ภายในระยะเวลา 4-5 ปี ที่ Royal Ahold เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ชื่อเสียงของ
TOPS Supermarket ซึ่งเป็น ประหนึ่งเรือธงของบรรษัทค้าปลีกระดับโลก แห่งนี้
ได้เข้าสู่การรับรู้ของผู้บริโภคชาวไทย และยังผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของ
ผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ wet market อย่างไม่อาจเลี่ยง
การเข้ามาในประเทศไทยของ Ahold ด้วยการเป็นพันธมิตรกับกลุ่ม Central เมื่อ
ปี 1997 และการรุกเข้ามาอย่างหนักในเอเชีย แปซิฟิก ทั้งในสิงคโปร์, มาเลเซีย
และจีน ได้ส่งให้ TOPS มีฐานะเป็นหัวหอกของกลุ่ม ที่มีบทบาทสำคัญไม่น้อย
แม้ว่าการลงทุนของ Ahold จะมีกระจายอยู่เกือบทุกภูมิภาคของ โลกก็ตาม
ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจในประเทศ ไทย Ahold ได้เข้าควบคุมอำนาจการบริหาร สาขาของ
TOPS Supermarket ทั้งหมด ในปี 1998 ซึ่งนับเป็นการลงหลักปักฐานอย่าง มั่นคงในประเทศไทย
เพราะหลังจากนั้น ไม่นาน TOPS Supermarket ในรูปแบบของ ร้านแบบ stand alone
โดยไม่ผูกติดกับพื้นที่ ของห้างสรรพสินค้า ก็เริ่มกระจายไปใน หลายเขตชุมชน
ความพยา-ยามในการเพิ่มช่อง ทางจัดจำหน่ายของ TOPS มิได้หยุดยั้งอยู่ เพียงการขยายสาขา
ออกไปเท่านั้น หาก TOPS ยังขยายไปสู่การ สร้างพันธมิตรกับ Conoco เพื่อจำหน่าย
สินค้าและอาหารภายใต้ชื่อ Jiffy Kitchen by TOPS ในสถานีบริการน้ำมัน JET
รวมถึงการ ขยายธุรกิจไปสู่สินค้าหมวดอื่นๆ นอกเหนือ จากอาหาร ด้วยการจัดมุม
Health & Beauty Zone โดยล่าสุด ได้ผนึกกับ Boots ผู้ประกอบ การด้านเวชภัณฑ์และเครื่องสำอางในการ
จำหน่ายสินค้าของ Boots ในพื้นที่ของ TOPS ด้วย
ประสบการณ์กว่า 114 ปีของ Royal Ahold ได้รับการถ่ายทอดและนำมาใช้เป็น
ประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจของ TOPS ใน ประเทศไทยอย่างได้ผลและเป็นกลไกสำคัญ
ที่ทำให้ TOPS ดำรงสถานะเป็นผู้นำกิจการ ค้าปลีกในรูปแบบของ Supermarket
อย่าง ยากที่จะปฏิเสธ
ปัจจุบัน Royal Ahold ประกอบการ ร้านค้าในแบบ Supermarket และ specialty
stores รวมกว่า 8,600 แห่งกระจายอยู่ทั้งใน เอเชีย (Indonesia, Malaysia
และประเทศ ไทย) ในยุโรป (Baltic States, Belgium, the Czech Republic, Denmark,
the Netherlands, Norway, Poland, Portugal, Spain และ Sweden) ในละตินอเมริกา
(Argentina, Brazil, Chile, El Salvador, Guatemala, Honduras, Netherlands
Antilles, Paraguay และ Peru) และในสหรัฐอเมริกา