ด้วยดีกรีการแข่งขันของโทรศัพท์มือถือที่ทวีความร้อนแรง เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จากคู่แข่งขันที่มากรายขึ้น รวมไปถึง การมีผู้ถือหุ้นที่เป็นโอเปอเรเตอร์ข้ามชาติ
ทำให้สีสัน ของการตลาดในธุรกิจโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
ซีพี-ออเรนจ์ ไม่เพียงแต่สร้างสีสันความแปลกใหม่ให้กับตัวเอง ด้วยการเลือกสวนลุมพินีมาเป็นสถานที่ในการเปิดตัว
brand และการส่งบัตรเชิญแนวใหม่ เพื่อสร้างจุดสนใจให้กับสื่อมวลชน
ในฟากของดีแทคเองก็เช่นกัน รายนี้หลังจากได้เทเลนอร์มาถือหุ้น ก็มีการเปลี่ยน
แปลงทั้งชื่อ brand ใหม่ สร้างจุดขายใหม่ด้วย การคิดอัตราค่าบริการในรูปแบบใหม่
4 รูปแบบ และคิดค่าบริการเป็นวินาที จนได้ชื่อว่า ประสบผลสำเร็จในการ rebrand
จนชื่อของ ดีแทคจดจำได้แล้วทั่วไป
เมื่อถึงคราวที่ต้องเปิดตัวบริการ djuice เว็บไซต์ เป็นระลอกที่ 2 สำหรับใช้
ในการรวบรวมเนื้อหา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของ บริการโมบายอินเทอร์เน็ต ซึ่งดีแทคหวังว่าจะใช้แบรนด์ของ
djuice เป็นหัวหอกในการสร้างภาพลักษณ์ในเรื่องความทันสมัยให้กับแบรนด์ดีแทค
งานนี้ ดีแทคจึงต้องทุ่มทุนกับการเปิด ตัวในครั้งนี้เช่นกัน ไม่เพียงแต่ตัวของสถานที่
ซึ่งดีแทคเลือกสมาคมไทย-จีน ริมถนนสาทรใต้มาใช้เป็นสถานที่เปิดตัวบริการ
djuice ใช้เงินลงทุนไปไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท เพื่อเนรมิต สถานที่ให้สอดคล้องกับ
concept ของบริการ
พื้นที่ทั้ง 3 ชั้นภายในของสมาคมไทย-จีน ถูกออกแบบใหม่ ยึดตามแนวเพลงที่แตก
ต่างกันไป เพื่อให้สอดคล้องกับตัว concept ของบริการ เพื่อให้ผู้ใช้บริการเลือกข้อมูลตาม
แบบฉบับเฉพาะตัวตาม concept ที่ว่า makes you you
แต่น่าเสียดายที่ฝนฟ้าไม่เป็นใจ ทำให้ การเปิดงานต้องหยุดลงกลางคัน เมื่อฝนเทลงมาอย่างหนัก
จนแขกที่รับเชิญมาในงานประมาณ 500 คน ในจำนวนนี้มีทั้งพันธมิตรของ djuice
บรรดา trend secter หรือลูกค้าเป้าหมายที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ต้องทยอยกัน
เดินทางกลับ
ดีแทค ยังงัดกลยุทธ์การตลาดในการ สร้าง brand ของ djuice อย่างต่อเนื่อง
ด้วย การใช้การตลาดแนวใหม่ ที่เรียกว่า car rappers เป็นการติดสติ๊กเกอร์ขนาดใหญ่
มีคำว่า djuice บนตัวรถยนต์ จำนวน 100 คัน
วิธีการของดีแทค คือ ว่าจ้างเจ้าของรถยนต์ทั่วไป แต่จะต้องเป็นรถยนต์ที่มีระดับ
เช่น รถสปอร์ต บีเอ็มดับเบิลยู ฮอนด้า
สิ่งที่พวกเขาจะต้องพิจารณาถึงไลฟ์สไตล์ของเจ้าของรถยนต์ด้วย ต้องเป็นคนรุ่น
ใหม่ที่มีฐานะทางการเงิน และการใช้ชีวิตที่ทัน สมัย ซึ่งเป็นการบอกถึงเส้นทางที่รถเหล่านี้
จะต้องขับจากบ้านไปทำงาน เช่น จะต้องอยู่ ในย่านใจกลางเมือง สีลม สุขุมวิท
อาร์ซีเอ
ตามแผนนั้น ดีแทคจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3-6 เดือน ในการให้รถทั้ง 100 คันนี้ออกวิ่งบนท้องถนน
วิธีการเช่นนี้ก็เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่ม เป้าหมายที่จะเป็นลูกค้าที่ใช้บริการโมบายอินเทอร์เน็ต
ซึ่งจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อและต้องการใช้บริการ
ที่บอกถึงความทันสมัย
กลยุทธ์เหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อใช้ประโยชน์จาก
brand ของ djuice ที่ถูกวางภาพลักษณ์ในเรื่องความทันสมัย มาเป็นตัวเสริมให้กับ
แบรนด์ของดีแทคมีความโดดเด่น และแข็ง แกร่งมากยิ่งขึ้น
"ที่ผ่านมา ตอนที่เราออกแบรนด์ ดีแทค เรายังไม่เคยพูดถึง djuice ซึ่งเราต้อง
การสร้างให้แบรนด์นี้มีความเป็น innovative"
สมวงศ์เชื่อว่า การเลือกสื่อโฆษณาใน ลักษณะนี้เป็นแนวใหม่สำหรับเมืองไทย
ที่จะ สามารถสร้างความแตกต่างและสร้างความสนใจได้มากกว่าการโฆษณาที่โลโกในลักษณะ
ของแผ่นป้ายบิลบอร์ดตามปกติ
"ถ้าเป็นป้ายโลโกทั่วไป คนจะไม่สนใจ เท่าไร แต่ถ้ามีมีเดียแปลกๆ ใหม่ และตรงกับ
ภาพลักษณ์ของ brand ก็น่าจะได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น" สมวงศ์กล่าว เขายังเชื่อว่าสื่อโฆษณาที่สร้างความสนใจในลักษณะนี้ทำให้ประหยัดงบโฆษณาได้มากขึ้นกว่าเดิม
การเคลื่อนไหวเหล่านี้ นับเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงธุรกิจโทรศัพท์มือถือในเวลา
ที่เป็นเรื่องของการตลาด ที่จำเป็นต้องหาแนว ทาง หรือลูกเล่นใหม่ๆ มาสร้างสีสันให้กับตัวเอง
และต้องใช้มืออาชีพเข้ามาดูแล
ไอเดียของ car rappers ของดีแทคในครั้งนี้ ได้มาจากบริษัท garag ซึ่งเป็นบริษัท
เอเยนซีโฆษณาที่ดูแลด้านการวางแผนสื่อโฆษณาให้กับดีแทค เป็นผู้เสนอไอเดียให้
บริษัท garag นี้เป็นเอเยนซีที่มีฐานจากประเทศฝรั่งเศส
ส่วน MDK รับหน้าที่ในเรื่องของการประชาสัมพันธ์กับสื่อมวลชน และบริษัท
BEST รับหน้าที่เป็นครีเอทีฟในการวางคอนเซ็ปต์ในเรื่องของหนังโฆษณา หรือแม้แต่โลโก
