เขาเป็นมืออาชีพคนหนึ่งที่เข้ามาสู่องค์กรชินวัตร ในช่วง ของการเสาะแสวงหามืออาชีพ
เพื่อสร้างระบบการจัดการบริหารงานองค์กรอย่างเป็นมาตรฐานในระดับสากล บุญคลีก้าวเข้ามาในชินวัตร
ด้วยตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการ ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายไม่น้อย สำหรับคนที่ผ่านชีวิตการทำงานในรัฐวิสาหกิจมาเกือบตลอดชีวิต
อันที่จริงแล้ว บุญคลีเป็นคนหนึ่งที่มีเส้นทางที่เรียบง่าย ไม่โลดโผน เฉพาะอย่างยิ่งการทำงานในรัฐวิสาหกิจ
ทำให้เขาจึงไม่เคยผ่านพ้นความยากลำบากในการต่อสู้ในเชิง ของธุรกิจมาก่อน
หลังจบปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬา ลงกรณ์มหาวิทยาลัย บุญคลีบินลัดฟ้าไปต่อระดับปริญญาโท
สาขาวิศวะคอมพิวเตอร์ ที่ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ อิลินอยส์ จากนั้นกลับมาทำงานเป็นนายช่างที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิต
3 ปี และย้ายมาเป็นนายช่างโท ที่กรมไปรษณีย์โทรเลข จากนั้นก็มาทำงานที่การสื่อสารแห่งประเทศไทย
ตำแหน่งสุดท้ายก่อนลาออกมาทำงานที่ชินวัตร คือ ผู้อำนวยการกองโทรศัพท์ ระหว่างประเทศ
แต่สำหรับชินวัตรการมาของบุญคลีเท่ากับเป็นการเชื่อมต่อสายสัมพันธ์ของชินวัตรไปยังการสื่อสารฯ
ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่สำคัญอีกแห่ง ที่ชินวัตรยังไม่สามารถ เจาะทะลวงเข้าไปได้มาก
เพราะค่ายยูคอมเกาะเกี่ยวไว้อย่าง เหนียวแน่น ซึ่งบุญคลีก็เป็นผู้บริหารหนุ่มที่อัศวิน
เสาวรส ผู้ว่าการสื่อสารฯ ให้ความไว้วางใจ และเอื้อเอ็นดูไม่น้อย
ทักษิณ ชินวัตรรู้ดีว่า ช่วงเวลาของการเสาะแสวงหาธุรกิจใหม่ๆ ของชินวัตรผ่านพ้นไปแล้ว
สัมปทานสื่อสารใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในยุคสมัยนี้ ไม่สามารถให้ผลตอบแทนได้มากเท่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือ
ดาวเทียมไทยคม วิทยุติดตามตัว บริการสื่อสารดาต้าเน็ทที่ชินวัตรถืออยู่ในมือ
สภาพการแข่งขันที่กำลังเข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการเปิดเสรีของกิจการโทรคมนาคม
ภายใต้ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและไอเอ็มเอฟ เป็นเงื่อนไขสำคัญที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของชินวัตรนับจากนี้เป็นต้นไป
การรักษาและสร้างประโยชน์จากธุรกิจที่มีอยู่ในมือ คือ ภาระอันยิ่งใหญ่สำหรับองค์กรอย่างชินวัตรในช่วง
5-6 ปีมานี้
การเปิดเสรีโทรคมนาคม คำง่ายๆ นี้มีผลต่อการปฏิวัติโฉมหน้าใหม่ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมลงอย่างสิ้นเชิง
ระบบสัมปทานแบบดั้งเดิมจะล่มสลายไป พร้อมกับอำนาจหน้าที่ของรัฐวิสาหกิจที่ดูแลกิจการโทรคมนาคม
จะถูกแทนที่ด้วยการลงทุนของบริษัทโทรคมนาคมข้ามชาติที่พรั่งพร้อมด้วยเงินลงทุน
เทคโนโลยี และเครือข่ายสื่อสารอยู่ทั่วโลก
การมุ่งหน้าเข้าสู่เส้นทางการเมืองของทักษิณที่ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล
จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดของชินวัตรในเวลานี้
และมีความหมายโดยตรงต่อโครงสร้างการบริหารใหม่ของชินวัตรในปัจจุบัน
โครงสร้างใหม่ของกลุ่มชินวัตรครั้งล่าสุดเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
มีนัยที่ส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มชินวัตรหลายประการด้วยกัน
โครงสร้างการบริหารใหม่ของชินวัตรมุ่งไปที่การลดความสลับซับซ้อนการทำงาน
ธุรกิจที่ไม่ทำกำไรจะถูกยุบทิ้ง เช่น คอมพิวเตอร์ และธุรกิจต่างประเทศ คงเหลือไว้แต่ธุรกิจที่ทำรายได้
