Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ธันวาคม 2541








 
นิตยสารผู้จัดการ ธันวาคม 2541
อิริคสันเปิดศักราชใหม่ในยุค 36 คาดหมายตลาดไทยกลับสู่ปกติในปี 2000             
 


   
search resources

อีริคสัน (ประเทศไทย), บจก.




เทคโนโลยีในยุค 3G ของอีริคสัน แม้ในปัจจุบันยังไม่ สามารถใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้พร้อม จนกว่าจะถึงปีค.ศ. 2001 ซึ่งอีริคสันร่วมมือกับบริษัท NTT ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเซลลูลาร์รายใหญ่ในญี่ปุ่น เป็นผู้พัฒนาเพื่อการใช้งานในเชิงพาณิชย์ในตลาดญี่ปุ่น แต่อีริคสันก็เริ่มแผนการตลาดด้วยการให้ข้อมูลลูกค้าทั้งในระดับ operator และ end user หรือผู้ใช้บริการรายย่อย ให้ทราบถึงวิวัฒนาการใหม่ล่าสุดที่จะเกิดขึ้นเต็มที่ในศตวรรษหน้า ซึ่งถือเป็นยุคที่ 3 ของการสื่อสารไร้สาย

การสื่อสารโทรคมนาคมในยุคที่สามหรือ 3G ของอีริคสันนั้นหมายความถึงการสื่อสารขณะเคลื่อนที่และความ สามารถในการเข้าสู่ข้อมูลที่รวดเร็วและมากยิ่งขึ้น (ทั้งนี้ยุคแรก คือการสื่อสารไร้สาย ยุคที่สองคือการแนะนำระบบดิจิตอล)

การสื่อสารด้วยโทรศัพท์มือถือมีความนิยมแพร่หลาย อย่างรวดเร็วมาก และมีการคาดหมายว่าในปี ค.ศ. 2003 ผู้ใช้โทรศัทพ์มือถือทั่วโลกจะมีจำนวนถึง 830 ล้านคนความ ต้องการสื่อสารไร้สายที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นที่มาของความต้องการที่จะได้มากกว่าเสียง แต่ยังเพิ่มเรื่องข้อมูลและภาพที่เคลื่อน ไหวได้ด้วย นี่คือแนวโน้มสำคัญของยุคข้อมูลข่าวสาร

อีริคสันกำลังพัฒนาบริการสื่อสารไร้สายในยุคที่ 3 ที่จะอำนวยให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้ applications ใหม่ๆ ทุกประเภทได้บนเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ แอพพลิเคชั่นส์เหล่านี้ได้แก่ เสียง ข้อมูลและการสื่อสารทางวิดีโอ รวมทั้งการเข้าสู่ข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต บริการเหล่านี้ใช้ความเร็วสูงถึง 2 Mbps

การสื่อสารยุคที่ 2 หรือที่มีใช้อยู่ในปัจจุบันได้วางรากฐานอย่างดีแก่การพัฒนาสู่ยุคที่ 3 คือมีการวางเครือข่ายของระบบ GSM, D-AMPS และ PDC นอกจากนี้อีริคสันก็มีการพัฒนาระบบใหม่อีกอันหนึ่งที่จะนำเข้าสู่เทคโนโลยี ใหม่ที่ว่าโดยไม่ต้องผ่านเครือข่ายปัจจุบันก็ได้ นั่นคือระบบ Wideband CDMA หรือ WCDMA ซึ่งเป็นมาตรฐานด้าน air interface ใหม่

ในการพัฒนา GSM ไปสู่บริการมัลติมีเดียไร้สายยุคที่ 3 นั้นมี 2 แนวทางเลือกคือ ใช้เทคโนโลยี Enhanced Data Rates for GSM Evolution (EDGE) หรือใช้เทคโนโลยี WCDMA ซึ่งได้รับการออกแบบขึ้นเพื่อใช้กับโครงข่าย GSM การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้จึงลงทุนน้อยมาก เพราะสถานีระบบ GSM และอุปกรณ์ต่างๆ สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้นั่นเอง

ส่วนการพัฒนา D-AMPS ไปสู่บริการมัลติมีเดียยุคที่ 3 ขั้นแรกต้องใช้เทคนิคการผสมสัญญาณที่ซับซ้อนเพื่อเพิ่มอัตราการรองรับข้อมูลที่ความถี่ 30 kHZ ให้มีความเร็ว ในการรับส่งข้อมูลสูงถึง 64 kbps และมีการปรับปรุงคุณภาพเสียงให้ดียิ่งขึ้น ขั้นต่อมาต้องใช้ 136 HS เป็น air interface เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการรับ-ส่งข้อมูล ความเร็วสูงของ IMT-2000 ทั้งนี้ 136HS ใช้เทคโนโลยีพื้นฐานเดียวกับ EDGE ของระบบ GSM จึงเท่ากับเป็น การสร้างเทคโนโลยีร่วมกันของระบบ World Phone ที่แท้จริง ขั้นถัดมาคือการนำมาตรฐานด้าน air interface ใหม่ของ WCDMA ไปดำเนินการบนโครงข่ายหลัก IS-41 D-AMPS/AMPS

