ในปี 2003 หรืออีกสองปีข้างหน้า Ford Motor บรรษัทผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก
ที่ก่อตั้งโดย Henry Ford แห่งนี้จะมีอายุ ครบรอบศตวรรษ ซึ่งนับเป็น 100
ปีที่เต็มไป ด้วยสีสันและเรื่องราวที่มากมายเกินกว่าจะกล่าวขานได้หมด
หากนับเนื่องตั้งแต่ Model T ซึ่งเป็น รถยนต์รุ่นแรกๆ ที่ได้รับการนำเสนอออกสู่
ตลาดมาตั้งแต่ปี 1908 จนถึงปัจจุบัน Ford Motor ได้ผลิตรถยนต์กว่า 270 ล้านคัน
ตอบ สนองความต้องการของผู้คนไม่เฉพาะใน อเมริกา ซึ่งเป็นตลาดหลักเท่านั้น
หากแต่ยัง แผ่ขยายธุรกิจไปสู่ยุโรป, เอเชีย และภูมิภาค อื่นๆ ด้วย
แม้ว่าชื่อเสียงของ Ford Motor จะผูก พันอย่างแนบแน่นกับการเป็นผู้ผลิตรถยนต์
pickup รายใหญ่ที่สุดของโลก แต่นั่นมิได้ หมายความว่าความยิ่งใหญ่ของ Ford
Motor จะจำกัดอยู่เพียงเท่านั้น เพราะรถยนต์ใน รูปแบบอื่นๆ ที่ผลิตโดย Ford
Motor ก็ล้วน แต่มีส่วนสร้างชื่อเสียงให้แก่ Ford Motor ไม่ น้อย ดังเช่นในกรณีของ
Ford Mustang ที่ สามารถครองความนิยมมาตั้งแต่เมื่อครั้งได้ รับการเปิดตัวสู่ตลาดในปี
1964 และต่อเนื่อง สู่ทศวรรษที่ 1970
วิกฤติการณ์น้ำมันซึ่งส่งผลด้านลบ อย่างหนักต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก
ในช่วงทศวรรษที่ 1970 ส่งผลให้ Ford Motor ต้องลดจำนวนพนักงานและปิดโรงงาน
ประกอบรถยนต์หลายแห่งลง ขณะเดียวกัน ก็ได้ปรับเปลี่ยนธุรกิจไปสู่เครื่องจักรกลการ
เกษตร ด้วยการซื้อกิจการของ New Holland ในปี 1986 และซื้อกิจการ Versatile
ในปี 1987
ช่วงปลายของทศวรรษที่ 1980 นี้เอง ที่ Ford Motor ได้พยายามที่จะขยายตลาดใน
สหรัฐอเมริกาอีกครั้งด้วยการนำเสนอรถยนต์ รุ่น Taurus และ Sable ในปี 1988
ก่อนที่ Ford Motor จะครองส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์ของ อเมริกาในสัดส่วน 21.7%
ภายใน เวลา 10 ปี
นอกเหนือจากรถยนต์ที่อยู่ภายใต้ เครื่องหมายการค้า Ford แล้ว Ford Motor
ได้รุกเข้าสู่ตลาดรถยนต์สปอร์ตและรถยนต์หรูหรา ด้วยการซื้อกิจการของ Aston
Martin ในปี 1987 ก่อนที่จะเน้นย้ำยุทธศาสตร์การ ขยายกลุ่มเป้าหมายไปสู่กลุ่มลูกค้าระดับ
บน ด้วยการซื้อ Jaguar ในปี 1989
ทศวรรษที่ 1990 นับเป็นช่วงระยะเวลาที่ Ford Motor ให้ความสนใจในการขยาย
ฐานการตลาด และโรงงานประกอบรถยนต์ เข้าสู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่อง
โดยมีจุดเน้นอยู่ที่รถยนต์นั่ง ขนาดกลางและรถบรรทุกเบา ขณะเดียวกัน Ford
Motor ก็เข้าซื้อกิจการของ Volvo ในปี 1999 เพื่อขยายตลาดรถยนต์หรูหราไป
ในคราวเดียวกัน ในฐานที่เป็นยุทธศาสตร์คู่ขนานเชิงรุกในระดับโลก
การเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน Mazda ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ สัญชาติญี่ปุ่นในช่วงปี
1996 ติดตามมาด้วย การเริ่มสายการผลิตรถยนต์ Minibus ในจีน เมื่อปี 1997
เป็น Jigsaw สำคัญที่สะท้อนถึง ยุทธศาสตร์เชิงรุกของ Ford Motor ในเอเชีย
หลังจากที่ได้เข้ามาลงหลักปักฐานในประเทศ ไทยอย่างจริงจังด้วยการลงทุนเงินกว่า
20,000 ล้านบาทสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ในนาม ของบริษัท ออโต้ อัลลายแอนซ์
เมื่อปี 1995
ตลอดระยะเวลา 4-5 ปี ที่ Ford Motor ได้เข้ามารุกตลาดรถยนต์ในประเทศไทยอย่าง
จริงจังนั้นต้องยอมรับว่า Ford Motor สามารถ ช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดจากผู้ผลิตรถยนต์
สัญชาติญี่ปุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย เฉพาะสำหรับรถยนต์บรรทุกเบาขนาด
1 ตัน ซึ่ง Ford ได้กลายเป็นผู้นำในการทำตลาด รถยนต์ Pickup แบบ 4 ประตูอีกด้วย