ธุรกิจที่เหลืออยู่ จะถูกจัดแบ่งออกเป็น 4 สายธุรกิจ ประกอบไปด้วย ธุรกิจสื่อสารไร้สาย
สายธุรกิจดาวเทียม สายธุรกิจสื่อโฆษณา และสายธุรกิจต่างประเทศ ซึ่งธุรกิจทั้ง
4 สายงาน จะมีการบริหารงาน การจัดการ และพนักงานที่แยกออกจากกันเป็นเอกเทศ
จะต้องรับผิดชอบรายได้ ผลกำไรขาดทุนเอง ไม่มีหน่วยงานสนับสนุนที่จะร่วมแชร์ค่าใช้จ่ายให้อีกต่อไป
เพราะหน่วยงานสนับสนุนจะถูกยุบลง
ธุรกิจทั้ง 4 กลุ่มนี้ จะวัดผลด้วยการสามารถแข่งขันกับคู่แข่งในสายธุรกิจเดียวกันทั้งในและต่างประเทศเพื่อ
รองรับกับการแข่งขันที่จะเปิดเสรีในอนาคต
ผลที่เกิดขึ้นจากโครงสร้างใหม่นี้ก็คือ เป็นครั้งแรกที่ชินวัตรเลย์ออฟพนักงาน
ชินวัตรก็เหมือนกับธุรกิจอื่นๆ ในยุคเศรษฐกิจเฟื่องฟู ขยายองค์กรรองรับกับงานที่ขยายตัวออกไป
แต่เมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ องค์กรที่อ้วนท้วนก็ถูกลดไขมันให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ชินวัตรทำแค่ลดเงินเดือน แต่ไม่ใช่สำหรับภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ พนักงานส่วนหนึ่งจะต้องถูกออกเพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างใหม่
"เท่ากับเป็นการกวาดบ้านของตัวเอง และให้รางวัลแก่คนดี เราจะประเมินผลงานของทุกคนใหม่หมด
เพื่อที่ต้องการบอกว่า คนเลวต้องออกไป คนไม่มีผลงานจะอยู่ไม่ ได้ คนดีเท่านั้นที่จะได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม"
แหล่งข่าวกล่าว
ทักษิณ และผู้บริหารชินวัตรมีความเห็นตรงกันก็คือ วิกฤติเศรษฐกิจของไทยครั้งนี้จะทอดระยะเวลาออกไปอีกหลายปี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2542 จะเป็นปีที่เศรษฐกิจจะตกต่ำที่สุด
"มันมีหลายทฤษฎีในเวลานี้ แต่สิ่งที่เราเห็นตรงกันคือ ตัวเลขของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
NPL ของธนาคาร ยังคงเพิ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตรงจุดนี้เราเชื่อว่า เศรษฐกิจจะตกต่ำอย่างต่อเนื่อง"
แหล่งข่าวในชินวัตรกล่าว
ภายใต้โครงสร้างการบริหารใหม่นี้ บุญคลี คือ เจ้าของเก้าอี้ประธานกรรมการบริหารกลุ่มชินวัตรและกรรมการผู้จัดการ
บริษัทชินวัตร คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ที่จะต้องรับผิดชอบกำหนดนโยบายและเป้าหมายของธุรกิจทั้ง
4 กลุ่ม
นั่นเท่ากับว่า บุญคลี ได้ก้าวขึ้นสู่การเป็นแม่ทัพคนใหม่ของชินวัตรอย่าง
แท้จริง
แต่เป็นแม่ทัพในยุคที่ชินวัตรกำลังเผชิญหน้ากับความยากลำบาก จากทั้งสภาพของเศรษฐกิจตกต่ำอย่างหนัก
และจาก การแข่งขันเสรีที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจโทรคมนาคมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
จะว่าไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมาย ที่บุญคลีจะรั้งเก้าอี้สำคัญตัวนี้
จากผลงานการต่อสัญญาสัมปทานโทรศัพท์สมุดหน้าเหลือง หรือ ไดเร็คเทอรีส์ กับองค์การโทรศัพท์ฯ
เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ที่สามารถเอาชนะบริษัททีพีพีของชาติชาย เย็นบำรุง ลูกน้องและคู่แค้นเก่าของทักษิณ
รวมทั้งการต่ออายุสัญญาสัมปทานของเอไอเอส เพื่อ แลกกับการที่ทศท.จะให้สัมปทานพีซีทีแก่ทีเอ
รวมทั้งกรณีของการรวมกิจการระหว่างไอบีซีของชินวัตร และยูบีซี
ของทีเอ
ผลงานทั้งหมดนี้ คือ ใบการันตีที่บุญคลีได้รับจากทักษิณ โดยมีเก้าอี้แม่ทัพเป็นรางวัล
และนับจากนี้ จะเป็นระยะเวลาของการพิสูจน์ฝีมือของการเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง