Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มกราคม 2543








 
นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2543
แอสเซท พลัส เล่นในตลาดเฉพาะทาง             
 


   
search resources

แอสเซท พลัส, บล.
ก้องเกียรติ โอภาสวงการ




ความคล่องตัว และการทำธุรกิจในตลาดเฉพาะทาง ซึ่งเป็นแนวถนัด ของบล.แอสเซท พลัส ทำให้บริษัทสามารถฝ่าด่านวิกฤติเศรษฐกิจมาได้ และปัจจุบันได้กลายเป็นรูปแบบ ที่น่าสนใจในการทำธุรกิจ IB

ในขณะที่ธุรกิจไทยยังกรุ่นไปด้วยความไม่แน่นอน กระแสการแข่งขันแย่งชิงความเป็นหนึ่งมีอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนว่า "คุณภาพ"เป็นปัจจัยชี้ขาดว่าธุรกิจใดจะทะยานขึ้นสู่ระดับแนวหน้าได้ ช่วงเหตุการณ์วิกฤติเศรษฐกิจเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทสัญชาติไทยหลายๆ แห่ง ได้เปิดให้เห็นถึง "ความไม่มีคุณภาพ" กันอย่างเต็มที่ และในเวลานี้บริษัทเหล่า นั้น พยายาม ที่จะปิดช่องว่างความไม่มีคุณภาพกันอย่างทุลักทุเล เห็นเด่นชัดคงหนีไม่พ้นธุรกิจธนาคาร และสถาบันการเงิน ขณะเดียวกันก็ยังมีหลายๆ บริษัท ที่แสดงออกถึงความมีคุณภาพ หนึ่งในนั้น คือ บล.แอสเซท พลัส ที่มีแม่ทัพอย่าง ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ซึ่งอิทธิพลทางความคิดของเขาเป็นประโยชน์ต่อการกระจายรายได้ ทรัพย์สิน และโครงสร้างแห่งอำนาจ ที่นำไปสู่ความก้าวหน้าทางธุรกิจ และสามารถยืนอยู่เหนือซากปรักหักพังทางเศรษฐกิจได้อย่างสวยงามเป็นที่อิจฉาของคนทั่วไป

บล.แอสเซท พลัส เติบใหญ่พร้อมเม็ดเงิน ที่พอกพูน ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะยอดกำไร ที่กระเตื้องขึ้น แต่ต้องทำควบคู่ไปกับการเพิ่มรายได้ด้วยการคิดค้นสินค้าใหม่ๆ มาทดแทน สินค้าเก่าๆ ที่จางหายไปกับภาวะเศรษฐกิจ กลเม็ดเหล่านี้มีอยู่ในตัว ดร.ก้องเกียรติ เพราะพลัน ที่เศรษฐกิจล่มสลาย บรรดาไฟแนนซ์ต่างๆ ที่เติบโตมาจากฟองสบู่ออกอาการซวนเซ รายได้เริ่มฝืด ขณะที่ บล.แอสเซท พลัส กลับมีดีลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

"ปัจจุบันดีล IPO เริ่มหดหายไป แต่กลายเป็นว่าเราได้ดีลเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้เข้ามา เวลานี้มีถึง 6 ดีล มูลค่า 600-700 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วน M&A ล่าสุด ที่เพิ่งจบไป คือ บมจ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่นโปรดักส์ รวมกับ บมจ.สงขลาแคนนิ่ง หรือการเป็นที่ปรึกษาให้กับลูกค้าในการซื้อหุ้นของโรงแรมรีเจ้นท์ แม้กระทั่งได้เป็นที่ปรึกษาการแปรรูปรัฐวิสาหกิจให้กับการบินไทยด้วย ซึ่งโชคดีเมื่อลูกค้ารูปแบบหนึ่งหายไปก็จะมีอีกแบบหนึ่งเข้ามา" ดร.ก้องเกียรติ กล่าว

