝ่ายที่ได้มาประมาณ 180 ล้านบาทที่ต้องกระจายให้กับสาขาย่อยอื่นในฝ่ายอีก
5 สาขา ได้แก่ฝ่ายซ่อมบำรุงสนามแข่งขันและสนามฝึกซ้อม จำนวน 66.76 ล้านบาท
สาขาการพัฒนาเมือง จำนวน 30.2 ล้านบาท สาขาการพัฒนาสิ่งแวดล้อม จำนวน 3.59
ล้านบาท สาขายานพาหนะและระบบขนส่ง จำนวน 69.41 ล้านบาท และสาขาการวิ่งธงเอเชี่ยนเกมส์
จำนวน 4.5 ล้านบาท
"ผมมีส่วนร่วมในงานนี้ตั้งแต่ต้น วันแรกที่เข้าประชุม เขาให้เบี้ยประชุม
3,000 บาท แต่ตอนนี้เขาตัดหมด คนนอกที่มาประชุมก็ได้แค่วันละ 300 บาท งบประมาณเดิมสาขาเราจะได้
36 ล้านบาท 20 ล้านบาทอยู่ที่เราและอีก 16 ล้านบาทฝากไว้ที่กรมประชาสัมพันธ์
ซึ่งตอนนั้นเราวางแผน ว่าจะนำเงินส่วนนี้ไปทำโปรโมชั่นในต่างประเทศ แต่เมื่อเดือน
ก.ค. ปีที่แล้วเราถูกตัดงบเหลือ 2.5 ล้านบาท เนื่องจากรัฐบาลจนลง เราเป็นหน่วยงานรัฐบาล
เราก็ต้องใช้เงินเราเองด้วย เป็นงบแอบแฝงในสำนักงานต่างประเทศของเรา"
พัชร์พงศ์เล่าอย่างอารมณ์ดีถึงงบประมาณจากวันแรกถึงวันนี้ถูกตัดลงเรื่อย
จากเม็ดเงิน 2.5 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่าย 3 ส่วน ด้วยกันคือ ค่าใช้จ่ายด้านการบริหารและดำเนินการ
1,256,900 บาท ค่าใช้จ่ายในการจัดพิมพ์เอกสารเผยแพร่ 500,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดทัวร์
750,000 บาท และงานทั้งสามส่วนนี้เองที่ทางททท.มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบด้วย
โดยงบประมาณด้านการจัดทัวร์จำนวน 750,000 บาท สาขาการท่องเที่ยวได้ร่วมมือกับบมจ.การบินไทย
ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 13 นำมาจัดสรรเป็นโปรแกรมการท่องเที่ยวแบบให้เปล่าแก่สื่อมวลชน
(PRESS TOUR) จำนวน 2,600 คน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ประกอบด้วยโปรแกรม
ทัวร์ให้เลือก 5 รายการ แบ่งเป็นทัวร์ครึ่งวัน 3 รายการได้แก่ ทัวร์พระบรมมหาราชวัง
ทัวร์เยาวราช-ปากคลองตลาด และทัวร์คลอง-วัดอรุณ ส่วนทัวร์เต็มวัน 2 รายการ
ได้แก่ ทัวร์ตลาดน้ำดำเนินสะดวก-พระปฐมเจดีย์-สามพราน และทัวร์อยุธยา
"เราเคยมีประสบการณ์การทำทัวร์ในงานซีเกมส์ที่เชียงใหม่ พบว่า สื่อมวลชนที่จะเข้ามาเที่ยวในโปรแกรมที่เราจัดให้ส่วนใหญ่จะมาหลังจากงานจบแล้ว
ซึ่งเราวางแผนไว้ว่า หากสื่อมวลชนมาไม่เต็ม 2,600 คน เราก็จะเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่และนักกีฬามาเพรสทัวร์นี้ด้วย"
พัชร์พงศ์เล่า
นอกจากนั้น ยังมีโปรแกรมสำหรับนักกีฬา สื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่ที่ต้องการท่องเที่ยวในช่วงเดือน
ธันวาคมตลอดทั้งเดือน โดยแบ่งเป็น 3 โปรแกรมให้เลือกคือ
