หลายคนอาจมีชีวิตในช่วงรีไทร์ จากงานที่แตกต่างกันไป บางคนอาจสนุกอยู่กับการเลี้ยงหลาน
หรือ พักผ่อนอยู่กับบ้านเฉยๆ บางคนอาจ จะเริ่มทำธุรกิจที่ตัวเองใฝ่ฝันมานานในยามเกษียณอายุ
สำหรับคุณหญิงชัชนี จาติก วณิช หลังจากวางมือจากกรรมการ ผู้จัดการบริษัทล็อกซเล่ย์มาแล้วถึงสิบเอ็ดปีเต็ม
ทุกๆ เช้าเธอยังคงนั่งรถไปทำงานที่บริษัทเยนเนอรัล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
ในตำแหน่งของประธานกรรมการ ซึ่งเป็นบริษัทที่คุณหญิงชัชนีก่อตั้งขึ้นเองเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว
ทำธุรกิจเกี่ยวกับเสาคอน กรีต วัสดุก่อสร้าง ด้วยเหตุผลที่ว่า เพื่อไม่ให้ตัวเองฝ่อ
และใช้เป็นสถาน ที่ติดต่อกับคนอื่นๆ แม้ว่าเวลานี้บริษัทเยนเนอรัล เอ็นจิเนียริ่ง จะมอบหมายให้ลูกชายคนสุดท้อง
วิชญา จาติกวณิช นั่งบริหารงานอยู่พร้อมกับลูกน้องเก่าแก่ แต่ในยามที่เศรษฐกิจตกต่ำเช่นนี้
คุณหญิงชัชนีให้ความสนใจเป็นพิเศษ ในเรื่องของพนักงานของบริษัท ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอให้ความสำคัญมาตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว
"ยิ่งภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ มีการลดคน ลดเงินเดือน พนักงานทุกคนใจฝ่อ ฉันก็กระโดดเข้ามา
มนุษย์เราไม่ใช่โต๊ะ ตู้ เก้าอี้ อยากจะใช้ก็ใช้ ไม่อยากใช้ก็ทิ้งไป ทำไมไม่หางานอื่นให้เขาทำ
ต้องคิดว่าพนักงานบางคนทำงานกับเรามานาน ทำกับเรามาเป็นสิบๆ ปี เงินไม่กี่หมื่นทำไมจะเสียเงินจ้างเขาไม่ได้"
วัย 71 ปี ของคุณหญิงจึงเต็มไปด้วยความหมาย ไม่เพียงแค่สุขภาพที่ยังแข็งแรงจากการตีกอล์ฟเป็นประจำ
งานอดิเรกอีกชิ้นที่ขาดไม่ได้ ก็คือ การเล่นอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะการส่งอีเมล
ที่กลายเป็นกิจวัตรประจำวันที่ขาดไม่ได้ไปแล้ว
"ไม่เคยคิดเลยจะมาใช้อินเตอร์เน็ต พอดีเมื่อปลายปี 2539 กลับจากไปเที่ยวแอฟริกาใต้
ปุ้ม(วสันต์ จาติกวณิช ลูกชายคนโต) เขาเอาเครื่องคอมพิวเตอร์มาตั้งไว้บอกให้แม่ไว้เล่น
และก็มาสอนให้" คุณหญิงชัชนีย้อนถึงที่มาของจุดเริ่มที่มาเล่นอินเตอร์เน็ต
จะว่าไปแล้ว คอมพิวเตอร์ยังคงเป็นยาขมสำหรับใครหลายคนโดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูงด้วยแล้ว
บางคนที่บริษัทมีเครือข่ายคอมพิวเตอร์รุ่นล่าสุด แต่ตัวเองแทบไม่เคยแตะต้องคอมพิวเตอร์เลยก็มี
แต่สำหรับคุณหญิงชัชนี เธอบอกว่า เป็นเพราะเธอเป็นคนสูงวัยที่หัวใจไม่ยอมชรา
ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ประกอบกับพื้นเพเป็นคนกระฉับกระเฉงมาตั้งแต่สมัยสาวๆ
ทำให้ความยากลำบากในการเรียนรู้กับอุปกรณ์สมองกลในช่วงแรกๆ กลายเป็นเรื่องบันเทิงใจที่สามารถให้ประโยชน์กับตัวเองและคนอื่นได้ด้วย
จากช่วงแรกที่เรียนรู้อินเตอร์เน็ตเพื่อเอาไว้รับ "โจ๊ก" สนุกๆ ของลูกชายคือวสันต์
ที่มักจะส่งไปให้เพื่อนฝูงที่อยู่ทั่วโลกได้เฮฮากันเป็นประจำทุกวัน คุณหญิงก็หันมาส่งคำคมภาษาอังกฤษ
Words of wisdom ผ่าน "อีเมล" ไปให้ เพื่อนฝูง ญาติมิตร จนกลายเป็นกลุ่มใหม่
เพื่อมาแก้ลำกลุ่ม Daily clean Wholesome Story Clup ของวสันต์
ทุกๆ วัน คุณหญิงชัชนีจะนำเอาคำคมที่เลือกมาจากหนังสือต่างๆ ที่เธอสะสมเอาไว้
และหนึ่งในนั้นก็คือ หนังสือกลอนซึ้งตรึงใจ ของคุณหญิงบุญสิริ ชวลิตธำรงค์
ซึ่งจะเลือกคำคมที่มีความหมาย และเริ่มส่งในช่วงค่ำๆ ตั้งแต่วันจันทร์ถึงอาทิตย์
ยกเว้นวันศุกร์และเสาร์ เพราะเป็นช่วงวันหยุดงานของเหล่าสมาชิก
บรรดาสมาชิกของ Words of wisdom จะมีทั้งบรรดาญาติสนิทมิตรสหาย ลูกน้องเก่าที่เคยอยู่ล็อกซเล่ย์และบริษัทในเครือรวมถึงไทยออยล์ที่เกษม
จาติกวณิช สามีเคยนั่งบริหารอยู่ คุณหญิงชัชนีจึงแบ่งสมาชิกออกเป็นกลุ่มๆ
เช่น กลุ่มหมอ เพื่อน กลุ่มเจเอสแอล ซึ่งเธอสนิทสนมกับคุณจำนรรค์ ศิริตัน
กลุ่มล็อกซเล่ย์อินโฟร์ กลุ่มล็อกซอินฟาร์ กลุ่มพีซีซี กลุ่มไทยออยล์ ด้วยเทคโนโลยีของอินเตอร์เน็ตทำให้คุณหญิงชัชนีสามารถส่งอีเมลครั้งเดียวไปถึงผู้รับพร้อมๆ
กัน โดยไม่ต้องเสียเวลาส่งอีเมลไปทีละคน และบางครั้งก็เลือกส่งเฉพาะบางกลุ่ม
เช่น To my children with love ที่คุณหญิงจะส่งข้อความบางอย่างให้กับลูกชายทั้งสอง
แต่ใครที่ต้องอีเมลมาหาคุณหญิงชัชนี ก็จะต้องส่งมาที่อีเมลแอดเดรส ในชื่อ
kit@loxinfo.co.th ซึ่งคำว่า kit นั้นเอามาจากชื่อเดิมของคุณหญิง คือ ควรคิด
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นชัชนี
งานอดิเรกชิ้นนี้ ทำให้บรรดาพี่น้องของคุณหญิงชัชนี ไม่ว่าจะเป็น ชูจิตร
ชนาทิพย์ จูตระกูล ต้องหันมาเล่นอินเตอร์เน็ตเพื่อรับ Words of Wisdom หรือ
ติดต่อสื่อสารกัน ยกเว้นคนใกล้ชิดอย่างเกษม จาติกวณิช คนเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ยอมเรียนรู้อุปกรณ์สมองกลชิ้นนี้
"คุณเกษมไม่มีอีเมล มีอีเมาท์ ให้อีมอมส่งอีเมลให้" คุณหญิงกล่าวแบบติดตลก
จากสมาชิกที่เป็นญาติสนิทมิตรสหาย ก็เริ่มขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ มีจำนวนไม่น้อยที่คุณหญิงชัชนีไม่เคยรู้จักมาก่อน
