หลักสูตรที่ "พาราไดส์ สคูบา" และร้านดำน้ำส่วนใหญ่ ในพัทยา เลือกที่จะใช้หลักสูตรสำหรับสอนให้กับผู้สนใจดำน้ำ ที่เดินทางเข้ามาเรียน คือ หลักสูตรของ PADI หรือ Professional Association Development Instructor หนึ่งในสมาคมผู้ประกอบ การดำน้ำที่เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มผู้ประกอบการดำน้ำทั่ว โลก สำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสหรัฐฯ มีหน้าที่ผลิตนักดำน้ำ ขั้นต่างๆ จนถึงขั้นเป็นครูฝึกสอนดำน้ำ ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างดีของ นักดำน้ำทั่วโลก หลักสูตรการเรียนการสอนของ PADI มีทั้งการสอนในขั้นความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการดำน้ำเรื่อยไปจนถึงสำเร็จเป็นครูฝึก ซึ่งผู้สำเร็จการศึกษาในขั้นดังกล่าวสามารถประกอบ อาชีพเป็นครูฝึกสอนดำน้ำที่จุดใดในโลกก็ได้ นอกจากนั้นยังมีหลักสูตรเกี่ยวการซ้อมใช้อุปกรณ์ดำน้ำ, การบรรจุถังออกซิเจน ซึ่งหลักสูตรการเรียนการสอนของ PADI เป็นการเรียนการสอนแบบ Fun Diving ที่ครบวงจรและเป็นที่ยอมรับว่าดีที่สุดและได้มาตร-ฐานที่สุดในโลก

สำหรับการสอนดำน้ำของ "พาราไดส์ สคูบา" จะเปิดสอน ทั้งสิ้น 8 ขั้น ประกอบด้วย

Open Water หลักสูตรนี้สำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานการดำน้ำ โดย จะใช้เวลาเรียนทั้งสิ้น 4 วัน โดย 2 วันแรก จะเรียนเกี่ยวกับฟิสิกส์เบื้องต้น, การใช้อุปกรณ์ดำน้ำ การเรียนรู้เกี่ยวกับตารางน้ำลึก และการเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนดำน้ำจริง ควบคู่ไปกับการฝึกภาคปฏิบัติในสระว่ายน้ำ ที่เหลืออีก 2 วัน เป็นการฝึกภาคสนามในทะเล ภายใต้การดูแลของครูฝึก ผู้เรียนสำเร็จในระดับชั้นนี้จะได้บัตรที่ระบุ ว่า ผู้ผ่านหลักสูตรนี้สามารถดำน้ำได้ในระดับความลึก 8 เมตร

Advance Water Dive ใช้เวลาเรียนในห้องเรียน 2 วัน เพื่อทบทวนความรู้และการเตรียมความพร้อมจากขั้นแรก ผู้สำเร็จการเรียน ในขั้นนี้ จะได้รับบัตรรับรองการเรียนดำน้ำในระดับน้ำลึก 30 เมตร

Medical Frist Dive หลักสูตรเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลใต้น้ำเบื้องต้น เป็นการ เรียนในห้องเรียนประมาณ 8-9 ชั่วโมง

Rescue หลักสูตรเกี่ยวกับการช่วยชีวิต จะใช้เวลาเรียนทั้งในห้องเรียนและภาคปฏิบัติในน้ำ เวลาเรียนทั้งสิ้น 3 วัน

Dimaster ผู้เรียนในระดับนี้จะใช้เวลาเรียน 2 เดือน เป็นการเรียนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ หลักสูตรเกี่ยวกับการทำงานในร้านดำน้ำ รวมทั้งการเรียนเกี่ยวกับการดูแลลูกค้า, การบริหารการตลาด, การใช้และซ่อมอุปกรณ์ดำน้ำ รวมทั้งการ เตรียมตัวเป็นผู้ช่วยครูฝึก โดยจะเรียนภาค ทฤษฎีในห้องเรียน 12 วัน ที่เหลือเป็นการเรียนใต้ทะเล

