ช่วงระยะเวลา 1-2 ปีที่ผ่านมา รูปแบบของวันเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ
เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง บางงานไอเดียแหวกแนวจนคิดไม่ถึงเชียวล่ะ
เริ่มจากค่ายรถยนต์ ซึ่งรูปแบบเดิมๆ ที่เคยใช้ในวันเปิด ตัวก็คือ การมีผู้หญิงสาวสวย
หุ่นดี แต่งกายด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้น ยืนสอิ้งกายอยู่ข้างๆ รถรุ่นใหม่ ซึ่งต่อมารูปแบบนี้ชักไม่ได้ผล
เพราะบรรดาอาเสี่ยหลายคนอาจจะได้แค่ชำเลืองมอง ไม่กล้า มาดูใกล้ๆ เพราะเกรงใจคนคุมเงินที่เดินมาด้วย
ปรากฏการณ์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นและน่าสนใจ เช่นวันหนึ่ง ก่อนลำแสงสุดท้ายของพระอาทิตย์จะตกลับฟ้า
งานปาร์ตี้เปิด ตัว "โฟล์คสวาเกนพัสสาท" บริเวณถนนบนทางด่วนรามอินทรา ก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างคึกคัก
ด้วยไอเดียของ ฐิติกร ลีนุตพงษ์กรรมการบริหารยนตรกิจกรุ๊ป ที่ต้องการให้งานครั้งนี้แปลกใหม่
และไม่ธรรมดา
เป็นการเปิดตัวรถกลางถนนที่ใช้เงินไปไม่ต่ำกว่า 6 ล้านบาท ใช้เวลาเตรียมสถานที่ไม่ต่ำกว่า
5 วัน สื่อมวลชน และแขกที่มีเกียรติหลายคนถือโอกาสสนุกกับการเต้นลาตินกลางถนน
และเล่นรถโฟล์คเต่าจำลองบังคับ เล็กๆ ที่มีสนามจำลองพิเศษ โดยงานเริ่มตั้งแต่
4 โมงเย็น แขกคนสุดท้ายลากลับไปเมื่อตอนเที่ยงคืน
และเมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2544 วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) ฉลองเปิดตัว 2
ยนตรกรรม "วอลโว่ V70 สปอร์ตแวกอน" และ "วอลโว่ ครอสคันทรี่" ด้วยการจัดงานมหกรรมดนตรี
และศิลปะครั้งยิ่งใหญ่ โดยจัดเป็นจัดงานใหญ่ถึง 3 วัน ณ ลานกลางแจ้งห้างสรรพสินค้าเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์
งานวันแรกเริ่มต้นอย่างดื่มด่ำไปกับเสียงเพลงจากภาพยนตร์ดังฮอลลีวู้ด ในรูปแบบออร์เคสตราของวงซิมโฟนีกรุงเทพ
(BSO) ได้มาร่วมบรรเลงผสานกับเสียงร้องของ ธานี พูนสุวรรณ, เสาวนิต นวพันธ์
นอกจากนั้น ยังมีการแสดงลีลาพลิ้วไหวของตัวโน้ตที่เล่นล้อกับปลายพู่กันบนผืนผ้าใบของจิตรกรชื่อดัง
3 ท่าน ได้แก่ อาจารย์ประเทือง เอมเจริญ, ประทีป คชบัว และนิรันดร์ ไพจิตร
ในคืนถัดมาเป็นคืนแห่งอมตะเพลงร็อก มีทั้งร็อกคุณภาพอย่าง สุรสีห์ อิทธิกุล
ร่วมกับร็อกเกอร์ร่วมสมัย อย่าง โจ, ก้อง, บิลลี่ โอแกน ปิดฉากคืนสุดท้ายด้วยเพลงป๊อปหวานซึ้งจากวง
