หลังจากที่ต่อสู้กันมานานเพื่อกำหนดมาตรฐานระบบ Code Division Multiple
Access (CDMA) ในที่สุดอีริคสันและควอลคอมม์ก็สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้แล้วเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
โดยอีริคสันเข้าซื้อกิจการของควอลคอมม์และมีข้อตกลงร่วมกันสนับสนุนมาตรฐานระบบ
CDMA สำหรับการสื่อสารไร้สายยุคหน้าที่แน่นอนเพียงมาตรฐานเดียว แต่ยังคงมีโหมดให้เลือก
3 โหมด (ได้แก่ direct sequence FDD, multi carrier Fdd และ TDD) เพื่อให้ทั้งสองบริษัทสามารถใช้สิทธิบัตร
ของกันและกัน รวมทั้งเป็นการยุติข้อพิพาททางกฎหมายของทั้งคู่ที่มีอยู่ในปัจจุบันลง
นอกจากนี้อีริคสันได้เข้าซื้อธุรกิจโครงสร้างระบบไร้สาย CDMA ภาคพื้นดินของควอลคอมม์
รวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาที่เมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย และที่เมืองโบลเดอร์
รัฐโคโลราโด โดยอีริคสันจะดูแลข้อตกลงกับลูกค้าที่เลือกสรรแล้ว รวมทั้งข้อผูกพันทางการเงินส่วนหนึ่งของลูกค้า
สินทรัพย์และพนักงานที่เกี่ยวข้อง
ข้อตกลงนี้ทำให้ทั้งสองบริษัทยุติข้อพิพาทที่มีต่อกันลงได้ และช่วยให้แต่ละบริษัทใช้สิทธิบัตรด้าน
CDMA ของกันและกันได้ทั้งหมด ได้แก่ cdmaOneTM, WCDMA และ CDMA2000TM ควอลคอมม์ยังจะได้รับสิทธิในการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับสิทธิบัตร
(ช่วงสิทธิ์) ของอีริคสัน อันรวมไปถึงสิทธิบัตรที่อยู่ในข้อพิพาทให้กับลูกค้าทางด้าน
Application Specific Integrated Circuits (ASICs) ของควอลคอมม์
ควอลคอมม์และอีริคสันเชื่อว่าการพัฒนามาตรฐาน CDMA เดียวอย่างรวดเร็วให้เป็นประโยชน์อย่างดีที่สุดต่ออุตสาหกรรมและช่วยให้ผู้ให้บริการ
แต่ละรายสามารถเลือกโหมดการทำงานโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานความต้องการของตลาด
ส่วนหนึ่งของข้อตกลงนี้คือบริษัททั้งสองจะให้คำมั่นกับ International Telecommunications
Union หรือ ITU และองค์กรมาตรฐานอื่นๆ ในการออกใบอนุญาตสิทธิบัตรที่จำเป็นของทั้งสองบริษัทสำหรับมาตรฐาน
CDMA หนึ่งเดียวหรือโหมดใดๆ ก็ตามของระบบนี้ให้กับบริษัทอื่นๆ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้
โดยการออกใบอนุญาตนั้นจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม และสมเหตุสมผลโดยปราศจากการกระทำอันไม่เป็นธรรม
บริษัททั้งสองจะแจ้งแก่ ITU และองค์กรมาตรฐานที่เกี่ยวข้องอื่นๆเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าวนี้
เพื่อลบล้างการปิดกั้นเกี่ยวกับสิทธิบัตรทั้งหมดที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน
ดร.ไอร์วิน มาร์ค ยาคอบส์ ประธานกรรมการ และประธานคณะผู้บริหารควอลคอมม์กล่าวว่า
"ในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับ 3G และการอนุญาตให้มีการใช้สิทธิบัตรระหว่างกันได้
ควอลคอมม์และอีริคสันได้เปิดหนทางการขยายการสื่อสารไร้สายระดับโลกบนพื้นฐานเทคโนโลยี
CDMA
การที่อีริคสันซื้อกิจการโครงสร้างพื้นฐานของเราจะช่วยให้อีริคสัน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำโลกด้านผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมสามารถขยายสมรรถนะทางด้าน
CDMA เพิ่มมากยิ่งขึ้นและตอนนี้ควอลคอมม์เองก็สามารถมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักของบริษัท
ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ CDMA และ chip sets ระบบ Globalstar และ OmniTRACS
