จากยอดขายรวมในรอบปีบัญชี 2543 ของกลุ่มมัทสุชิตะ อิเล็คทริคในประเทศไทย ที่ประกาศออกมา 31,399 ล้านบาท นั้นคิดเป็นยอดขายภายในประเทศถึง 22,503 ล้านบาท

ตัวเลขดังกล่าว หากเทียบกับมูลค่าตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย ในปีเดียวกัน ซึ่งกลุ่มมัทสุชิตะได้ประมาณการณ์เอาไว้ว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 55,000 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาดของมัทสุชิตะจะสูงถึง 40.9%

ถือเป็นความสำเร็จที่โยชิมาซา ทามูระ ได้ทำไว้ก่อนหน้าที่จะเกษียณตัวเองจากตำแหน่งหัวหน้าผู้แทนกลุ่มมัทสุชิตะ อิเล็คทริคในประเทศไทยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

โยชิมาซา ทามูระ เป็นผู้บริหารระดับสูงของมัทสุชิตะ อิเล็คทริคที่มีประสบการณ์สูงในการทำงานนอกประเทศญี่ปุ่น เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยโอซาก้า และปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ จากสถาบันการจัดการแห่งประเทศญี่ปุ่น

ทามูระได้ถูกมอบหมายให้ออกมารับผิดชอบงานในต่างประเทศครั้งแรกเมื่อมีอายุเพียง 26 ปี ซึ่งถือว่าเป็นผู้แทนของมัทสุชิตะที่อายุน้อยที่สุด ที่ต้องออกมารับผิดชอบงานในต่างประเทศ ในระยะนั้น

สำหรับประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่เขาใช้ระยะเวลาในการทำงานค่อนข้างยาวนานถึง 15 ปี ดังนั้นจึงมีความ ใกล้ชิดกับตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศนี้มากพอสมควร

เขาได้รับมอบหมายให้เข้ามารับผิดชอบงานของมัทสุชิตะในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี 2520 ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการขาย และการตลาด บริษัทซิว-เนชั่นแนล

ระยะเวลาดังกล่าว เป็นช่วงเริ่มต้นที่มัทสุชิตะ อิเล็คทริคได้เริ่มนำชื่อสินค้าพานาโซนิคออกสู่ตลาดโลก เพื่อลบล้างภาพของความเป็นชาตินิยมของคนญี่ปุ่น จากแบรนด์เดิมคือเนชั่นแนล

ภารกิจของโยชิมาซา ทามูระในช่วงนั้น คือ การทำให้ทั้งแบรนด์เนชั่นแนล และพานาโซนิคเป็นที่ยอมรับในตลาดประเทศไทย ซึ่งก็นับว่าเขาทำได้สำเร็จ

เขาอยู่ในประเทศไทยจนถึงปี 2528 จึงได้รับมอบหมายให้ไปรับผิดชอบภารกิจยังประเทศอื่น ก่อนที่จะกลับมาอยู่ในประเทศไทยอีกครั้งในเดือนธันวาคม 2537 ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเนชั่นแนลไทย และหัวหน้าผู้แทนกลุ่มมัทสุชิตะ อิเล็คทริคในประเทศไทย

ภารกิจในช่วงหลัง คือ การทำให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกสินค้าของมัทสุชิตะไปยังตลาดโลก ซึ่งเป็นงานที่เขาได้วางรากฐานไว้ระดับหนึ่ง ก่อนที่จะมอบหมายภารกิจนี้ต่อไปให้ชูเฮอิ โอกาตะ ที่เข้ามารับตำแหน่งแทน ต้องสานต่อ

โยชิมาซา ทามูระใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย จนกระทั่งเกษียณตัวเองจากการเป็นพนักงานของมัทสุชิตะ อิเล็คทริค เพราะอายุครบ 60 ปี ในเดือนมิถุนายน 2544