Assistant Instructor หลักสูตรผู้ช่วยครูฝึกหลักสูตรนี้จะใช้เวลาในการเรียน 10 วัน เป็นหลักสูตรเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมก่อนเป็นครูฝึก โดยจะทบทวน การเรียนตั้งแต่ขั้นต้นจนถึงระดับปัจจุบัน

Instructor หลักสูตรครูฝึก ผู้เรียนจะต้องใช้เวลาในการอบรมการเป็นครูฝึก 12 วัน หลักจากนั้นจะต้องผ่านการทดสอบ จาก PADI ผู้ผ่านการทดสอบจะได้รับประกาศนียบัตรขั้น IDC เพื่อการันตีว่าผู้เรียนผ่านการเรียนในระดับสูงสุดและผ่านการทดสอบจากเจ้าของหลักสูตรแล้ว นี่คือจุดแข่งขันสำคัญของแต่ละร้าน ที่เปิดสอนดำน้ำให้กับผู้เรียนเทคนิคการดำน้ำ และการปรับตัวใต้ท้องทะเลคือจุดแข่ง ของแต่ละครูผู้สอน

แต่มิใช่เพียงผ่านการทดสอบผ่านมาตรฐาน PADI และการศึกษาในระดับขั้นสูงสุดจะสามารถประกอบอาชีพครูสอนดำน้ำได้ทันที ผู้เรียนจะต้องผ่านการเก็บชั่วโมงดำน้ำใต้ทะเลอีก 100 Dive ซึ่ง สมุดบันทึกการดำน้ำแต่ละครั้ง จะเป็นหลักฐานสำคัญในการเข้าสมัคร เป็นครูฝึกสอนว่ายน้ำให้กับสถาบันอื่นๆ

Leander บอกว่า ในแต่ละปี 70% ของผู้เดินทางเข้ามาใช้บริการ กับบริษัทคือ กลุ่มนักดำน้ำจากเยอรมนี ที่เหลือเป็นชาวญี่ปุ่น, ไต้หวัน ฯลฯ สำหรับค่าใช้จ่ายต่อการเรียนจน จบหลักสูตรสูงสุดผู้เรียนจะเสียค่าใช้ จ่ายประมาณ 1 แสนบาท ไม่รวมค่าหนังสือและอุปกรณ์ในการดำน้ำ โดย ผู้เรียนจะใช้เวลาเรียนทั้งสิ้น 1 ปี สำหรับหลักสูตรอื่นๆ จะเสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 13,000 บาทเรื่อยไปจน ถึง 15,000 บาท

PADI คืออะไร

PADI หรือ Professional Associa-tion Development Instructor คือ หนึ่งในสมาคมผู้ประกอบการดำน้ำที่เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มผู้ประกอบการดำน้ำทั่วโลก โดยสมาคมแห่งนี้มีหน้าที่ผลิตนักดำน้ำขั้นต่างๆ จนถึง ขั้นเป็นครูฝึกสอนดำน้ำ ซึ่งหลักสูตรการเรียนการสอนของ PADI มีทั้งการ สอนในขั้นความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการดำน้ำเรื่อยไปจนสำเร็จถึงขั้นเป็นครูฝึก ข้อแตกต่างของ PADI กับ สมาคมผู้ประกอบการดำน้ำอื่น อย่าง เช่น NAUI หรือ SEA MUS อยู่ที่หลัก สูตรการเรียนของ PADI จะเน้นการสอนในสาขาต่างๆ อาทิ การถ่ายรูปใต้น้ำ, การดำน้ำลึก, การดำน้ำกลางคืน, การดำน้ำ ในภาวะกระแสน้ำเชี่ยว, การสำรวจโลกใต้ทะเล และสัตว์ใต้ทะเล ซึ่งในหนังสือการเรียนดำน้ำของ PADI จะให้ข้อมูลและรายละเอียดอย่างชัดเจน นอกจากนั้นยังสอนเกี่ยวกับการซ้อมใช้อุปกรณ์ดำน้ำ, การบรรจุถังออกซิเจน และความรู้เกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ดำน้ำต่างๆ

