ยุคแรกๆ ของการเข้ามาสู่วงการบ้านจัดสรรของแลนด์แอนด์เฮ้าส์เมื่อปี 2517
รูปแบบของบ้านในแต่ละโครงการก็ไม่ได้ต่างกับบ้านจัดสรรอื่นๆ เท่าไรนัก "รูปลักษณ์"ของบ้านอาจจะไม่ใช่เรื่องสำคัญในสมัยนั้นเพราะความต้องการมีมาก
แต่สินค้าในตลาดยังมีน้อยอยู่
ในปี 2525 แลนด์ฯ เริ่มให้ความสำคัญในเรื่องรูปแบบบ้านมากขึ้น บ้านสวย โครงการแรกของแลนด์ฯ
ที่ต่างจาก "บ้านโหล" หรือ "บ้านกล่อง" ที่ไร้รสนิยมทั่วไป
คือ "บ้านนันทวัน" ที่เชียงใหม่
อนันต์ซื้อที่ดินแปลงนี้มาจากบัญชา ล่ำซำ เป็นที่ดินซึ่งอยู่ตรงสี่แยกห้วยแก้ว
ท่ามกลางบรรยากาศที่โรแมนติก วิวภูเขาสวย ดอกไม้งาม อากาศดี เขาก็เลยอยากสร้างบ้านสวยๆ
ในเมืองหนาว นับเป็นการทดลองตลาดสร้างบ้านสวยที่เป็นเอกลักษณ์ครั้งแรกของแลนด์ฯ
พร้อมๆ กับสโลแกนของคำว่า "หนึ่งในโครงการของแลนด์แอนด์เฮ้าส์"
ก็เกิดขึ้น
บ้านนันทวัน มีหลายแบบให้เลือกแต่ละแบบราคาแพง กลุ่มเป้าหมายคือคนจากกรุงเทพฯ
ที่ต้องการซื้อไว้เป็นบ้านหลังที่ 2
เมื่อนันทวันประสบความสำเร็จทางด้านการขายอย่างท่วมท้น ในปี 2527 อนันต์ก็ได้เอารูปแบบบ้านนันทวัน
จากเชียงใหม่ มาทำในโครงการ พฤกษชาติ และสีวลี ริมถนนวิภาวดีที่กรุงเทพฯ
แม้จะมีแบบบ้านที่หลากหลายขึ้นในไซต์เดียวกัน แต่ส่วนใหญ่ก็จะยังเป็น Unique
รายไซต์ คือใช้หลังคาสีเดียวกันทั้งหมดทั้งโครงการเช่นหลังคาสีแดงในหมู่บ้านชลลดา
หลังคาสีดำในหมู่บ้านราคาแพงสินเก้า แล้วค่อยๆ พัฒนาเป็นสีพิเศษในเวลาต่อมา
จากปี 2530 เป็นต้นมาเป็นช่วงเศรษฐกิจขาขึ้น คนต้องการซื้อบ้านใหม่เพิ่มขึ้น
กำลังซื้อก็สูง จุดขายของบ้านก็เลยไปแข่งในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย
ความหรูหรา ในแต่ละโครงการจึงต้องมีสโมสร คลับเฮาส์ สระว่ายน้ำ สนามเทนนิส
และที่แพงไปกว่านั้นก็จะเป็นโครงการบ้านติดทะเลสาบ หรือบ้านบนเกาะ
ยุคนี้โครงการบ้านจัดสรรใหม่ๆ หลายโครงการได้พัฒนารูปแบบบ้านกันอย่างเต็มที่
บ้านสวยๆ ในสไตล์ต่างๆ กันเกิดขึ้นมาอย่างมากมาย แน่นอนว่าแบบบ้านของแลนด์ฯ
ไม่ใช่บ้านที่สวยที่สุด แต่ภาพพจน์ของโครงการต่างหากที่ดีกว่าโครงการอื่นๆ
และเป็นจุดสำคัญในการตัดสินใจซื้อ
ในช่วงที่บ้านราคาแพงระดับหลังละ 10 ล้านบาทขึ้นไปแข่งกันสูงนี้แลนด์แอนด์เฮ้าส์
พยายามหนีคู่แข่งด้วยการให้ความสำคัญกับการฉีกแบบบ้านให้โดดเด่นออกไป โดยให้ทาง
บริษัทเคทีจีวาย อินเตอร์แอนด์แอสโซซิเอท บริษัทสถาปนิกหนึ่งที่มีชื่อเสียงในการออกแบบบ้านราคาแพงเข้ามาร่วมกันออกแบบบ้าน
ราคาแพงในโครงการลัดดาวัลย์ลากูน
ก่อนหน้านั้นอนันต์เคยให้สัมภาษณ์ว่าบ้านสวยที่ราคาแพงมากๆ นั้นเป็นเรื่องที่ออกแบบยากมากที่สุดเพราะความ
ไม่เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภค
หลังจากนั้น ในยุคปลายปี 2539 เศรษฐกิจเริ่มทรงตัว การแข่งกันขายในเรื่องความหรูหรา
เริ่มลดลง จุดขายที่เป็นธรรมชาติอื่นๆ เช่น การจัดสวน แลนด์สเคป ลู่วิ่งจ๊อกกิ้ง
ในบรรยากาศที่รื่นรมย์แบบรีสอร์ต เริ่มเข้ามาแทนที่เช่นโครงการบ้านมัณฑนา
บนถนนประชาอุทิศ เน้นในเรื่องอุโมงค์ต้นไม้ สวนแนวยาว พื้นที่เปิดโล่ง และสวนสาธารณะ
4 แห่ง
พร้อมกับการลงมาให้ความสำคัญกับรายละเอียดในบ้านมากขึ้น เช่น ในโครงการชัยพฤกษ์
สุวินทวงศ์ และวงแหวนฯ จะเน้นความโปร่งสบายด้วยหน้าต่างกระจกบานสูง มีหน้ามุขในส่วนรับแขก
และยังมีการเล่นระดับของพื้นที่ภายในบ้านด้วย
การกลับมาบุกตลาดอีกครั้งในรอบนี้ รูปแบบบ้านของแลนด์แอนด์เฮ้าส์ แม้อาจจะไม่มีอะไรที่แตกต่าง
และโดดเด่นไปจากเดิมมากนัก แต่ผู้บริหารก็มั่นใจว่า เป็นการกลับมา ให้ความสำคัญในเรื่องโปรดักส์ที่มาจากแนวความคิดหลัก
จากนโยบายและมีความคิดที่กว้างใหญ่ในเรื่องวิสัยทัศน์
ดังนั้นการนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์แล้วมาสรุป จบตรงคอนเซ็ปต์ของบ้านที่มีการตกแต่งพื้นบุวอลเปเปอร์
ทั้งหลัง ตกแต่งห้องน้ำ ห้องครัว จัดสวนสวยรอบบ้านหลากหลายรูปแบบไม่ซ้ำกัน
ผนวกรวมกับคอนเซ็ปต์บ้านสบายนั้นถือว่าเป็น จุดสุดยอดของบริษัทแล้วที่จะตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคได้ตรงที่สุด
และจะเป็นฐานที่สำคัญที่สุดของบริษัทที่จะพัฒนาแบบต่อไปในอนาคต