Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มิถุนายน 2544








 
นิตยสารผู้จัดการ มิถุนายน 2544
Wharton-INSEAD พันธมิตรสำคัญบนเวทีการศึกษาระดับโลก             
โดย สมศักดิ์ ดำรงสุนทรชัย
 


   
search resources

Wharton School of the University of Pennsylvania
INSEAD
MBA




ความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาด้านการบริหารธุรกิจ ซึ่งต่างมีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในระดับ Top 10 ของโลก ไม่เพียงแต่จะสะท้อนแนวโน้มใหม่ของกระบวนการศึกษาเรียนรู้ ในระดับนานาชาติเท่านั้น หากแต่ยังเป็นปรากฏการณ์ ที่น่าสนใจติดตามอย่างยิ่ง

การประกาศเป็นพันธมิตรระหว่าง Wharton School of the University of Pennsylvania ในสหรัฐ อเมริกาและ INSEAD จากฝรั่งเศส เมื่อ เดือนมีนาคมที่ผ่านมา นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญในเวทีการศึกษาระดับโลก เพราะความร่วมมือกันครั้งนี้ มิได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานการแลกเปลี่ยน คณาจารย์ไปดำเนินการสอนในต่างสถาบันเท่านั้น หากแต่ยังหมายรวมถึงการเปิดหลักสูตรร่วมกันใน 4 วิทยาเขต ที่กระจายอยู่ใน 3 ภูมิภาค หลักของโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย

"สิ่งที่ Wharton และ INSEAD กำลังร่วม กันดำเนินการในขณะนี้ก็คือ การสร้างรูปแบบ ใหม่ของการศึกษาวิชาว่าด้วยการบริหารจัดการ ทางธุรกิจในสภาพแวดล้อมระดับนานาชาติ ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก" Patrick T. Harker คณบดี Wharton กล่าวและย้ำว่า นี่คือโอกาสสำคัญสำหรับทั้งคณาจารย์และนักศึกษาของทั้งสองสถาบันในการเข้าสู่องค์ความรู้ระดับโลก และในทางกลับกันสิ่งที่ทั้งสองสถาบันเสนอใน ครั้งนี้ก็นับเป็นช่องทางสำคัญที่เปิดให้โลกได้มีโอกาสสัมผัสสถาบันทั้งสองนี้มากขึ้น

จุดที่น่าสังเกตอย่างมากจากการร่วมมือ กันของสถาบันทั้งสองแห่งนี้ อยู่ที่ยุทธศาสตร์การขยายตัวของสถาบันทั้งสอง ซึ่งต่างให้ความ สนใจกับโอกาสในการส่งผ่านองค์ความรู้ไปสู่ตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของสถาบันทั้งสองในช่วงปี 2000 ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการเตรียมการเพื่อเชื่อมโยง jigsaw ภาพใหญ่ในปัจจุบัน

Wharton ซึ่งมีฐานรากอยู่ที่ Philadel-phia ในรัฐ Pennsylvania ทางฝั่งตะวันออกของ สหรัฐอเมริกา ได้เปิดวิทยาเขตใหม่ทางฝั่งฝาก ตะวันตกของสหรัฐอเมริกาไปเมื่อปลายปี 2000 ที่ผ่านมา โดยวิทยาเขตแห่งใหม่ ที่ใช้ชื่อว่า Wharton West ตั้งอยู่ที่ San Francisco, Cali-fornia นับเป็นการขยายโอกาสและสนองตอบต่อพัฒนาการในธุรกิจอุตสาหกรรมทางฝั่งตะวันตก และทำให้ Wharton มีเครือข่ายครอบคลุมผู้คนทั้งทางฝั่งมหาสมุทรแอตแลน ติก และแปซิฟิกไปพร้อมกัน

ขณะที่ INSEAD ซึ่งมีจุดเริ่มต้นและดำเนินการอยู่ใน Fontainebleau ประเทศฝรั่ง เศส มาเป็นเวลานานกว่า 44 ปี ได้ขยายวิทยา เขตมายังสิงคโปร์ ในฐานะที่เป็น Asia Campus ในปี 2000 โดยมีนักศึกษาจาก 26 สัญชาติ เข้า ร่วมในหลักสูตร MBA ของ INSEAD นี้

หากพิจารณาจากวัตถุประสงค์การขยายวิทยาเขตของทั้ง Wharton และ INSEAD จะพบว่าเป้าหมายสำคัญนอกจากจะอยู่ที่ความ พยายามในการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ (business networking) จากนักศึกษาที่มีภูมิหลังทางธุรกิจและมาจากภูมิภาคต่างๆ ซึ่งกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการประชาสัมพันธ์ นอกเหนือจากองค์ความรู้ที่สถาบันหยิบยื่นให้แล้ว การขยายวิทยาเขตของสถาบันทั้งสองยัง เป็นความพยายามที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนา ของ emerging market อีกด้วย