บริการท่องเที่ยวแบบแพ็กเกจ (SUGGEST TOUR : ROYAL ORCHID HOLIDAYS) เป็นโปรแกรมนำนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาชมกีฬาและท่องเที่ยวผ่านสำนัก
งานขายของการบินไทยทั่วโลก โดยขายพร้อมตั๋วเครื่องบินของการบินไทย รวมค่าโรงแรมที่พัก
อาหาร การจัดนำเที่ยว และบริการรถรับส่งระหว่างโรงแรมและสนามบิน มีทั้งหมด
14 รายการ โดยขณะนี้มีนักท่องเที่ยวที่สนใจจองทัวร์เข้ามาแล้วทั้งสิ้น 3,176
ราย แบ่งเป็นรายการทัวร์กรุงเทพฯ ชมศิลปะและชีวิตเมืองหลวง (3 วัน 2 คืน)
16 ราย ทัวร์กรุงเทพฯ ( 5 วัน 4 คืน) 109 ราย ทัวร์ล่องเรือรับประทานอาหารไทย
10 ราย ทัวร์สวนสนุกซาฟารีเวิลด์ 17 ราย ทัวร์อยุธยา (เต็มวัน) 14 ราย ทัวร์
เชียงใหม่ (5 วัน 4 คืน) 57 ราย ทัวร์ซื้อของเชียงใหม่ ( 3 วัน 2 คืน) 6
ราย ทัวร์ผจญภัยเชียงราย ( 3 วัน 2 คืน) 108 ราย ทัวร์ขี่ช้างล่องแพ 47 ราย
ทัวร์พายเรือแคนู พัง-งา (เต็มวันพร้อมอาหารกลางวัน) 11 ราย และทัวร์เกาะพีพี
(เต็มวันพร้อมอาหารกลางวัน) 29 ราย
และบริการทัวร์ขาย (ON-SITE TOURS) ณ ศูนย์แข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
รังสิต ศูนย์กีฬาเมือง ทองธานี และที่พักสื่อมวลชน โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ สุขุมวิท
สำหรับนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และผู้สื่อข่าวที่สนใจ โดยมีทั้งหมด 9 โปรแกรม
2 ราคา คือ ราคา 530 บาท เป็นทัวร์พระบรมมหาราชวัง (ครึ่งวัน) ทัวร์พระที่นั่งวิมานเมฆ
และพิพิธภัณฑ์อภิเษกดุสิต (เต็มวัน) ทัวร์คลอง (ครึ่งวัน) ทัวร์เมือง-ชมวัด
(ครึ่งวัน) ทัวร์ฟาร์มจระเข้ (ครึ่งวันบ่าย) ทัวร์เมืองโบราณ (ครึ่งวัน)
และราคา 930 บาท สำหรับทัวร์ดำเนินสะดวกและสวนสามพราน (เต็มวัน) ทัวร์สะพานข้ามแม่น้ำแคว
(เต็มวัน) และทัวร์อยุธยา (เต็มวัน)
โปรแกรมทัวร์ดังกล่าวจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1-31 ธ.ค.นี้ และดำเนินการบริการทัวร์โดยบริษัททัวร์
4 บริษัทที่ทางการบินไทยเป็นผู้คัดเลือก ได้แก่ WORLD TRAVEL SERVICE LIMITED,
TOURISMO THAI, DIETHEM และ SIAM EXPRESS
แม้ว่าโปรแกรมทัวร์ที่ทางสาขาการท่องเที่ยวจัดขึ้นจะเป็นโปรแกรมง่ายๆ ที่เดินทางในช่วงสั้นๆ
และค่าใช้จ่ายถูกมาก แต่กระนั้นพัชร์พงศ์ไม่อยากให้ตั้งความหวังจากรายได้ส่วนนี้มากนัก
เนื่องจากประสบการณ์จากการจัดทัวร์ซีเกมส์ที่เชียงใหม่ เมื่อครั้งล่าสุดที่ผ่านมา
"มีผู้สนใจเที่ยวกับเราเพียง 400 คนเท่านั้น นักกีฬาที่แพ้ส่วนใหญ่ก็ถูกส่งกลับประเทศหมด
แต่ครั้งนี้อาจจะดีกว่าตรงที่มีประเทศเข้ามาร่วมเยอะกว่า คนที่เข้ามาก็ต้องมากกว่า
แต่อย่างไรเราก็เผื่อใจไว้แล้ว เพราะเป็นเรื่องปกติ ที่จะเห็นว่าบางประเทศเหลือเจ้าหน้าที่เพียง
2-3 คนเท่านั้นที่อยู่ร่วมจนถึงพิธีปิด"