หลังการรวมกันของเซฟรอนและเท็กซาโกทำให้กลายเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อันดับ
4 ของโลกภายใต้ชื่อใหม่เซฟรอนเท็กซาโก
เซฟรอนเท็กซาโกเกิดจากการผนวกกิจการของเซฟรอน คอร์ปอเรชั่น (Chevron Corporation)
และเท็กซาโก อิงค์ (Texaco Inc.) โดยฝ่ายแรกต้องจ่ายเงินทั้งสิ้น 2.1 พัน
ล้านเหรียญสหรัฐ และรับภาระหนี้ของเท็กซาโก 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ
การรวมกิจการผู้ถือหุ้นของเท็กซาโกจะได้รับหุ้นสามัญของบริษัทใหม่ในสัดส่วน
0.77 หุ้นต่อหนึ่งหุ้นสามัญของเท็กซาโกที่ตนเป็นเจ้าของ ส่วนผู้ถือหุ้นของเซฟรอนมีจำนวนหุ้นเท่าเดิม
และเมื่อดีลนี้จบลงบริษัท มีมูลค่าตลาดรวมกันมากกว่า 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
ทรัพย์สิน 83,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
ความลับของเซฟรอนสำหรับการรวม กิจการกับธุรกิจน้ำมันคู่แข่งครั้งนี้เกิดจากต้องการอยู่รอดในอุตสาหกรรมพลังงาน
ดังนั้นการนำคู่แข่งมาเป็นพันธมิตรจึงเป็นทาง ออกที่ดีที่สุด
บริษัทแห่งใหม่นี้มีปริมาณน้ำมันสำรองมากเป็นอันดับสามของโลก และติดอันดับสี่ในด้านการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
โดยมีธุรกิจสำรวจ ขุดเจาะ และผลิตปิโตรเลียมในภูมิภาคที่เป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์
ด้วยปิโตรเลียมและยังมีศักยภาพเติบโตสูงทั่วทุกแห่งในโลก
สำหรับธุรกิจการกลั่นและค้าปลีกน้ำมันของเซฟรอนเท็กซาโกนั้น จะเน้นความสนใจไปที่ผลการดำเนินงานและบริการลูกค้า
โดยมีเครือข่ายสถานีบริการรวมกันถึง 25,000 แห่งครอบคลุม 6 ทวีป
อีกทั้งยังมีขีดความสามารถในการกลั่นน้ำมันถึง 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอก
จากนี้ยังมีสินทรัพย์ที่มั่นคงเพื่อการดำเนินธุรกิจด้านไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยีและพลังงานล้ำสมัย
"บริษัทใหม่ของพวกเรามุ่งสร้างผลตอบแทนทางการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
พร้อม กับเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อเป็นอันดับหนึ่ง" เดวิด
โอไรลลี่ ประธานเซฟ รอนเท็กซาโกชี้ "การผนวกกิจการทำให้สามารถผสมผสานทรัพยากรเข้าด้วยกันและ
หวังว่าจะนำจุดแข็งเหล่านี้มาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่"
อย่างไรก็ตามกว่าที่ทั้งสองจะตกลงใจรวมกิจการกันได้ก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร
จากเป้าหมายที่วางไว้เมื่อครั้งประกาศแผนผนึกกิจการในช่วงปีที่ผ่านมา
ผลกระทบที่ตามมาหลังจากดีลนี้เสร็จเรียบร้อย คือ การลดพนักงานลง 4,000
ตำแหน่ง จากเดิมที่มีทั้งหมด 57,000 ตำแหน่ง ส่วนข่าวดีของบริษัทหลังปรับโครงสร้างองค์กร
สามารถลดต้นทุนได้ถึง 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ปัจจุบันเซฟรอนปฏิบัติงานใน 180 ประเทศ (คาลเท็กซ์เป็นการร่วมทุนของเซฟรอนและเท็กซาโก
ในสัดส่วน 50:50 ตั้งแต่ ปี 1936) ครอบคลุมกิจกรรมด้านการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
ตลอดจนการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และผลิตภัณฑ์ด้าน พลังงานหลายประเภท ภายใต้ยี่ห้อเซฟรอน
เท็กซาโก คาลเท็กซ์ เดโล่ ฮาโลวีน เป็นต้น
สำหรับการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยของเซฟรอนเท็กซาโกเริ่มขึ้นเมื่อปลายทศวรรษ
1920 จากการจำหน่ายปิโตรเลียม
จากนั้นบริษัทเริ่มขยายสู่ธุรกิจด้านขุดเจาะ สำรวจและผลิตปิโตรเลียมในทศวรรษ
1970 และก้าวเข้าสู่กิจกรรมสำรวจอย่างเต็มตัวในปลายทศวรรษ 1990
ปัจจุบันบริษัทมีสถานีบริการน้ำมันภายใต้ชื่อคาลเท็กซ์ 524 แห่ง และยังร่วมกับ
พันธมิตรสร้างโรงกลั่นน้ำมันสตาร์และโรงกลั่นน้ำมันระยอง นอกจากนี้ยังขยายไปสู่ธุรกิจไฟฟ้าร่วมกับบ้านปูและเอดิสัน
มิชชั่น เอ็นเนอร์จี้ เพื่อลงทุนในโรงไฟฟ้าไตร เอ็นเนอร์จี้