นอกจากนี้ส่วน ที่สนับสนุน และเป็นพลังขับเคลื่อนให้ บล.แอสเซท พลัส กระโจนไปข้างหน้า คือ ทีมงาน ที่แข็งแกร่ง แม้ว่าปัจจุบันจะมีพนักงานบริษัทเพียง 80 คน ดร.ก้องเกียรติกล่าวว่า นี่คือ มูลค่าอันแท้จริงในการทำธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ "เงินใครๆ ก็มี พวกสถาบัน ที่อยากเข้ามาลงทุนเขาก็มีเงินทั้งนั้น ธุรกิจนี้มูลค่าอยู่ ที่คนมากกว่าส่วนอื่นๆ ไม่มีความหมายเพราะการลงทุนของบริษัทไม่มีเครื่องจักร มีแต่คอมพิวเตอร์ และมันสมองของคนที่จะนำดีลเข้ามา"

ด้านการบริหารของ บล.แอสเซท พลัส ไม่ผิดนัก ที่จะบอกว่าเป็นศูนย์รวมมืออาชีพ ที่มีประสบการณ์ ซึ่งทีมงานประมาณ 10% เป็นคนอังกฤษ และอเมริกา ที่เข้ามาร่วมงาน ดร.ก้องเกียรติบริหารงานได้อย่างลงตัว ซึ่งทีมงานบางคนเขา ยอมลงทุนบินไปสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง ที่อเมริกา เพื่อดึงเข้ามาทำงานให้กับ บล.แอสเซท พลัส อีกทั้งหลังจากบริษัทเริ่มเติบโต ดร.ก้องเกียรติพยายามเปลี่ยนสไตล์การทำงานจาก one man show มาเป็นบริหารแบบกระจายอำนาจให้มากขึ้น

"เราต้องการสร้างเครือข่ายให้กว้างขึ้น คือ ทำงานแบบตัวคนเดียวอีกต่อไปไม่ได้ จุดหนึ่ง ที่พยายามสร้าง คือ สร้างบุคลากรให้มีคุณภาพมากๆ หลายๆ กลุ่ม หลายๆ ฝ่าย เพื่อภาพพจน์ของบริษัทจะได้ไม่มีเฉพาะตัวผมคนเดียว" เนื่องจากเชื่อว่าการปรับทิศทางการบริหารงานจะช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างคล่องตัว และมีประสิทธิภาพสูงขึ้น รวมทั้งสามารถแข่งขันกับตนเองในแง่ความอยู่รอด และแข่งขันกับตลาดในช่วง ที่มีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ดีจากความเป็นผู้มีความคล่องแคล่ว ตัดสินใจอย่างรวดเร็วบางครั้งทีมงานตามเขาไม่ทัน "เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าอยู่นานๆ จะรู้จักนิสัยของผม"

ปัจจัยสำคัญหนึ่ง ที่ส่งให้ ดร.ก้องเกียรติ นำบล.แอสเซท พลัส ฝ่าฝันอุปสรรคแห่งวิกฤติเศรษฐกิจออกไปได้ คือ การสร้างรากฐานไว้อย่างแข็งแกร่ง และการมองเห็นถึงช่องว่างในตลาดที่จะเข้าไปทำธุรกิจ นั่นคือ ดำเนินธุรกิจเฉพาะด้าน (niche market) ที่มีความถนัด และมีคู่แข่งน้อยราย และเมื่อคู่แข่งมากขึ้นก็จะย้ายไปทำธุรกิจเฉพาะด้านอื่นๆ ที่คู่แข่งมองไม่เห็นต่อไป ไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษาด้านการแปรรูปองค์กร ล่าสุดเพิ่งได้ทีมงาน private banking จากธนาคารกรุงเทพ (BBL) 3 คน มาดูแลธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล (private fund) ที่กำลังขอใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. อยู่

"ทีมนี้ก็จะดึงลูกค้าเข้ามาเลย ส่วนธุรกิจอื่นๆ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเราไม่ทำเพราะสู้พวก ที่ทำอยู่ก่อนแล้วไม่ได้ คือ อะไร ที่เราสู้ไม่ได้เราไม่ทำเสียเวลา เนื่องจากว่าโอกาสทำธุรกิจในบ้านเรามีมาก หันไปทางไหนก็มีแต่โอกาสถ้าคนดูเป็น แต่ถ้าดูไม่เป็นก็มืดไปหมด" ซึ่งแนวความคิดในลักษณะนี้ทำให้ บล.แอสเซท พลัส ยืนหยัดอยู่รอดในตลาดที่มีการแข่งขันสูงได้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us