ซิตี้กรุ๊ปเป็นกิจการที่เกิดจากการผนวกกิจการระหว่างธนาคารซิตี้คอร์ป และบริษัทประกันทราเวลเลอร์
กรุ๊ป มีฐานธุรกิจอยู่ ที่นิวยอร์ก ปัจจุบันซิตี้กรุ๊ป เป็นบริษัทบริการการเงินอันดับหนึ่งของโลก และเป็นหนึ่งในสองบริษัทผู้ออกบัตรเครดิต
ชั้นนำของสหรัฐฯ โดยมีมาสเตอร์การ์ด, วีซ่า, ไดเนอร์สคลับ และคาร์ต บลองช์
(Carte Blanche) ซิตี้กรุ๊ปยังให้บริการธนาคารแบบเต็มรูปใน 100 ประเทศ
การรวมตัวของซิตี้คอร์ป และทราเวลเลอร์นำมา ซึ่งกิจการอันหลากหลาย ที่อยู่ใต้ร่มเดียวกัน
ทราเวลเลอร์มีกิจการ ในเครือคือ ซาโลมอน สมิธ บาร์นีย์ (Salomon Smith Barney)
ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ชั้นนำของสหรัฐฯ และมีกิจการในเครืออาทิ ธุรกิจประกันชีวิต
กองทุนรวม และสินเชื่อ เพื่อผู้บริโภค ไพรเมริกา ไฟแนนเชียล เซอร์วิส (Primerica
Financial Services) ธุรกิจสินเชื่อ ที่อยู่อาศัย และสินเชื่อส่วนบุคคลทั้ง
ที่มีหลักประกัน และไม่มีหลักประกันคอมเมอร์เชียลเครดิต (Commercial Credit)
ธุรกิจบัตรเครดิตทราเวลเลอร์ แบงก์ (Travelers Bank) และธุรกิจประกันภัย
ประกันชีวิต และบำเหน็จบำนาญอื่นๆ ทราเวลเลอร์ ไลฟ์ แอนด์ แอนนิวตี (Travelers
Life & Annuity) นอกจากนั้น ทราเวลเลอร์ยัง ถือหุ้น 84% ในกิจการทราเวลเลอร์
พร็อพเพอร์ตี้ แคชวลตี้ (Travelers Property Casualty)
ซิตี้กรุ๊ป กำลังขยายกิจการไปทั่วโลกรวมทั้งใช้ช่องทางอินเทอร์เน็ตในการขยายกิจการด้วย
บริษัทเข้าซื้อหุ้นกิจการนิกโก้ ซีเคียวริตี้ส์ ซึ่งเป็นโบรกเกอร์อันดับ
3 ของญี่ปุ่น และซื้อ แผนกบริการการเงินในเครือของฟูบอง (Fubon Group) แห่ง
ไต้หวัน โดยไพรเมริกาให้บริการทั้งในสเปน และญี่ปุ่น นอกจาก นั้น ซิตี้กรุ๊ปยังซื้อธุรกิจวาณิชธนกิจของชโรเดอร์
(Schroders) ทำให้เพิ่มฐานธุรกิจแขนงนี้ในตลาดยุโรปถึงสองเท่า และซิตี้กรุ๊ปยังซื้อหุ้นราวสองในสามของธนาคารแฮนด์โลวี
(Bank Handlowy) แห่งโปแลนด์ และมีฐานธุรกิจแข็งแกร่งในเม็กซิโกด้วย
ปัจจุบัน ซิตี้กรุ๊ปกำลังรักษาสถานภาพให้นำหน้าคู่แข่งต่อไป โดยนำธุรกิจบางส่วนรุกเข้าสู่พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และเข้าสู่โลกออนไลน์
ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2000 ของซิตี้กรุ๊ป
"ไตรมาสแรกปีนี้ เรามีความแข็งแกร่งมาก ซึ่งจะส่งผลให้ซิตี้กรุ๊ปมีฐานะการเงินใหญ่โตตอนสิ้นปีเนื่องจากธุรกิจของเรามีความสามารถ ที่จะแข่งขันได้ด้วยแรงสนับสนุนจากธุรกิจ ที่มีอยู่ทั่วโลก"
แซนฟอร์ด ไอ วีลล์ ประธาน และซีอีโอร่วมของ ซิตี้กรุ๊ปกล่าว
"เราขอยืนยันว่าความสามารถในการดำเนินธุรกิจจะส่งผลด้านกำไรไปสู่ลูกค้า และผู้ถือหุ้น"
เขาเสริม
ความเชื่อมั่นของวีลล์สะท้อนมาจากผลประกอบการของซิตี้กรุ๊ปในไตรมาสแรกปีนี้
โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 51.98% จาก 2,362 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 3,590 ล้านเหรียญสหรัฐ
