คาร์สเท่น แองเกิล ไม่ใช่คนใหม่ในตลาดรถของทวีป
เอเชีย เขาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศแถบนี้มาแล้วถึง 7 ปี
เขาเกิดที่เมืองฮานโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่
4 ธันวาคม 2501 และจบการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยลุดวิก-แมกซิมิเลี่ยนซ์
ในเมืองมิวนิค ในปี 2528
เขาเริ่มต้นการทำงานกับบีเอ็มดับบลิวมาตลอด ตั้งแต่จบการศึกษา โดยเริ่มจากฝ่ายควบคุมการเงิน
ของบีเอ็ม
ดับบลิว เอจี ในเยอรมนี หลังจากนั้นในปี 2533 ได้รับ
การแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการด้านกีฬายานยนต์ระหว่างประเทศ
เขาเริ่มเข้ามาอยู่ในเอเชีย ในปี 2537 ในตำแหน่ง
ผู้จัดการภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของบีเอ็มดับบลิว
ที่สิงคโปร์ ก่อนที่จะย้ายไปเป็นตัวแทนผู้อำนวยการ และประธานบริษัทบีเอ็มดับบลิว
โคเรีย ในเกาหลีใต้ เมื่อปี 2541 ซึ่งที่นี่เขายังได้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการด้าน
ยานยนต์ ของหอการค้าสหภาพยุโรป ในเกาหลีใต้อีกด้วย
เดือนสิงหาคม 2543 ได้รับแต่งตั้งให้เข้ามาเป็นประธานกรรมการบริษัทบีเอ็มดับบลิว
(ประเทศไทย) และบีเอ็มดับบลิว แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย)
"ตลาดของรถยนต์ในเอเชีย ซึ่งรวมถึงเมืองไทยด้วย คือลูกค้ามีการเรียกร้องสูงมาก
เมื่อได้จ่ายเงินแพงๆไป
สำหรับรถยนต์หรูแล้ว เขาต้องการการบริการที่ไม่ผิดพลาดเลย ทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ
100%" เขาสรุปกับ "ผู้จัดการ"
สำหรับตลาดในประเทศไทย แม้ว่าเขาพึงพอใจกับตัวเลขยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้น
หลังจากเข้ามารับตำแหน่ง แต่เข้ามองว่าการเติบโตของตลาดยังช้าอยู่มาก เมื่อเทียบกับที่บีเอ็มเคยทำยอดขายได้ถึงกว่า
6,600 คัน ในปี 2539 อย่างไรก็ตาม เขาก็เชื่อว่าตลาดของรถยนต์หรูจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า และประเทศไทย จะเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่
ที่สุดของบีเอ็มดับบลิวในภูมิภาคนี้
"เราทำอะไรได้สมบูรณ์แบบ ตามแผนที่ได้วางไว้ก่อน
ที่ผมจะมาอยู่ประเทศไทย และในอนาคตก่อนที่ผมจะย้ายไปอยู่ที่อื่น ผมมั่นใจว่าการดำเนินงานของบีเอ็มดับบลิวที่นี่
ยังคงต้องเป็นไปตามแผนที่วางไว้ตั้งแต่ต้น"