Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2544








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2544
TAMC เริ่มเดินเครื่องแล้ว             
โดย ปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์
 


   
search resources

TAMC




ในที่สุดพระราชกำหนดบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ที่ เรียกกันติดปากว่า TAMC ก็ได้ผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ตราเป็นกฎหมายสมบูรณ์พร้อมดำเนินการได้อย่างเต็มรูปแบบแล้วเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

"การจัดตั้งทีเอเอ็มซีครั้งนี้ รัฐบาลได้จัดตั้งเป็นขั้นตอน ด้วยการแต่งตั้งคณะทำงานชุดต่างๆ รวมทั้งให้นายธนาคาร ทั้งภาครัฐและ เอกชน เข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น" มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมการยกร่างกฎหมาย บสท. กล่าวในการสัมมนา "วิเคราะห์เจาะลึกทีเอเอ็มซี ใครได้....ใคร เสีย" ซึ่งจัดโดยสถาบันพระปกเกล้าก่อนที่ร่างกฎหมายจะเข้าสู่สภาเพียง 1 วัน

ตามขั้นตอน หลังจากที่รัฐบาลได้ออกกฎหมายมาเป็นพระราช กำหนด ก่อนนำเข้าสู่สภา องค์กร บสท.ได้ถูกจัดตั้งขึ้นและกำลังอยู่ระหว่างการรับโอนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จากธนาคาร ของรัฐ 4 แห่ง คือ ธนาคารกรุงไทย ไทยธนาคาร ธนาคารนครหลวง ไทย และธนาคารศรีนคร กับหนี้ที่ของธนาคารพาณิชย์เอกชน ซึ่งมีจำนวนเจ้าหนี้มากกว่า 2 ราย เข้ามาอยู่ใน บสท.

จำนวนลูกหนี้เอ็นพีแอลที่จะรับโอนเข้ามาตามเป้าหมาย มีทั้งสิ้นประมาณ 1.6 แสนราย มูลหนี้รวมประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท

หลังจากนั้นก็จะเริ่มกระบวนการตรวจสอบบัญชี ก่อนที่จะแยก หนี้ออกเป็นกองๆ แล้วจ้างมืออาชีพเข้ามาบริหาร

อย่างไรก็ตาม หลังการอภิปรายร่างกฎหมายนี้ในสภาผู้แทนราษฎร ทำให้เกิดข้อห่วงใยเกี่ยวกับเรื่องของความโปร่งใสในการบริหาร ของคณะกรรมการ บสท. ตามมา โดยเฉพาะประเด็นอำนาจทางกฎหมายที่ได้มีการมอบไว้ให้อย่างเบ็ดเสร็จในการจัดการกับลูกหนี้ที่รับโอนเข้ามา ทั้งในการจัดทำแผนปรับโครงสร้างหนี้ ตลอดจนการจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้

ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเจ้าของเรื่องก็เข้าใจในความห่วงใยเหล่านี้ แต่เขาเชื่อว่าการมี บสท. คือ แนวทางในการแก้ปัญหาเอ็นพีแอลทั้งระบบได้อย่างดีที่สุดในขณะนี้

"ผมเรียนรู้จากการเมืองที่อินโดนีเซีย เขาตั้งเอเอ็มซีไม่สำเร็จเพราะเหตุผล 2 อย่าง หนึ่ง-ก็เหมือนที่เมืองไทยเรา มีการกล่าวหากัน ว่าคนนั้นไม่ดี คนโน้นไม่ดี คนนั้นได้เปรียบ คนนี้คนรวย คนจนอะไรอย่างนี้ มันไม่จบเสียที มันเป็นอย่างนี้ตลอดเวลา และสอง-Extra Legel Power มันไม่มี เวลาที่มันมี AMC ขึ้นมา อำนาจจริงไม่มี"

ปัจจุบัน คณะกรรมการบสท.ประกอบด้วยเชาว์ สายเชื้อ อดีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญ โดยมี ร.ต.ยอดชาย ชูศรี ซึ่งขอยืมตัวมาจาก แบงก์ชาติ เป็นกรรมการผู้จัดการ

ร.ต.ยอดชาย เป็นผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการประนอมหนี้ ของแบงก์ชาติ ซึ่งลักษณะงานไม่แตกต่างไปจาก บสท. เท่าไรนัก แต่ อำนาจตามกฎหมายกลับมีน้อยกว่ามาก ทำให้งานของสำนักส่งเสริม การประนอมหนี้ในช่วงที่ผ่านมา ไม่มีความคล่องตัวเท่าที่ควร

ในทางตรงข้าม การที่ต้องอยู่กับการประนอมหนี้มาตลอด ทำให้เขาเข้าใจวิธีการทำงาน และมองเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่าง ทะลุปรุโปร่ง

การเข้ามารับบทบาทใน บสท. ซึ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จ ในช่วงหลังจากนี้ น่าจะทำให้กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ ตามนโยบายรัฐบาลใหม่ ได้เห็นผลรวดเร็วขึ้น

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us