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 19.04%
จาก 1,470 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 1,750 ล้าน เหรียญสหรัฐ
ในสายธุรกิจบุคคลธนกิจ (Global Consumer Banking) ที่ให้บริการธนาคารแก่ลูกค้ารายย่อยผ่านสาขา
และ Electronic Banking ซิตี้กรุ๊ปสามารถสร้างรายได้สูง ถึง 1,207 ล้านเหรียญสหรัฐ
เพิ่มขึ้น 23.03% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อน ถือเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด
7 ไตรมาส ที่ผ่านมา
ธุรกิจสายสถาบันธนกิจ (Global Corporate and Investment Bank) ให้บริการด้านการเงินแก่บริษัท
สถาบันการ เงิน ภาครัฐ และผู้ลงทุน มีรายได้เพิ่มขึ้น 35.59% จาก 1,357 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสแรกปีที่แล้วเป็น
1,840 ล้านเหรียญสหรัฐ ในไตรมาสแรกปีนี้
ด้านธุรกิจสายธนบดีธนกิจ (Global Investment Management and Private Banking)
ให้บริการดูแลการ และบริการการเงิน คำปรึกษาการลงทุนแก่บุคคลระดับวีไอพี สร้างรายได้ไตรมาสแรกนี้
172 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 25% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
ความเป็นมา
ซิตี้กรุ๊ปเผชิญกับความพลิกผันทางธุรกิจมานานนับศตวรรษ โดยกลุ่มนักธุรกิจได้เริ่มต้นกิจการทราเวลเลอร์
กรุ๊ป (บริษัทประกันอุบัติเหตุแห่งแรกของสหรัฐฯ) ในปี 1864 ที่เมืองฮาร์ตฟอร์ด
มลรัฐคอนเนกติกัต ต่อมาบริษัทได้เพิ่มบริการด้านประกันชีวิต ประกันทรัพย์สิน
และบำเหน็จบำนาญ จนกระทั่งในปี 1897 จึงเริ่มออกกรมธรรม์ประกันรถยนต์เป็นครั้งแรก
แล้วขยายไปสู่การประกันภัยกลุ่ม อีกทั้งยังขายประกัน การเดินทางทางอากาศให้กับอดีตประธานาธิบดีวูดโร
วิลสัน แห่งสหรัฐฯ เป็นรายแรกด้วย อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจซื้อพันธบัตรรัฐบาลในช่วงคริสต์มาสปี
1929 ก็ได้ช่วยให้บริษัทรอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกได้ หลังสงครามโลกครั้ง
ที่ 2 ธุรกิจของทราเวลเลอร์เฟื่องฟูขึ้น และยังรับประกันภัยการเดินทางไปยังดวงจันทร์ครั้งแรก
ให้กับนักบินอวกาศของยานอวกาศอพอลโล 11 ด้วย
ช่วงปลายทศวรรษ 1970 ทราเวลเลอร์เริ่มเข้าสู่ธุรกิจบริการการเงิน โดยเข้าไปซื้อกิจการคีย์สโตน
(Keystone) ซึ่ง เป็นธุรกิจกองทุนรวม และธุรกิจวาณิชธนกิจ "ดิลลอน" และ "รีด"
เมื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เฟื่องฟูในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ทราเวลเลอร์ก็ขายธุรกิจจำนอง ที่อยู่อาศัยออกไป
เมื่อเข้า สู่ทศวรรษ 1990 กิจการก็ตกเป็นเป้าสายตาของแซนฟอร์ด ไอ วีลล์ (Sanford
I Weill) ผู้สร้างอาณาจักรธุรกิจในเวลาต่อมา
วีลล์สร้างบริษัทโบรกเกอร์เซียสัน โลบ โรเดส (Shea-rson Loeb Rhoades) และขายให้กับอเมริกัน
เอ็กซ์เพรส ในปี 1981 ต่อมาวีลล์ถูกกดดันให้ออกจากอเมริกันเอ็กซ์เพรส ในปี
1985 และได้ซื้อกิจการคอมเมอร์เชียล เครดิต จากคอนโทรล เดต้า (Control Data)