GSM เป็นมาตรฐานสื่อสารไร้สายดิจิตอลที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดทั่วโลก มีผู้ใช้ระบบนี้มากกว่า 100 ล้าน รายในกว่า 250 ระบบใน 110 ประเทศของทุกทวีป โดยผู้ใช้ระบบ GSM จำนวน 40% ในเกือบ 70 ประเทศใช้ระบบ GSM ที่อีริคสันเป็นผู้ติดตั้ง ส่วนผู้ใช้ระบบ D-AMPS/AMPS มีจำนวนราว 80 ล้านคนทั่วโลก

สำหรับการพัฒนาสู่ยุค 3G ในประเทศไทยนั้น ยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่จะมีการพัฒนาและใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้ และขั้นตอนการพัฒนาแต่ละขั้นจะเริ่มนำเข้ามาดำเนินการ ซึ่ง มร.ยอน เคมวอลล์-ประธานบริหาร บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าในขั้นแรกนั้นทางการ ต้องพิจารณาเลือก operator ก่อนและดูว่าจะพัฒนาการไปสู่ 3G ด้วยวิธีใด

ขณะนี้องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปศึกษางานกับ NTT Docomo ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ NTT ในญี่ปุ่นซึ่งกำลังพัฒนาการไปสู่ยุค 3G จากระบบ PDC ที่ใช้เฉพาะในญี่ปุ่น และอีริคสันได้ช่วยให้ข้อมูลแก่องค์การฯ ด้วย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่องค์การฯ ได้ไปชมอุปกรณ์และฟังการบรรยายเรื่องนี้ที่สำนักงานใหญ่อีริคสันในสวีเดน

สำหรับ operator รายใหญ่ในไทย 2 รายคือ ชินวัตร (SHIN) และยูคอมโดยบริษัทลูกคือ TAC นั้น ก็อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลว่า การพัฒนาแนวทางใดที่จะได้ประสิทธิภาพสูงสุด ครอบคลุมบริการต่างๆ มากที่สุดด้วยการลงทุนต่ำสุด โดย TAC มี 2 ทางเลือกคือพัฒนา AMPS 800 สู่ D-AMPS สู่ 3G หรือ GSM 1800 สู่ 3G ส่วน SHIN มีทางเลือกเดียวคือพัฒนา GSM สู่ 3G

นอกจากการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่สุดเพื่อเข้าสู่โลกการสื่อสารไร้สายยุคที่ 3 แล้ว ล่าสุดอีริคสันได้มีการจัดโครงสร้างองค์กรใหม่ โดยเน้นเรื่อง local priority และการกระจายอำนาจสู่ภูมิภาค (decentralize) เป็นการมุ่งให้ ความสำคัญต่อตลาดและลูกค้าเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้อีริคสันได้แบ่งธุรกิจหลักออกเป็น 3 ส่วนคือ ด้านโครงข่ายสำหรับผู้ให้บริการ ด้านผลิตภัณฑ์ผู้บริโภคและ ด้านผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับระบบองค์กรรัฐวิสาหกิจใน ธุรกิจหลักทั้งสามจะมีการกระจายความรับผิดชอบไปยังหน่วย ธุรกิจที่มีขนาดเล็กกว่า ส่วนการตัดสินใจทางด้านกลยุทธ์คณะผู้บริหารจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง คณะผู้บริหารจะประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่ในสวีเดนและในภูมิภาคต่างๆ อีก 4 แห่ง

ในเอเชียและโอเชียเนียนั้น ผู้บริหารสูงสุดคือ มร. เคิร์ท เฮลสตรอม รองประธานบริหารภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้กำหนดแน่ชัดว่าสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคจะอยู่ที่ใดแน่ แต่คาดว่าน่าจะเป็นที่ฮ่องกง