สอดคล้องกับแนวความคิดของ Gabriel Hawawini คณบดีของ INSEAD ที่ระบุว่าสถาบันที่จะก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในการศึกษา ว่าด้วยการบริหารจัดการในอนาคต จะต้องมีช่องทางที่เชื่อมโยงต่อโลก มีรูปแบบการศึกษาที่ยั่งยืนและที่สำคัญคือ "การมีโครงข่ายความรู้และวิทยาการทางธุรกิจ" Global Knowledge Networking

ข้อเท็จจริงประการหนึ่งของ Wharton และ INSEAD ก็คือ Whar- ton เป็นสถาบันการศึกษาเก่าแก่ ที่มีการก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1881 หรือ กว่า 120 ปีมาแล้วและนับเป็นสถาบันการศึกษาทางด้านธุรกิจแห่งแรกๆ ของโลก โดยได้รับการยอมรับในฐานะสถาบันชั้นนำ 1 ใน 10 ของโลก และมีเครือข่ายของศิษย์เก่ากว่า 75,000 คนกระจายอยู่ทั่วโลก

ขณะที่ INSEAD ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1957 นับเป็นสถาบันที่มีความแข็งแกร่งในวิทยาการ และการวิจัยว่าด้วย digital economy นอกจาก นี้ความร่วมมือทางวิชาการกับบรรษัทชั้นนำของโลกทั้งในยุโรปและอเมริกา ทำให้ INSEAD เป็นสถาบันที่อุดมไปด้วยเครือข่ายความสัมพันธ์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า wharton มากนัก

ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง Wharton และ INSEAD ในระยะเริ่มแรกนั้น หลักสูตรการ บริหารทั่วไป (general management) จะทำ การสอนในวิทยาเขตทั้ง 4 แห่งของทั้งสองสถาบัน ก่อนที่จะมีการผสานจุดเด่นของทั้งสอง สถาบันมาพัฒนาเป็นหลักสูตรใหม่ๆ อีกจำนวนหนึ่ง โดยในระยะแรกนี้ หลักสูตรใหม่จะประกอบด้วย Global Financial Manage-ment และหลักสูตร MBA Update ซึ่งจะเป็นหลักสูตรว่าด้วยแนวความคิด และเทคนิควิธีใหม่ๆ ในการบริหารจัดการซึ่งออกแบบมาสำหรับผู้ที่เคยได้รับการศึกษาในระดับ MBA มาแล้วโดยเฉพาะ

นอกจากนี้ สถาบันทั้งสองจะปรับหลัก สูตรให้มีความเป็นหนึ่งเดียว โดยจะเริ่มจากหลักสูตรที่มีการเรียนการสอนอยู่แล้วในปัจจุบัน เช่น Advanced Industrial Marketing Strategy ซึ่งเป็นวิชาที่ทำการสอนทั้งที่ Wharton ใน Philadelphia และโดย INSEAD ใน Fontaine-bleau และ Singapore

ขณะเดียวกันสาระสำคัญของความ ร่วมมือดังกล่าว ยังอยู่ที่การเปิดโอกาสให้นักศึกษาในหลักสูตร MBA ของทั้งสองสถาบันสามารถลงทะเบียนในรายวิชาต่างๆ ที่เปิดสอนในวิทยาเขตทั้ง 4 แห่งของทั้งสองสถาบัน พร้อมกับบริการ career management ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสใน การประกอบอาชีพการงานบนเวทีระดับโลกสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาอีกด้วย

สำหรับการบริหารโครงการความร่วมมือในครั้งนี้ จะมี John Kimberly เป็นผู้กำกับดูแล โดยเขาจะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการ และรายงานความคืบ หน้าให้คณบดีของทั้ง Wharton และ INSEAD ได้รับทราบ

ทั้งนี้ John Kimberly มีฐานะเป็น Henry Bower Professor of Entrepreneurial Studies ที่ Wharton ขณะเดียวกันก็ดำรงตำแหน่ง Novartis Chair in Healthcare Management ที่ INSEAD โดยเขาได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ จากภาควิชา Management and Health care Systems ของ Wharton และได้ใช้เวลาในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่ INSEAD ในฐานะ visiting pro-fessor ทำการสอนและวิจัยด้วย

ยุคสมัยที่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คนบนพื้นพิภพถูกบีบกระชับเข้ามาให้มีสภาพ ไม่แตกต่างจากหมู่บ้านโลก ท่ามกลางการ แข่งขันทางธุรกิจที่มีความหนักหน่วงเพิ่มขึ้น เป็นลำดับนั้น ดูเหมือนว่าความร่วมมือของ สถาบันการศึกษาระดับโลกทั้งสองแห่งนี้ กำลังส่อแสดงนัยบางประการ และอาจนำไปสู่แนวโน้มใหม่ๆ ในแวดวงการศึกษา ซึ่งน่าสนใจไม่น้อย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us