ไพรเมริกาเข้าตาวีลล์เช่นกัน กิจการแห่งนี้ก่อตั้งในปี 1901 ในชื่ออเมริกัน
แคน (American Can) ที่นิวเจอร์ซีย ในช่วงทศวรรษ 1960 บริษัทแตกแขนงธุรกิจไปสู่ผลิตภัณฑ์กระดาษ
และไม้ ในทศวรรษ 1970 ก็เข้าสู่ธุรกิจค้าปลีก ปี 1981 อเมริกัน แคนเข้าซื้อบริษัทประกันชีวิตแอสโซซิเอทเต็ด
เมดิสัน (Associated Madison) อีกห้าปีต่อมาจึงขายธุรกิจผลิต กระป๋องออกไป
จนกลายมาเป็นบริษัทบริการการเงิน และเปลี่ยนชื่อเป็นไพรเมริกาในปี 1987
ต่อมาบริษัทคอมเมอร์เชียล เครดิตของวีลล์ ซื้อกิจการ ไพรเมริกาในปี 1988
ส่วนไพรเมริกาก็ซื้อเซียร์สันจากเอเม็กซ์ในปี 1993 รวมทั้งซื้อกิจการทราเวลเลอร์ และใช้ชื่อกับโลโกของทราเวลเลอร์ด้วย
วีลล์ลดขนาดกิจการแทรเวลเลอร์ลงโดยขายกิจการบางส่วนออก รวมทั้งขายหุ้นในกิจการเมตราเฮลธ์
(Metra-health) ในปี 1995 ต่อมาเขาซื้อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และประกันอุบัติเหตุเอทนา
(Aetna) แล้วจึงรวมเข้ากับทราเวลเลอร์ ก่อตั้งเป็นทราเวลเลอร์ พร็อพเพอร์ตี้
แคชวลตี้ (Travelers Property Casualty) พร้อมนำกิจการเข้าตลาดหลักทรัพย์
ในปีถัดมา ปี 1997 ทราเวลเลอร์ซื้อกิจการซาโลมอน บราเธอร์ส และจัดตั้งเป็นซาโลมอน
สมิธ บาร์นีย์ โฮลดิ้งส์
เมื่อสองปีก่อน วีลล์ชนะจอห์น รีด ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซิตี้คอร์ป
จึงรวมกิจการซิตี้คอร์ปเข้ากับทราเวลเลอร์เข้าด้วยกัน และปลดพนักงานออกราว
10,000 คน อีกทั้งโยกย้ายผู้บริหาร โดยมีการจับคู่ผู้บริหารระดับสูง (รวมทั้งวีลล์ และรีด)
รับตำแหน่งร่วมกัน และมีการจัดหน้าที่รับผิดชอบของผู้บริหารในหลายๆ ส่วนเสียใหม่
ซึ่งยังเป็นประเด็น ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในขณะที่ยังมีความวุ่นวายเนื่องจากผู้บริหารลาออกไปจำนวนมาก
ปี 1999 ซิตี้กรุ๊ปก็ชิมลางการปล่อยกู้ในรูปแบบใหม่ และรุกเข้าสู่ธุรกิจออนไลน์
โดยเริ่มทำธุรกิจธนาคารผ่าน อินเทอร์เน็ตในชื่อ "Citif/i" และออกบัตรเครดิตออนไลน์ชื่อ
"ClickCredit" ซึ่งเป็นบริการสินเชื่อสำหรับการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์หรือซื้อสินค้าทางโทรศัพท์เท่านั้น
นอกจากนั้น ซิตี้กรุ๊ปยังจัดทำเว็บไซต์ bizzed.com โดยเล็งเป้าหมาย ที่ธุรกิจขนาดย่อม
ปีที่แล้วเช่นกัน โรเบิร์ต รูบิน อดีตรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เข้าร่วมงานกับซิตี้กรุ๊ปในตำแหน่งประธานกรรมการร่วม
(co-chairman) และบริษัทก็เข้าซื้อหุ้น 20% ของอีเอฟจี เฮอร์เมส ซึ่งเป็นบริษัทบริการการเงินใหญ่ที่สุดของอียิปต์
ปีนี้ซิตี้กรุ๊ปได้ซื้อกิจการวาณิชธนกิจจากชโรเดอร์ และไดเนอร์ส คลับ ของญี่ปุ่น
และยังเป็นปีที่จอห์น รีด ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมจะเกษียณอายุ
ขณะที่บริษัทประกาศจะซื้อหุ้นกิจการทราเวลเลอร์ 15% คืนจากตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้กิจการกลับเป็นบริษัทจำกัดอีกครั้ง