ขณะที่หลักสูตรการเรียนดำน้ำของ NAUI และ SEA MUS จะเน้นที่การดำน้ำเพื่อการพาณิชย์และการประกอบธุรกิจดำน้ำ มากกว่า

สำหรับผู้สำเร็จการเรียนดำน้ำ ใน หลักสูตร PADI จากทั่วโลกจะมีประมาณ 2 พันคน โดยตำราเรียนดำน้ำของ PADI ได้แปลเป็นภาษาต่างๆ 18 ภาษา อาทิ จีน, ไต้หวัน, ฝรั่งเศส, อิตาลี, ญี่ปุ่น, อังกฤษ, เกาหลี, สวีเดน, ฮิบบลู ฯลฯ แต่ยังไม่มีการแปลเป็นภาษาไทย

โดยผู้เกี่ยวข้องในวงการดำน้ำ กล่าวว่าสาเหตุที่หลักสูตรการเรียนการ สอนดำน้ำของ PADI ยังไม่มีการแปลเป็น ภาษาไทย เพราะศัพท์เทคนิคบางคำไม่ สามารถแปลเพื่อหาความหมายในภาษา ไทยได้ อย่างไรก็ตาม แม้ PADI จะยังไม่มีตำราเรียนภาษาไทย แต่ในปัจจุบัน ประเทศไทยมีครูฝึกสอนดำน้ำที่สำเร็จการศึกษาจาก PADI ถึง 100 กว่าคน แต่ ครูผู้ฝึกสอนดำน้ำในประเทศไทย ที่ทำการสอนให้กับผู้สนใจเรียนส่วนใหญ่กลับเป็นชาวต่างชาติ เนื่องจากผู้เรียนในระดับครูฝึกชาวไทยจะสอนดำน้ำเฉพาะเป็นอาชีพเสริมเท่านั้น

เงื่อนไขสำคัญที่ PADI กำหนดให้ผู้สำเร็จการฝึกขั้นครูฝึก จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดก็คือ ครูสอนว่ายน้ำจะต้อง ผ่านการทดสอบเพื่อขอต่ออายุการเป็นครูผู้ฝึกตามมาตรฐาน PADI ทุกปี นอกจากนั้นในแต่ละปีครูฝึกสอนจะต้องรับทราบข่าวสารที่ PADI จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่เกี่ยวกับการเคลื่อน ไหวใต้ท้องทะเลที่มีการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ 3 เดือน ซึ่งถือเป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโลกใต้ทะเลที่มีความเคลื่อนไหว และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งผู้เป็นสมาชิกของ PADI จะได้รับ

สำหรับการต่ออายุใบอนุญาตผู้ฝึก สอนดำน้ำ นักดำน้ำทั่วโลกสามารถทดสอบและต่ออายุได้จากร้านจำหน่ายอุปกรณ์ดำน้ำ และร้านซึ่งเปิดฝึกสอนดำน้ำที่ได้รับการรับรองว่า ผ่านการตรวจ สอบจาก PADI จนได้การรับรองในระดับ 5 ดาว ซึ่งมาตรฐาน 5 ดาวที่ PADI จะให้กับร้านจำหน่ายอุปกรณ์ และร้านที่เปิดสอนฝึกสอนดำน้ำจะพิจารณาจากการดำเนินงานของร้านนั้นๆ ว่าเปิดให้บริการด้านใดบ้าง อาทิ รับซ่อมแซมอุปกรณ์, บรรจุถังก๊าซสำหรับดำน้ำ, มีการฝึกสอน และมีหนังสือเกี่ยวกับการดำน้ำ เพื่อจำหน่ายและเผยแพร่ให้กับกลุ่มนักดำน้ำ โดยจะ ต้องเป็นการดำเนินธุรกิจที่ครบวงจร