และโอกาสใหม่ๆ ในด้านภาพยนตร์ระบบดิจิตอล ผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ด้านข้อมูลไร้สายและ
Eudora web"
ด้านมร.สเวน-คริสเตอร์ นีลสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร
กลุ่มบริษัทอีริคสันกล่าวว่า "บัดนี้บริษัทอีริคสันมีทักษะความชำนาญงานอย่างสมบูรณ์แบบในเรื่องของ
3G จากข้อตกลงที่ทำร่วมกับควอลคอมม์ อีริคสันมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนผู้ให้บริการในทุกแห่งหนทั่วโลกในการ
migrate ระบบ
สู่ 3G ไม่ว่าผู้ให้บริการเหล่านั้นใช้เทคโนโลยีใดก็ตาม"
เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วที่ดร.ยาคอบส์อยู่ในสนามรบ มัน เริ่มในช่วงต้นทศวรรษ
1990 เมื่อศาสตราจารย์ยาคอบส์ซึ่งหันมาเอาดีทางธุรกิจด้วยการตั้งบริษัทควอลคอมม์พบว่า
เทคโนโลยีทางทหารอันหนึ่งสามารถพัฒนาขึ้นเป็นมาตรฐาน เพื่อการใช้โทรศัพท์ของพลเรือนได้
แต่แทนที่การค้นพบของเขาจะได้รับการยกย่อง มันกลับกลายเป็นสร้างความกังขาให้กับบริษัทอื่นๆ
โดยเฉพาะ
อีริคสัน-บริษัทโทรคมนาคมสัญชาติสวีเดน ซึ่งก็กำลังโหมโปรโมตมาตรฐานของตนเพื่อใช้ควบคุมความสามารถในการบริหารเซลล์โทรศัพท์ในทั่วโลก
ควอลคอมม์กับอีริคสันยังทำสงครามแย่งชิงมาตรฐานนี้มาจนเพิ่งจะบรรลุข้อตกลงดังรายงานข้างต้น
ก่อนหน้าที่จะบรรลุข้อตกลงนั้น วงการนักวิเคราะห์โทรคมนาคมมองว่าควอลคอมม์จำเป็นที่จะต้องชนะสงครามครั้งนี้
แต่การณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น ควอลคอมม์มีรายได้ 3,300 ล้านเหรียญหรือเติบโต
59% และมีกำไรพุ่งสูงขึ้น 18% ขณะที่อีริคสันทำรายได้ 22,700 ล้านเหรียญในปี
1998 แต่ภาวะความปั่นป่วนในตลาดหุ้นทำให้ราคาปิดของหุ้นควอลคอมม์(QCOM)ในตลาด
Nasdaq มีราคาลดลง 15 เหรียญ จากที่เคยมีราคาสูงถึง 67 เหรียญ (แต่ช่วงกลางเดือนมีนาคมก่อนทำข้อตกลงกับอีริคสันได้นั้น
ราคา QCOM ซื้อขายที่ 72 เหรียญ/หุ้น)
ควอลคอมม์เพิ่งจะมีการปลดพนักงาน และคาดว่า กำลังมองหาทางขายธุรกิจการผลิตอุปกรณ์ซึ่งเป็นปัญหาของควอลคอมม์
อย่างมาก นักวิเคราะห์มองว่าควอลคอมม์กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ยุคใหม่ของการถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูง
ซึ่งการทำเช่นนั้นได้จะช่วยให้สามารถเข้าสู่การสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์, การเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่างๆ
บนอินเตอร์เน็ต หรือกระทั่งทำการประชุมสื่อสาร ทางไกล การทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้สามารถทำได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ
ที่เล็กเท่าฝ่ามือขณะที่คุณกำลังขับรถอยู่บนทางหลวง Santa Monica ด้วยซ้ำไป!!
นักวิเคราะห์กล่าวด้วยว่าการที่จะสร้างเทคโนโลยีที่กล่าวถึงข้างต้น ให้ทำงานได้จริงเสมือนที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่องเจมส์
บอนด์นั้น รัฐบาลและผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมระดับโลกอย่างเช่นอีริคสันและควอลคอมม์จำเป็นที่จะต้องร่วมมือกัน
แม้ว่าการพูดจะเป็นเรื่องง่ายกว่าการปฏิบัติก็ตาม แต่ในที่สุดอีริคสันและควอลคอมม์ก็สามารถหาข้อตกลงและร่วมมือกันได้แล้ว
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าควอลคอมม์ต้องชนะในสงครามนี้
แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า ควอลคอมม์ขายธุรกิจโครงสร้างระบบไร้สาย CDMA ภาคพื้นดินให้อีริคสัน
ถึงตอนนี้นักวิเคราะห์อาจต้องใช้เวลาอีกสักพักเพื่อดูให้แน่ว่าใครเป็นผู้ชนะ