ปีนี้เช่นกัน ที่ซิตี้กรุ๊ปมีปัญหาขัดแย้งกับรัฐบาลเม็กซิโกในเรื่องการชำระเงินกู้ล่วงหน้า
ทำให้บริษัทถูกกดดันให้ออกจากประเทศ แต่ปีนี้ก็จะเป็นปีที่ธนาคารนำเข้า และส่งออกของสหรัฐฯ
จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับซิตี้กรุ๊ป และนับเป็นการร่วมหุ้นส่วนกับบริษัทเอกชนเป็นครั้งแรก
ซิตี้แบงก์ในภูมิภาคเอเชีย
ในบรรดาธนาคารอเมริกันทั้งหมดซิตี้แบงก์มีประวัติยาวนานที่สุดในภูมิภาคนี้
ต้นตระกูลของซิตี้แบงก์ คือ The National City Bank of New York ได้เข้ามาทำธุรกิจตั้งแต่
ปี 1902 การดำเนินงานโดยขั้นแรกได้ตั้งบริษัทระดมทุน เพื่อการค้าขึ้น ที่ท่าเรือเซี่ยงไฮ้
โยโกฮามา ฮ่องกง สิงคโปร์ และกัลกัตตา ปัจจุบันมีกิจการต่างๆ 15 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย
สำหรับประเทศไทยซิตี้คอร์ปเริ่มเข้ามาเปิดกิจการสาขาด้วยบริษัทเงินทุนเฟิสต์เนชั่นแนลซิตี้
ดีเวลลอปเม้นต์ ไฟแนนซ์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) (ชื่อในขณะนั้น ) เมื่อปี
1969 อีก 10 ปีต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ซิตี้คอร์ป (ประเทศไทย)
ในปี 1982 ซิตี้คอร์ปได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจการแฟรนไชส์ไดเนอร์สคลับ และเข้าบริหารกิจการของบริษัทไดเนอร์สคลับ
(ประเทศไทย) ซึ่งก่อตั้งในปี 1969 เพื่อดำเนินธุรกิจบัตรเครดิตเป็นแห่งแรกในประเทศไทย
ในปี 1987 ก่อตั้งบริษัท ซิตี้คอร์ป ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการให้เช่า และเช่าซื้ออุปกรณ์เครื่อง
จักรแก่ลูกค้า ที่เป็นบริษัท และเช่าซื้อรถยนต์แก่ลูกค้ารายย่อย ต่อมาในปี
1986 ได้มีการจัดตั้งบริษัทซิตี้แคปปิตอลขึ้นมา เพื่อให้บริการจัดหาเงินทุน และให้คำปรึกษาด้านการเงินแก่บริษัทตั้งใหม่
บริษัท ที่ต้องการขยายกิจการ และบริษัท ที่มีโครงการจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
นอกจากนั้น ซิตี้แคปปิตอลยังดำเนินธุรกิจร่วมทุนในกิจการต่างๆ ด้วย
และเมื่อปี 1997 บริษัทซาโลมอน บราเธอร์ส เอเชีย แปซิฟิก ซึ่งเป็นเครือของบริษัทซาโลมอน
สมิธ บาร์นีย์ได้เข้าร่วมในเครือซิตี้กรุ๊ป เมื่อบริษัททราเวลเลอร์ส กรุ๊ป
อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ได้รวมกิจการกับซิตี้คอร์ปกลายเป็นซิตี้กรุ๊ป สถาบันการเงินใหญ่ที่สุดในโลก
สำหรับกิจการธนาคาร แรกทีเดียวได้เข้ามาเปิดสาขาดำเนินธุรกิจการธนาคารอย่างเต็มรูปแบบในปี
1985 ทว่าก่อนหน้านี้เมื่อปี 1984 ซิตี้แบงก์ได้เข้ามามีส่วนร่วมในตลาดไทยนามของธนาคารเมอร์แคนไทล์
สาขาประเทศไทย ต่อมาภายหลังจาก ที่ซิตี้คอร์ปเข้าซื้อกิจการของธนาคารเมอร์แคนไทล์สำเร็จ
ซิตี้แบงก์จึงได้คืนใบอนุญาตของธนาคารเมอร์แคนไทล์ และจัดตั้งธนาคารซิตี้แบงก์
สาขาประเทศไทยขึ้นมาอย่างเป็นทางการ ปัจจุบันกิจการของธนาคาร และบริษัทในเครือซิตี้คอร์ปให้บริการแก่ลูกค้ามากกว่า
5 แสนราย และมีพนักงานประมาณ 1,400 คนในประเทศไทย