มร.ยอนกล่าวถึงการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2542 นั้น ว่า "มันมีผลกระทบต่อการทำงานในไทยในทางอ้อม เพราะเรามีโครงสร้างที่ใช้งานได้อยู่แล้ว แต่เราก็จะได้รับการสนับสนุนทางการตลาดจากโครงสร้างใหม่ เราหวังว่าจะได้รับการหนุนช่วยโดยตรงและเพิ่มมากขึ้นจากหน่วยงานใหม่ที่จัดตั้งขึ้น รวมทั้งมีการสื่อสารสองทางอย่างใกล้ชิดและรวดเร็ว นอกจากนี้ก็คาดว่าจะเพิ่มการสนับสนุนในการขยายไปในธุรกิจใหม่ๆที่เราดำเนินการอยู่ เช่น เรื่อง IT technology และ โครงสร้างใหม่จะมีผลกระทบอย่างมากต่อการจัดการฝึกอบรม เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมากในเวลานี้"

เขาเห็นว่าจุดสำคัญอย่างหนึ่งในการปรับโครงสร้างครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับครั้งใหญ่สุดของอีริคสันนั้นก็คือ "การรายงานที่เคยขึ้นตรงต่อสำนักงานใหญ่ที่สวีเดนนั้น ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นรายงานในแต่ละภูมิภาคที่แบ่งออกเป็น 4 ภาคตามโครงสร้างใหม่ และสำหรับภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียนั้น ตอนนี้ยังไม่ได้กำหนดว่ารองประธานบริหารจะนั่งที่ไหน แต่ผมเดาว่าคงเป็นที่ฮ่องกงเพื่อดูแลตลาดจีนและญี่ปุ่นที่ใหญ่มากนั่นเอง"

ด้านผลประกอบการของอีริคสันทั่วโลกในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2541 มียอดขายสุทธิ 125.4 ล้านสวีดิชโครน หรือ 626,980 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ตลาดในเอเชียที่ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องและเป็นตลาดที่ใหญ่คือจีน ซึ่งยอดขายรวมในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้น 9% แต่หากไม่นับรวมตลาดจีน ยอดขายในเอเชียกลับลดลงถึง 29%

มร.ยอนกล่าวว่าตลาดจีนในตอนนี้มีมูลค่าประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด ส่วนตลาดที่รองลงมาคือตลาดญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้มีอัตราการเติบโตที่ต่ำมาก

ส่วนตลาดไทยนั้น มีอัตราการเติบโตที่ขึ้นลงอยู่ระหว่างอันดับที่ 12-18 ของตลาดทั่วโลก แต่ในปีนี้คาดว่าจะตกมาอยู่ในระดับ 15-20 เพราะอัตราค่าเงินบาทอ่อนลง

เขาคาดหมายยอดขายปีนี้ในไทยจะอยู่ในระดับประมาณ 6,000 ล้านบาท เทียบกับปีที่แล้วที่มีระดับใกล้ 10,000 ล้านบาทซึ่งเป็นยอดรายได้ที่สูงที่สุดของอีริคสันในไทยที่ทำได้ แต่ปีนี้ยอดขายลดลง ทั้งในตลาดมือถือและตลาดอุปกรณ์โทรคมนาคม ตัวเลขยอดขายที่ประมาณการนี้กลับไปอยู่ในระดับเดียวกับยอดขายเมื่อปี 2539 หรือลดลงประมาณ 20%

มร.ยอนกล่าวว่า "แต่ผมคาดว่าตัวเลขในปี 2542 น่า จะดีกว่าปีนี้เพราะผมเห็นว่าเศรษฐกิจเริ่มจะฟื้นตัวแล้ว โดยเฉพาะที่เราคาดหมายว่าครึ่งปีหลังเศรษฐกิจจะฟื้นตัวแล้ว แต่นี่ก็เป็นเรื่องการคาดหมายเท่านั้น เราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่อง ตัวเลขที่แท้จริง"

นอกจากนี้ มร.ยอนกล่าวถึงมาตรการปรับปรุงการดำเนินงานอย่างหนึ่ง ที่อีริคสันใช้รับมือกับภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ ไทยช่วงนี้คือ การส่งคนงานไปทำงานในต่างประเทศ ตอนนี้อีริคสันส่งพนักงาน 60 คนไปทำงานในต่างประเทศ โดยมีจำนวน 30-40 คนไปทำงานในจีน และที่อื่นๆ นอกจากนี้ก็ลดพนักงานต่างชาติ (expatriate) ลงจำนวนมาก แม้จะลด พนักงานลงด้วยวิธีนี้ แต่ก็มีการเพิ่มการฝึกอบรมมากขึ้นเพื่อรองรับสถานการณ์เมื่อเศรษฐกิจกลับสู่ภาวะปกติ

มร.ยอนกล่าาวว่า "ตอนนี้เราขยายงานด้วยการขยาย ความรู้ มากกว่าที่จะขยายหรือเพิ่มจำนวนคน"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us