Hot Chilli, ปั่น-ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว, รัดเกล้า อามระดิษฐ์, อัยย์-พรรณี
วีรานุกูล และฟอร์ด-สบชัย ไกรยูรเสน
ดนตรี งานศิลป์ และรถยนต์ ล้วนแล้วแต่เป็นศิลปะอย่างหนึ่งของการใช้ชีวิต
ของผู้คนที่กลายมาเป็นกลยุทธ์สำคัญของการจัดงาน
นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่ลูกค้าสามารถพาสมาชิกในครอบครัวมาเข้าร่วมได้ด้วย
ตั้งแต่แดดร่มลมตกราว 4 โมงเย็น เช่น การเพ้นท์ร่างกายด้วยเฮนน่า การเพ้นท์สีเล็บ
ใบหน้า การสาธิตร้อยลูกปัด การดัดลูกโป่ง มายากล ละครใบ้
เป็นงานที่สนุกและมีสีสันจนเกือบแวะไปดูรถเชียวล่ะ
ศิลปะก็เป็นกระแสอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 ปีนี้ และกลายเป็นช่องทาง
หนึ่งที่เจ้าของสินค้าได้นำเอาอาร์ติสต์ชื่อดังของเมืองไทยเข้ามามีส่วนร่วมในการ
รังสรรค์สินค้า เช่น รอยัล ปอร์ซเลน กรุ๊ป ได้เปิดคอลเลกชั่นใหม่ "Artists
Collection" โดยได้รับเกียรติจากศิลปินชื่อดัง 3 คนคือ เกริกบุระ ยมนาค ผู้สร้าง
สรรค์ลวดลายในคอลเลกชั่น ที่ชื่อ "Still Life" พันธุ์ศักดิ์ จักกะพาก กับ
ผลงานชุด "Wild Orchid" และ ม.ล.จิราธร จิรประวัติ ในชื่อ "Flower &
Leaf"
ทั้ง 3 คอลเลกชั่นใหม่นี้เป็น ครั้งแรกของศิลปิน ที่ยอมรับงานประเภทนี้
และเป็นครั้งแรกของบริษัทเช่นกัน ที่ได้ดึงเอาศิลปินมา สร้างจุดขาย ดังนั้น
ยอดขายปีนี้ที่วางไว้ 1,650 ล้านบาทนั้น จะทะลุ เป้าหรือไม่ ป่านนี้คงรู้กันแล้ว
อีกงานหนึ่ง ที่เกิดขึ้นจากไอเดีย วรกานต์ ชูโต ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัทเซรามิคอุตสาหกรรมไทย
ก็คือการสร้างบรรยากาศในร้าน Shutters ถนนสาทร ในช่วงแดดร่มลมตกของบ่ายวันหนึ่งให้ดูคึกคักขึ้นมาทันที
เมื่อนางแบบที่มีชื่อเสียงในเมืองไทยกลุ่มหนึ่ง กำลังนวยนาดเข้ามาในร้าน
เพื่อเตรียมตัวเดินแบบให้ กระเบื้องคอตโต้
การแสดงแฟชั่นโชว์ชุดพิเศษในวันนี้ จึงอยู่ภาย ใต้แนวคิด Feel the Difference
โดยนำเสนอลวดลายกระเบื้องด้วยแฟชั่น Body Paint
ลำพังเนื้ออันนวลเนียนของนางแบบ อย่างเช่น ทาทา ยัง, ซอนย่า คูลลิ่ง ก็สุดแสนจะตรึงตาตรึงใจอยู่แล้ว
ยิ่งมาเพนท์ให้เห็นลวดลายอันสวยงามของกระเบื้องก็ยิ่งโดดเด่นเพิ่มขึ้น งานนี้คงตอกย้ำชื่อคอตโต้
ไปอีกนานทีเดียว
ทุกงานที่ยกตัวอย่าง "ผู้จัดการ" ไม่ได้ลงลึกว่าจะได้ผลทางการตลาดมากน้อยแค่ไหน
แต่เป็นเพียง แนวคิดที่สามารถเอาไปปรับใช้ได้กับสินค้าใหม่ๆ ของ คุณในปีหน้า