วิชัยมีลูกชายหญิง 6 คน ทั้งหมดนี้เมื่อจบการศึกษาก็กลับมาช่วยงานในสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 และแบ่งหน้าที่กันไปทำตามถนัด

จะว่าไปแล้ว การเติบโตของช่อง 3 ในช่วงสิบกว่าปีมานี้ทายาทของวิชัยมีส่วนอย่างมาก

ประสาร มาลีนนท์ เป็นลูกชายคนโตนั่งเก้าอี้กรรมการผู้จัดการ ดูแลบริหารงานภายใน เน้นในเรื่องภาพรวมของธุรกิจเป็นหลัก และด้วยความเป็นคนเงียบๆ คนส่วนใหญ่จึงแทบไม่รู้จักประสาร แต่จะคุ้นเคยกับประวิทย์ และประชามากกว่า

ประวิทย์ ลูกชายคนที่สอง จบจากโรงเรียนนาย ร้อยตำรวจ และไปเรียนต่อด้านบริหารที่สหรัฐอเมริกา เป็นผู้มีบทบาทมากที่สุดของช่อง 3 เวลานี้

ประวิทย์ เป็นคนมีบุคลิกนอบน้อม ยิ้มแย้ม เข้ากับคนง่าย ในยุคที่ช่อง 3 ยังมีตระกูลธารวณิชกุลถือหุ้นอยู่ ประวิทย์เป็นคนคนเดียวที่เชื่อมกับกลุ่ม ธารวณิชกุลได้นุ่มนวลที่สุด เวลานี้ประวิทย์รับหน้าที่ดูแล ด้านรายการ ซึ่งเขาก็ทำหน้าที่เชื่อมกับผู้จัดรายการ ดารา และผู้กำกับ รวมทั้งกับบรรดานักข่าวได้เป็นอย่างดี ประวิทย์จึงเป็นเหมือนกับตัวแทนของช่อง 3 ที่จะเป็นที่คุ้นเคยกับส่วนใหญ่จะรู้จักประวิทย์มากกว่าพี่น้องคนอื่นๆ

ประชา มาลีนนท์ ทายาทคนที่ 3 ในอดีตเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วเคยมีบทบาทอย่างมากเป็นที่คุ้นเคยกับพนักงาน ผู้จัดละคร และดาราของช่อง 3 เป็นคนมีนิสัยกล้าได้กล้าเสีย กล้าตัดสินใจ และเป็นคนใจกว้าง โกรธง่ายหายเร็ว เคยมีคนพูดกันว่า หากให้ประวิทย์เป็นคนคิด และให้ประชาเป็นคนทำแล้ว จะเป็นสิ่งที่ลงตัวมากที่สุด

นิสัยของประชาไม่ค่อยหยุดนิ่ง ชอบบุกเบิกลงทุนอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา การลงทุนธุรกิจใหม่ๆ ของ ช่อง 3 ส่วนใหญ่จะมาจากไอเดียของประชา เช่น ธุรกิจวิทยุ ภาพยนตร์ จัดคอนเสิร์ต ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ส่วนตัวของประชาเองก็เคยไปลงทุนทำร้านอาหาร เปิดค่ายเพลง มีบริษัททำอสังหาริมทรัพย์ ชื่อเมืองประชา ทำร้านอาหาร แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

พอมาในช่วง 3-4 ปีนี้ ประชาปลีกตัวออกไปจากช่อง 3 หันไปสนใจการเมือง เป็นวุฒิสมาชิกสายนักธุรกิจ และหันไปดูแลงานข่าวของช่อง 3 อย่างเงียบๆ และ หันไปสนใจการเมือง ว่ากันว่า หากไม่เป็นเพราะวิชัยไม่ อยากให้ลูกๆ ไปยุ่งการเมืองแล้ว ประชาอาจลงสมัครรับ เลือกตั้งไปแล้ว

ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด ประชาแต่งงานเร็วที่สุด ภรรยาเป็นชาวต่างประเทศ มีลูกสาว 2 คน เวลานี้ลูกสาวคนโตของประชา เรียนจบกลับมา และเข้ามาช่วยงานที่ช่อง 3 แล้ว

ประชุม มาลีนนท์ ลูกชายคนสุดท้อง เป็นกรรม การในบีอีซีเวิลด์ แต่ไม่ได้รับผิดชอบงานหลักๆ ในช่อง 3 เหมือนกับพี่ชายทั้งสาม แต่หันมาดูแลธุรกิจด้านคอม พิวเตอร์ และสื่อสารโทรคมนาคม เริ่มต้นด้วยการเป็นตัวแทนขายเครื่องพีซีและโน้ตบุ้ค ต่อมาก็เลิกทำตลาดไปเพราะผลประกอบการไม่ดี แต่ก็ยังคงมองหาลู่ทางเพื่อเตรียมจังหวะและโอกาสกระโดดเข้าสู่ธุรกิจด้านนี้ตลอดเวลา

ส่วนลูกสาวทั้ง 3 คือ รัตนา นิภา และอัมพร มาลีนนท์ เข้ามาช่วยงานในช่อง 3 นอกจากเป็นกรรมการ แล้ว รัตนาจะดูแลด้านการเงิน ส่วนอัมพรจะดูด้านรายการ เป็นรองหัวหน้าฝ่าย

ในวัย 81 ปีของวิชัย แม้ว่าเขายังนั่งเป็นประธานกรรมการบริหาร ยังต้องชี้ขาดเรื่องสำคัญๆ บางเรื่องอยู่ แต่วันนี้ของเขาก็พร้อมจะวางมือได้อย่างสบายใจกว่าเมื่อ 20 ปีที่แล้ว