แต่ได้รับข้อความจากเพื่อนฝูงที่ส่งต่อไปให้ ปัจจุบันสมาชิกในกลุ่ม Words
of wisdom มีมากกว่า 300 คน แต่คุณหญิงชัชนีก็ยังบอกว่า ยังแพ้ของลูกชายที่มีบรรดาสมาชิกผู้ชื่นชอบโจ๊กเฮฮามากกว่า
500 รายแล้ว
คุณหญิงเล่าว่า Words of Wisdom ที่ส่งไปนั้นจะเลือกให้เหมาะกับสถานการณ์
เช่น ในยุคเศรษฐกิจตกต่ำ คำคม หรือกลอนที่ส่งไปจะเน้นไปในเรื่องของการให้กำลังใจ
ไม่ให้เกิดความท้อแท้ เช่น ถ้อยคำที่ว่า "In the middle of difficulty lies
opportunity" ของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่คุณหญิงส่งไป ก็ปลุกปลอบใจใครหลายคนได้ไม่น้อย
"มันเป็นเรื่องที่เราไม่ต้องลงทุนอะไรมากเลย เพียงแต่ถ้อยคำบางประโยคก็สามารถให้กำลังใจกับคนอื่นๆ
ได้"
คุณหญิงเล่าว่า ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่บังเอิญว่าเคยได้รับ
Words of wisdom ที่มีเพื่อนส่งไปให้ ส่งอีเมลมาขอปรึกษาปัญหาชีวิต
"บางคนเขามีปัญหา เขาไม่รู้จะคุยกับใคร เขาก็อีเมล มาหา มาปรึกษา อะไรที่เราช่วยเขาได้เราก็ช่วย
ตอนนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเขาอีเมลมาปรึกษา ตัวเขาเป็นม่าย ทำธุรกิจอยู่
แต่ตอนหลังเจอปัญหาเศรษฐกิจ จะเรียกให้ลูกชาย 2 คนที่ได้ทุนไปเมืองนอกกลับเมืองไทย
เพราะสงสารลูกชายไม่อยากให้ทำงาน เราก็ให้คำปรึกษากับเขา ยกตัวอย่าง ให้ฟังอย่างของล่ำซำเอง
คุณบัญชาเวลานั้นไปเรียนที่อเมริกา เขาก็ยังไปส่งพิซซ่าเลย พอค่าเงินลดลง
ธุรกิจก็ดีขึ้น ลูกเองก็ทำงานไม่ต้องกลับเมืองไทย" คุณหญิงเล่าให้ฟังอย่างภูมิใจ
งานอดิเรกชิ้นนี้ไม่เพียงแต่เป็นการช่วยเหลือสังคมทางอ้อมเท่านั้น ในส่วนตัวคุณหญิงชัชนีแม้สุขภาพทั่วไปยังแข็งแรง
แต่ด้วยวัยที่สูงขึ้นทำให้มีปัญหาเรื่องหูเสื่อมทำให้ ได้ยินไม่ถนัด เธอยังได้ใช้อีเมลเป็นอุปกรณ์สื่อสารแทนโทรศัพท์ได้เป็นอย่างดี
ซึ่งสามารถใช้ได้ไม่ว่าจะนั่งอยู่ในรถ หรือในที่ทำงาน
นอกจากนี้ คุณหญิงชัชนียังนำเอาผลิตผลจากงานฝีมือที่เธอและเกษม ไปฝึกหัดเรียนวาดภาพนำมาใส่ลงในเว็บไซต์
ที่ใช้ชื่อว่า MY GALLERY มาให้เพื่อนฝูงได้เข้ามาเยี่ยมชมกันอีกด้วย
สำหรับคุณหญิงชัชนีแล้ว วัยที่มากขึ้นอาจจะทำให้มีข้อจำกัดเฉพาะความรู้สึกบางอย่าง
แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับการศึกษาของสมัยใหม่ ที่ทำให้ได้เรียนรู้อะไรได้กว้างขึ้น
ซึ่งให้ประโยชน์ทั้งความรู้กับตนเองและคนอื่นๆ รอบข้าง ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จักอย่างที่เธอพบได้ในอินเตอร์เน็ต