ดูเหมือนว่าการขยายกิจการของเออาร์กรุ๊ป จะมีคนที่ยินดีอยู่เพียงแค่แจ๊ค
และพนักงานของเออาร์เท่านั้น แต่หากไปถามคนแถวพระราม 3 หลายคนคงไม่อยากแม้จะพูดถึง
ไม่ใช่เพราะเออาร์กรุ๊ปเป็นคู่แข่งตัวฉกาจ แต่เป็นเพราะเออาร์คือ อาณาจักรใหม่ของแจ๊ค
และเป็นอาณาจักรที่ขยายตัวขึ้นท่ามกลางความปรวนแปรของสหวิริยาโอเอ
แต่คำกล่าวนี้อาจไม่เป็นธรรมสำหรับแจ๊คเท่าไหร่นัก เพราะเป็นเรื่องปกติของทุกคนที่เมื่อถึงจุดหนึ่งก็อยากมีธุรกิจของตัวเอง
และสหวิริยาโอเอก็เป็นของตระกูลวิริย-ประไพกิจถือหุ้นส่วนใหญ่
เออาร์ เกิดขึ้นมาจากความคิดของแจ๊คที่ว่า "คุณทำได้ ผมก็ทำได้"
แจ๊คให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ แต่แจ๊คไม่ได้ทำแค่ถ่ายทอดเฉยๆ แจ๊คยังศึกษาจากคนข่าวเหล่านั้นด้วย
นี่เป็นจุดเริ่มที่ทำให้เขาเห็นประโยชน์จากข้อมูลข่าว
แอ็ดวานซ์ รีเสิร์ช หรือ เออาร์ ตั้งขึ้นเพื่อทำธุรกิจผลิตหนังสือคอมพิวเตอร์
และทำวิจัยทางด้านข้อมูล
คนที่คลุกคลีอยู่กับเทคโนโลยีอย่างแจ๊ค ย่อมรู้ดีว่า อำนาจใหม่ทางธุรกิจในวันหน้า
คือ โลกของข้อมูล ไม่ใช่ธุรกิจค้าฮาร์ดแวร์ หรือ ซอฟต์แวร์อีกต่อไป มันเป็นธุรกิจที่ไม่ต้องปวดหัวกับสต็อก
เพียงแต่จัดการกับข้อมูลดีๆ กำไรมหาศาลก็จะตามมา
บังเอิญว่า แจ๊คมอบโอกาสนี้ให้กับเออาร์ ไม่ใช่สหวิริยาโอเอ
เอนิว คอร์ปอเรชั่น จึงกลายเป็นหน่อใหม่ของเออาร์ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อทำธุรกิจค้าข้อมูลทางคอมพิวเตอร์
เป็นจุดที่ทำให้บทบาทของแจ๊คต้องถูกจับตามองจากรอบด้าน
แจ๊คเห็นข้อดีจากระบบสัมปทาน และสัมปทานที่ว่านี้ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่สัมปทานสื่อสาร
แต่เป็นสัมปทานที่เกี่ยวกับข้อมูล
ในแต่ละวันจะมีคนจำนวนมาก ที่เดินไปที่กรมทะเบียนการค้า แถวๆ ท่าเตียนเพื่อขอค้นทะเบียนข้อมูล
บริษัท งบการเงิน ผู้ถือหุ้น แต่หากข้อมูลเหล่านี้สามารถมาบรรจุลงในคอมพิวเตอร์
และส่งถึงหน้าจอคอมพิวเตอร์ลูกค้าทันที โดยไม่ต้องไปเสียเวลาเดินทางนั่งรอคอย
3-4 ชั่วโมง หนำซ้ำข้อมูลเหล่านี้ยังสามารถนำมาพัฒนาเพิ่มมูลค่าในรูปแบบอื่นๆ
ให้มีราคาเพิ่มขึ้น ได้อีก
นี่เป็นปรากฏการณ์ที่แจ๊คมองเห็น
เห็นถึงมูลค่ามหาศาลที่แฝงอยู่ในข้อมูลเหล่านี้
บริษัทบิซิเนส ออนไลน์ รับสัมปทานข้อมูลทะเบียนการค้าจากกระทรวงพาณิชย์มาขายผ่านคอม
พิวเตอร์ ซึ่งบริษัทนี้เป็นบริษัทลูกของเอนิวส์
แจ๊ครู้อีกว่า อินเตอร์เน็ตจะเป็นเครือข่ายทรงอิทธิพลที่สุดในโลกในทศวรรษนี้
และอินเตอร์เน็ตเป็น "สื่อ" ที่จะใช้ในการส่งผ่านข้อมูลไปถึงผู้ใช้
เอ-เน็ต จึงเกิดขึ้น มันเป็นบริษัทในเครือแห่งที่ 2 ที่อยู่ในสังกัดเอนิวส์
รับสัมปทานให้บริการอินเตอร์เน็ต (ไอเอสพี) จากการสื่อสารแห่งประเทศไทย
ทั้งสองธุรกิจนี้เป็นการเอื้อประโยชน์กันโดยตรง บริการของเอ-เน็ต จึงมีจุดแตกต่างจากไอเอสพีรายอื่นๆ
ตรงที่จะมีข้อมูลบริษัทหรือการค้าใส่แผ่นซีดีแถมไปด้วย ส่วนเอนิวส์จะใช้ประโยชน์จากเอ-เน็ต
