เมื่อนักกอล์ฟมือสมัครเล่นอย่าง Mark McCormack ต้องเข้าศึกษาใน Yale Law School
ในช่วงทศวรรษที่ 1950 แต่เขาไม่ได้ละทิ้งกีฬาสุดโปรด
เมื่อมีเวลาว่างเขาจัดนิทรรศการด้วยการนำโปรกอล์ฟมาให้ความรู้กับคนที่สนใจ
และในปี 1960 โปรกอล์ฟอย่าง Arnold Palmer ถาม McCormack ว่าต้องการเข้ามาเป็นบริหารด้าน
การเงินให้ตนเองหรือไม่ ซึ่งเขาไม่ปฏิเสธ
จุดนี้เองส่งผลให้ทั้งสองจับมือกันร่างสัญญาเพื่อดำเนินธุรกิจโดยมีกีฬากอล์ฟเป็นตัวสร้างสรรค์
และในเวลาเพียง 2 ปี Palmer มีรายได้เพิ่มสูงขึ้นจาก 60,000 เป็น 500,000
เหรียญสหรัฐ
McCormack มีชัยชนะเหนือเกมกีฬาจากการนำธุรกิจ เข้ามาสนับสนุน และเป็นจุดเริ่มต้นธุรกิจ
International Management Group (IMG)
ระยะเวลาผ่านไปจนถึงกลางทศวรรษที่ 1960 IMG เซ็นสัญญากับ นักกอล์ฟชื่อดังอีกหลายคน
รวมไปถึงนักกีฬาอื่นๆ อาทิ Jackie Stewart นักแข่งรถ Jean-Claude Killy นักสกี
รวมไปถึงการออกสู่ตลาดโลกด้วยการเซ็นสัญญากับ Stewart แห่งสกอตแลนด์, Killy
ของฝรั่งเศส และ Gary Player แห่งแอฟริกาใต้ และก่อนสิ้นทศวรรษโทรทัศน์เริ่มมีอิทธิพลต่อการแข่งขันกีฬา
IMG จึงได้ใช้ประโยชน์ในการโปรโมตและ ออกสู่ตลาดโลก
ปี 1967 McCormack ก่อตั้ง Trans World International (TWI) เพื่อดำเนินธุรกิจด้านโทรทัศน์
แพร่ภาพการแข่งขันกีฬา ปีต่อมาเซ็นสัญญาเป็นผู้ดำเนินงานการแข่งขันกีฬาเทนนิส
Wimbledon เพื่อสิทธิการถ่ายทอดและผลิตวิดีโอ
ช่วงทศวรรษที่ 1980 IMG คือองค์กรที่สนับสนุนกีฬาในฐานะผู้จัดการหาสปอนเซอร์การถ่ายทอดจนทำให้เกิด
sport business อย่างเด่นชัด ปัจจุบันมีลูกค้าซึ่งเป็นนักกีฬาระดับโลกมากมาย
อาทิ Andre Agassi, Pete Sampras, Tiger Woods ส่วนรายการกีฬาที่มีอยู่ในมือ
เช่น Wimbledon, America"s Cup, ATP Men"s Tennis Tour หรือ PGA
Tour เป็นต้น
สังเกตได้ว่า IMG เกิดขึ้นเนื่องจากเข้าไปจัดการธุรกิจกีฬาชนชั้นสูง กีฬาเฉพาะกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นกอล์ฟ เทนนิส จักรยานยนต์ เทเบิลเทนนิส หรือรักบี้
เมื่อประสบความสำเร็จกับกีฬาชั้นสูงเริ่มรู้สึกถึงความเป็นกีฬาที่เป็น
mass มากขึ้น และภาพลักษณ์กีฬาที่เข้าถึงกลุ่มคนโดดเด่นมากที่สุด คือ ฟุตบอล
จึงกระโดดเข้ามาเป็น ผู้ร่วมสนับสนุนกีฬาฟุตบอล อาทิ Copa America, U.S.
Soccer Federation
นอกจากนี้ยังได้เซ็นสัญญากับนักฟุตบอลชั้นนำของโลกกว่า 500 คนในการเป็นตัวแทนด้านผลประโยชน์
ปี 1994 IMG เริ่มรุกเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียเพื่อมองหาผลประโยชน์ร่วมกับบรรดากีฬาชั้นนำ
โดยเริ่มเป็นผู้จัดการแข่งขันฟุตบอลลีกสูงสุดของจีน "Chinese National Football
League" และ "Chinese FA Cup"
สำหรับประเทศไทย IMG สร้างความฮือฮาให้กับคนไทยด้วยการนำ Tiger Woods เข้ามาเล่นเมื่อหลายปีที่ผ่านมา
โดย มีจอห์นนี่ วอล์คเกอร์เป็นสปอนเซอร์ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
เมื่อบริษัทสัมผัสกระแสความนิยมกีฬาที่คนไทยตอบรับ จึงเริ่มนำการตลาดเข้ามาผสมผสานกับกีฬา
เป้าหมายจึงไปหยุดที่กีฬาฟุตบอล ซึ่งไทยยังไม่มีรายการที่ถือเป็นลีกสูงสุด
จึงอาสาเข้ามาเป็นผู้จัดการแข่งขัน โดย 2 ปีแรก ได้จอห์นนี่ วอล์คเกอร์เป็นสปอนเซอร์
และ 3 ปีหลังเปลี่ยนเป็นคาลเท็กซ์
5 ปีแห่งความทะเยอทะยานของ IMG ที่มีต่อวงการฟุตบอลไทยต้องคว้าน้ำเหลว
เนื่องจากไม่ได้รับการตอบรับ จนต้องถอนตัวออกไป
ปัจจุบัน IMG สานต่อธุรกิจในไทยด้วยการนำเอาลิเวอร์พูลเข้ามาแข่งกับทีมชาติไทย
โดยมีโคคา-โคลา (ประเทศไทย) เป็นสปอนเซอร์หลัก แต่ภาพที่ออกมาดูเหมือนว่าโคคา-โคล่า
ได้รับเครดิตไปมากกว่า ส่วนตัวเองกลับไม่เป็นที่รู้จักของ คนไทย
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจของ IMG ในไทยลุ่มๆ ดอนๆ สำหรับคำว่า
sport business หลายคนในวงการตั้งข้อสังเกตว่า IMG ไม่มีความสัมพันธ์กับธุรกิจสื่อทำให้ความสำเร็จอยู่ไกลตัวอย่างมาก
เมื่อเป็นเช่นนี้ IMG จึงต้องกลับไปหาธุรกิจที่ตนเองถนัด นั่นคือ กีฬาชนชั้นสูง