Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ สิงหาคม 2544








 
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2544
David Hendrix มืออาชีพ "วิภัชธุรกิจ" ของกสิกรไทย             
 


   
search resources

เดวิท เฮนดริกซ์




การเข้ารับตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัด การธนาคารกสิกรไทย โดยดูแลรับผิดชอบสายงานวิภัชธุรกิจ (Consumer Banking) ของ David Hendrix เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มิได้มีความ หมายเพียงการยอมรับในประสบการณ์ และความสามารถของเขาเท่านั้น หากยังบ่งบอกถึงสัญญาณในการรุกเข้าสู่กิจกรรมการตลาดที่มีกลุ่มเป้าหมาย เป็นลูกค้าขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงธุรกิจบัตรเครดิต และเครือข่ายสาขา ทั่วประเทศของกสิกรไทยในคราวเดียวกันด้วย

เส้นทางการเติบโตของ David Hendrix ในธุรกิจสถาบันการเงินนับเป็นกรณีที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะหากพิจารณาจากภูมิหลังด้านการ ศึกษาแล้วจะพบว่า เขาไม่ใช่ผู้บริหารที่สำเร็จการศึกษาจาก Business School ดังเช่นที่กำลังนิยมกันอยู่ในปัจจุบัน หากแต่หลังจากสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีจาก University of Utah แล้ว เขาได้ศึกษาต่อจนได้รับปริญญาบัตร MALD จาก Fletcher School of Law and Diplomacy แห่งมหาวิทยาลัย Tufts ในเมือง Boston รัฐ Massachusetts ซึ่งนับเป็นสถาบัน ชั้นนำสำหรับนักกฎหมายและนักการทูตแห่งหนึ่งของโลก

ช่วงปี 1969-1973 เขาได้รับราชการเป็นส่วนหนึ่งของ U.S. Marine Corps. ก่อนที่จะเริ่มเส้นทางอาชีพในแวดวงการเงินการธนาคาร กับ Citibank ในตำแหน่ง Assistant Vice President ประจำการอยู่ในฮ่องกง

David Hendrix ใช้เวลาส่วนใหญ่ในช่วงระหว่างปี 1973-1986 รับผิดชอบงานในตำแหน่ง หลากหลายเพื่อดูแลกิจกรรมของ Citibank ในเขต Greater China ซึ่งนับรวมตั้งแต่ Hong Kong, Macau, จีน และไต้หวัน ก่อนที่ในช่วงปลาย ของปี 1986-1995 เขาจะได้รับการโยกย้ายให้ดำรงตำแหน่ง General Manager และ CCO ของ Citibank ในประเทศไทย

ระยะเวลา 8-9 ปีในประเทศไทยนานพอที่จะบ่มเพาะให้เขาเกิดความรู้สึกผูกพัน โดย หลังจากที่เขาได้รับการโยกย้ายให้ไปดำรงตำแหน่ง VP และ GCB Country Head ของ Citibank Taiwan ได้เพียง 1 ปี ในเดือนเมษายน 1997 เขาก็กลับมาเมืองไทยอีกครั้งโดยเข้าร่วมงานกับธนาคารเอเชีย ในตำแหน่ง Executive Vice President รับผิดชอบกลุ่มงาน consumer banking ของธนาคารแห่งนี้

ช่วงเวลาดังกล่าวนี้เองที่ David Hendrix ได้แสดงความจัดเจนในธุรกิจ consumer banking ให้เห็นอย่างเด่นชัดอีกครั้ง ด้วยการรุกเข้าไปเปิด สาขาย่อยและให้บริการตู้ ATM ในพื้นที่ของห้าง สรรพสินค้าและ Supercenter-Supermarket อย่าง หลากหลาย ซึ่งนับเป็นกิจกรรมเชิงรุกที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักของธนาคารเอเชีย

กระนั้นก็ดี วันเวลาของ David Hendrix ในธนาคารเอเชีย มิได้ยั่งยืนมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ ABN AMRO ได้เข้ามาซื้อกิจการในช่วงปี 1998 พร้อมกับนโยบายที่มุ่งเน้นไปสู่การเป็น Wholesale Banking มากขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งเมื่อพ้นจากภาระผูกพันของสัญญาการซื้อขายหุ้นธนาคารเอเชียที่กำหนดว่า ห้ามผู้บริหารของ ธนาคารเอเชียลาออกจากตำแหน่งในช่วงระยะ 3 ปีแรกของการควบรวมกิจการ ก็ถึงคราวของ David Hendrix ในการแสวงหาที่ทำงานใหม่ที่เปิดโอกาสให้เขาได้แสดงฝีมืออีกครั้ง

ธนาคารกสิกรไทย กลายเป็นคำตอบที่ลงตัวสำหรับ David Hendrix ในห้วงยามเช่นนี้ เขาได้รับการกล่าวถึงในฐานะที่เป็นอีกหนึ่งในหลากหลายความภาคภูมิใจของ บัณฑูร ล่ำซำ แต่อาจจะเป็นการด่วนสรุปจนเกินไปว่าเขาจะเป็นจักรกลสำคัญ ในการขับเคลื่อนธุรกิจรายย่อยของธนาคารที่มีรากฐานมั่นคงมากแห่งนี้

ในการแถลงข่าวการเข้ารับตำแหน่งเมื่อ ไม่นานมานี้ David Hendrix กล่าวไว้อย่างน่าสนใจตอนหนึ่งว่า สถาบันการเงินแต่ละแห่งอาจมีวัฒนธรรมและจารีตที่แตกต่างกันบ้าง ในรายละเอียด แต่โดยองค์รวมแล้วทุกแห่งมีเป้าหมายใกล้เคียงกัน สิ่งที่น่าสนใจก็คือในช่วงที่ผ่านมาธนาคารไทยหลายแห่งได้ว่าจ้างบริษัท ที่ปรึกษาจากต่างประเทศให้ทำการศึกษาวิจัย ซึ่งล้วนแต่มีบทสรุปที่ดี แต่ที่น่าผิดหวัง ก็คือไม่สามารถนำมาปฏิบัติให้เหมาะสมกับภาวะแวด ล้อมของท้องถิ่นได้

"หน้าที่ของผมก็คือนำประสบการณ์ที่มี ผสานเข้ากับผลการวิจัยที่มีประโยชน์ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ภายในกำหนดเวลาที่รวดเร็ว ซึ่งนับเป็นความท้าทายที่มีความสำคัญที่สุดในตำแหน่งนี้"

บทบาทและความรับผิดชอบของเขาในธนาคารกสิกรไทยในช่วงเวลานับจากนี้ จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจติดตาม ซึ่งสิ่งที่เขาตระหนักเป็นอย่างดีก็คือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ล้วนแต่ดำเนินไปท่ามกลางเงื่อนเวลา และความเข้าใจระหว่างตัวเขากับทีมงานที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us