ส่งผ่านข้อมูลไปให้ลูกค้า
แต่ธุรกิจทั้งสองก็ยังต้องอาศัยทั้งการลงทุนและเวลาอีกไม่น้อย
"ถามว่าถึงจุดคุ้มทุนหรือยัง ยังไมคุ้มค่าเวลานี้ แต่คนที่ใช้ข้อมูลจะรู้สึกว่าข้อมูลถูกยกระดับไปอีกจุดหนึ่ง
เพราะข้อมูลที่ได้มาเราเพิ่มมูลค่าใส่ลงไป มีรูปสถานที่ตั้งของบริษัท"
โสจิพรรณ นาคสกุล ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มบริษัทเอนิวส์ คอร์ปอเรชั่น เล่า
โสจิพรรณ เคยทำงานในสหวิริยาโอเอมาเกือบ 4 ปี ตำแหน่งสุดท้ายคือผู้ช่วยของแจ๊ค
ซึ่งเป็นจุดที่เธอบอกว่าได้เรียนรู้มากที่สุด ก่อนจะข้ามฟากมานั่งเป็นผู้จัดการทั่วไปที่เอนิวส์
ถึงแม้ว่าเอ-เน็ตจะไม่ใช่ไอเอสพีที่ครองตลาดอันดับ 1 แต่ทุกวันนี้เอ-เน็ตได้ลูกค้าหน่วยงานราชการ
สถาบันการศึกษา กองทัพบก กองทัพเรือ ซึ่งโสจิพรรณบอกว่า มาจากการที่เอ-เน็ตมี
HUB ในตลาดต่างจังหวัด 24 แห่ง
ในช่วงแรกเอ-เน็ตต้องเป็นฝ่ายหาเลี้ยงธุรกิจทั้งหมดของเอนิวส์ โดยเฉพาะบีโอแอลที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก
เพราะข้อมูลที่ได้มาจากกรมทะเบียนการค้า จะต้องจ้างพนักงานชั่วคราวมาคีย์ใส่คอมพิวเตอร์
และต้องตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม ที่อยู่ ผู้ถือหุ้น และหากเป็นข้อมูลที่ลึกลงไปอีกจะต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลทางด้านการเงินเพิ่มเติมด้วย
"ช่วงแรกของบีโอแอลยากมาก เราทำในสิ่งที่จับต้องไม่ได้ และราคาก็สูง เพราะเรานำมาสร้างมูลค่าเพิ่ม
แต่เราก็ผ่านความยากลำบากมาได้ระดับหนึ่งแล้ว"
ก่อนหน้าที่สหวิริยาแถลงข่าวได้เจโอเอสมาถือหุ้นไม่กี่วัน บีโอแอลก็ได้
ดันส์แอนด์แบรดสตรีท (ดีแอนด์บี) เข้ามาถือหุ้น
ดันแอนด์แบรดสตรีท เป็นบริษัทค้าข้อมูลออน ไลน์ข้ามชาติ ที่มีเครือข่ายธุรกิจทั่วโลกและมูดีส์
อิน-เวสเตอร์ เซอร์วิส ก็เป็นบริษัทในเครือข่ายเดียวกัน การได้บริษัทอย่างดันแอนด์แบรดสตรีทมาถือหุ้น
จึงเป็นภาพที่ดีมากๆ สำหรับบีโอแอล
ตามข้อตกลงนั้น บีโอแอลจะได้ทั้งเม็ดเงินจากการขายหุ้นให้ดันแอนด์แบรดสตรีท
จำนวน 49% หรือ ประมาณ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (40 ล้านบาท) ช่วงแรกดันแอนด์แบรดสตรีทจะถือหุ้นในสัดส่วน
19% และจะ เพิ่มจนครบมูลค่าตามที่ตกลงภายใน 1 ปี
ข้อมูลบริษัทจดทะเบียน 4 แสนรายที่บีโอแอลมี อยู่จะถูกขายผ่านเครือข่ายของ
ดีแอนด์บี ที่มีอยู่ทั่วโลก ขณะเดียวกันบีโอแอลจะได้ข้อมูลจากดีแอนด์บี ซึ่งจะมีการวิเคราะห์และจัดอันดับความเชื่อถือให้กับลูกค้าด้วย
พูดง่ายๆ ก็คือ การได้ทั้งสินค้าใหม่ และเครือข่ายช่องทางใหม่ที่จะกระจายสินค้าได้มากขึ้น
และยังได้ "โนว์ฮาว" และการจัดการธุรกิจที่เป็นมาตรฐานสากลมากยิ่งขึ้น
ภาพของเอนิวส์จึงดูดีมากๆ เป็นภาพที่ตรงกันข้ามกับสหวิริยาโอเอ ที่กำลังเผชิญกับมรสุมลูกใหญ่
เอนิวส์ จึงเป็นปริศนาที่แจ๊คไม่อยากพูดถึงนัก แม้ว่าทุกคนในเวลานี้จะรู้แล้วว่า
นี่คืออาณาจักรที่ 2 ที่เป็นของแจ๊คเอง