บริษัทให้บริการข้อมูลแห่งนี้ ก่อตั้งขึ้นชื่อ Mercantile Agency ในนครนิวยอร์ก
เมื่อปี 1841 และจัดเป็นบริษัทผู้ให้บริการข้อมูลและสารสนเทศทางธุรกิจรายแรกของโลก
ต่อมาบริษัท Dun & Bradstreet Corporation ในปัจจุบันก่อตั้งขึ้นจากการแยกตัวออกมาจาก
Moody's Corpotation เมื่อวันที่ 30 กันยายน ปี 2000
เมื่อข้อมูลที่จัดเก็บมีมากขึ้น D&B จึงได้พัฒนาระบบที่มีชื่อว่า D&B
Data Universal Numbering System ขึ้น และเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 1962 เป็นต้นมาเป็นระบบตัวเลข
9 หลัก (nine-digit identification sequence) เพื่อใช้ในการติดตามข้อมูลบริษัทนับล้านแห่งทั่วโลก
รวมถึงข้อมูลความสัมพันธ์ของบริษัทเหล่านั้นด้วย
การคิดค้นระบบ D&B D-U-N-S Number เป็นพัฒนาการที่มีบทบาทที่สำคัญ
ในการนำบริการข้อมูลและสารสนเทศของธุรกิจเข้าสู่ยุคคอมพิวเตอร์ และกลายเป็นมาตรฐานที่ใช้อยู่ทั่วโลก
ในการทำธุรกรรมอี-คอมเมิร์ซในทุกวันนี้
ผลจากการคิดค้นระบบดังกล่าว จึงทำให้ D&B ที่มีอายุ 160 ปีแห่งนี้
เป็นพื้นฐานที่สำคัญต่อการขยายบทบาทไปยังผู้ที่ทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ที่ต้องมีความมั่นใจในการทำธุรกรรมบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ตัวเลขที่ D&B ระบุไว้ก็คือมีบริษัทประมาณ 90% ใน Business Week Global
1000 เลือกใช้บริการข้อมูลและสารสนเทศทางธุรกิจของ D&B
รูปแบบของบริการทางด้านข้อมูลของ D&B จึงมุ่งเน้นไปที่การช่วยให้ธุรกิจลดความเสี่ยงในการให้สินเชื่อ
สามารถค้นหากลุ่มเป้าหมาย และบริหารซัปพลายเออร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ฐานข้อมูลของ D&B เป็นแหล่งของฐานข้อมูลทางการค้าที่มีขนาดใหญ่ระดับโลก
มีการจัดเก็บข้อมูลของบริษัทมากกว่า 63 ล้านแห่ง ที่ D&B ทำการรวบรวมข้อมูลจากกว่า
200 ประเทศทั่วโลก ใช้ภาษา 95 ภาษา ครอบคลุม 186 สกุลเงิน และข้อมูลเหล่านี้ถูกปรับปรุงวันละมากกว่า
1 ล้านครั้ง
ผลิตภัณฑ์และบริการของ D&B จะครอบคุลมข้อมูลทางด้านสินเชื่อ การตลาด
และการจัดซื้อของธุรกิจ
โซลูชั่นสำหรับจัดการข้อมูลด้านสินเชื่อ จะมุ่งเน้น การช่วยให้ธุรกิจสามารถให้เครดิตทางการค้า
อนุมัติเงินกู้และสัญญาเช่า รับประกันความเสี่ยงในการประกันภัย ประเมินลูกค้า
ลดความเสี่ยงจากการถูกฉ้อโกงและตัดสินใจทาง การเงินและการประเมินความเสี่ยงอื่นๆ
รูปแบบของบริการ จึงเป็นเชิงวิเคราะห์ตามความต้องการเฉพาะของลูกค้า และโซลูชั่นเพิ่มมูลค่าอื่นๆ
เพื่อช่วยลดความเสี่ยงด้านสินเชื่อ
หากเป็นลูกค้าที่ต้องการข้อมูลด้านการตลาด โซลูชั่นที่ D&B พัฒนาออกมา
จะใช้ในการแบ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจัดเก็บประวัติลูกค้าเลือกกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
และพัฒนาแผนการตลาดให้สอดคล้อง ดูแลรักษาระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์ เรียกว่า
เป็นผลิตภัณฑ์ที่พยายามให้ครอบคลุม
แง่มุมทางการตลาดให้มากที่สุด
โซลูชั่นของการจัดซื้อ จะมุ่งไปที่การเพิ่มอำนาจในการซื้อ ลดความเสี่ยงในการจัดหาวัตถุดิบมาใช้ในการผลิตให้น้อยที่สุด
ยังรวมไปถึงการค้น และประเมินแหล่งวัตถุดิบใหม่ๆ
ในยุคบูมของอินเทอร์เน็ต D&B พยายามรุกเข้าสู่การเป็นผู้ให้บริการแก่ธุรกิจที่อยู่ในธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ
ด้วยการยังคงมุ่งที่จะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์สินค้าของตัวเอง ยังคงเอกลักษณ์ในระบบ
มีลูกค้าในมือ 150,000 สัญญา
อย่างไรก็ตาม D&B ยังจำเป็นที่ต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ในปี 2001
D&B ได้จัดหาเงินทุน 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ในการบริหารสำนักงานเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก
ลดขั้นตอนการจัดเก็บข้อมูล เพิ่มรูปแบบการทำธุรกิจระหว่างประเทศ โดยจะใช้อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางจัดจำหน่ายหลัก
ปรับปรุงประสิทธิภาพของเทคโนโลยีให้ใช้งานง่ายขึ้น ขณะเดียวกัน สิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไปก็คือ
การขายสินทรัพย์ และธุรกิจที่ไม่มีความสำคัญออกไป
ในปีหน้า D&B ได้เตรียมจะหาเงินทุน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มคุณภาพของฐานข้อมูล
เพื่อขยายไปยังลูกค้ารายย่อยและรายใหญ่ รวมถึงแผนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะต้องเข้าไปลงทุนและถือหุ้นในบริษัทให้บริการ
และบริษัทเทคโนโลยี เพื่อสร้างโซลูชั่นใหม่ๆ ในตลาดอี-คอมเมิร์ซ ที่เป็นตลาดเป้าหมาย