ในโมงยามที่กระแสการเปิดเสรีแก่ ธุรกิจข้ามพรมแดนระหว่างประเทศกำลังเป็นประเด็นร้อนของโลกการค้า
ความสามารถในการลดต้นทุน,การตัดตอนระยะทาง ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายให้เอื้อมถึงกันได้รวดเร็วที่สุด
อีกทั้งการรู้ซึ้งหัวใจของผู้บริโภคไปจนถึงพฤติกรรมการบริโภคในเชิงลึก คือเงื่อนไขความสำเร็จที่สำคัญยิ่งยวดสำหรับผู้บริหาร
เทคโนโลยีสารสนเทศหรืออินโฟเทค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส่วนที่เป็นเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
คือเครื่องมืออัศจรรย์ที่เอื้ออวยให้ความสำเร็จทางธุรกิจเป็นจริงขึ้นได้
สำหรับชั่วโมง นี้ของมนุษยชาติผู้บริหารที่กุมเครื่องมือดังกล่าวได้อย่างเชี่ยวชาญเท่านั้นจึงจะสามารถสร้างธุรกิจ
สร้างผลกำไรได้อย่างมหาศาลชนิดพลิกฟ้าพลิก แผ่นดิน ผู้บริหารในสายพันธุ์ดังกล่าว
ถูกขนานนามว่าอิเล็กทรอนิก-ซีอีโอ (E-ceo) หรืออีกนัยหนึ่งคือพวกนักบริหาร
ระดับนายหัว เจ้าของเก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทธุรกิจที่หากินอยู่กับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกนั่นเอง
อี-ซีอีโอรู้ว่าเมื่อธุรกิจของพวกตนนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ พวกตนจะลดต้นทุนการประกอบการของบริษัทได้อย่างมากมาย
พร้อมๆ กับที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานได้อย่างเหลือเชื่อ ตัวอย่าง
ของการเสนอขายตั๋วเครื่องบินบนเว็บไซต์ของอินเตอร์เน็ต จะช่วยให้เห็นมิติหนึ่งในเรื่องดังกล่าวได้เป็นอันดี
หนังสือพิมพ์ดิ เอเชียน วอลล์-สตรีท เจอร์นัล ฉบับวันที่ 18 พฤษภา-คม 1999
เล่าว่า ค่าโสหุ้ยในกระบวนการขายตั๋วเครื่องบินทั้งหมด ตั้งแต่การเสนอขาย,
การจอง, ไปจนถึงการชำระเงินและส่งมอบตั๋ว หากใช้วิธีการแบบ ประเพณีนิยมปกติ
จะตกอยู่ในระดับเฉลี่ยประมาณ 8 ดอลลาร์ต่อตั๋วเครื่องบินหนึ่งใบ แต่ธุรกรรมเดียวกันนี้
เมื่อทำบนอินเตอร์เน็ต ค่าโสหุ้ยจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ยเพียงประมาณ 1 ดอลลาร์
ต่อใบเท่านั้น หรือเท่ากับว่าถูกกว่ากัน ถึง 87%
ตัวอย่างอื่นที่ดูเป็นรูปธรรมไม่แพ้กัน เห็นจะได้แก่ที่คนของอเมซอน ดอทคอม
(amazon.com) เล่าว่าเทค-โนโลนีสารสนเทศภายในองค์กรมีบทบาทสำคัญยิ่งในการสร้างความฉับไว
และแม่นยำแก่ระบบการบริการลูกค้าของอเมซอน นอกจากนั้น พวกค่ายอี-ทอยส์ (eToys)
ก็เผยว่าเทคโนโลยีสาร สนเทศช่วยให้การ จัดส่งสินค้าสู่มือผู้ซื้อเป็นไปด้วยความรวดเร็วน่ามหัศจรรย์
ใจ ทั้งนี้ ทั้งสองบริษัทต่างมีซอฟต์แวร์ ที่ตอบสนองธุรกิจได้อย่างเหลือเชื่อ
อเมซอนใช้ซอฟต์แวร์ที่ช่วยสร้างฐานข้อมูลซึ่งบ่งบอกถึงความใฝ่ใจของกลุ่ม
ผู้ซื้อ ขณะที่อีทอยส์มีซอฟต์แวร์ที่ช่วย บริหารงานการกระจายและจัดส่งสินค้า
กระแสการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการประกอบการ จึงเป็นประเด็นร้อนแรงยิ่งนักในช่วงจังหวะ
ที่มนุษยชาติกำลังพัฒนาศักยภาพการสื่อสาร การบริหารจัดการ และการควบคุมความรู้
ก่อนจะก้าวเข้าสู่สหัส วรรษที่ 3 ในอีกปีกว่าข้างหน้า คุรุแห่ง แวดวงอนาคตศาสตร์ฟันธงไว้ว่า
เทค-โนโลยีสารสนเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส่วนที่ถูกพัฒนาเป็นเครือข่ายอินเตอร์
เน็ตกำลัง สร้างสิ่งที่เรียกว่าระบบเศรษฐ-กิจแบบใหม่ ที่ปลอดจากภัยคุกคามของปัญหาเงินเฟ้อ
พร้อมกับสร้างคุณูปการใหญ่หลวงแก่โลกธุรกิจไร้พรมแดน
คำทำนายดังกล่าวไล่เรียงให้เห็น รูปธรรมอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่การลดต้นทุนการประกอบการ,
การลดความจำเป็นในด้านสินค้าคงคลังขนาดใหญ่โต, การเพิ่มผลผลิตของงานในแต่ละชั่วโมง,
การย่นย่อเวลาในการทำ ธุรกรรม และแน่นอน ส่วนที่สำคัญที่สุดคือ การช่วยเพิ่มยอดขายแก่บริษัท
ที่นำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้อย่างเหมาะ สม พร้อมกันนั้น ยังสร้างผลกระทบในอีกด้านหนึ่งที่ยากจะหนีพ้น
กล่าวคือสถานการณ์สงครามหั่นราคาอย่างโหดเหี้ยมในบรรดาผู้ผลิต -ผู้ค้า อันเป็นปัจจัยขจัดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหา
เงินเฟ้อขยายตัว
ผลงานแห่งอินโฟเทคที่กำลังแสดงโฉมโดดเด่นอยู่ขณะนี้ ปรากฏออกเป็นการขยายตัวอย่างฮึกเหิมด้านยอดขายที่มาจากช่องทางบนเครือข่าย
อินเตอร์เน็ต เมื่อกลางเดือนพฤษภาคม หลุยซ์ เกิร์ทซเนอร์ อี-ซีอีโอแห่งบริษัทไอบีเอ็ม
ออกมาประกาศว่า ใน
ปี 1999 ไอบีเอ็มจะทำยอดขายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตได้ในราว 10,000 - 15,000
ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ เกิร์ทซ เนอร์เผยว่ากว่าหนึ่งในสี่ของธุรกิจทั้งหมดของไอบีเอ็มเป็นธุรกิจเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิก
ซึ่งเป็นเครื่องมือมัดใจลูกค้าพร้อมกับลดต้นทุนของบริษัท
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกจุติจากสุญตา
ด้วยความแรงของกระแสความนิยมในเทคโนโลยีสารสนเทศ นักบริหารทั่วโลกหันมาศึกษากระบวนทัศน์ธุรกิจใหม่สาขานี้กันอย่างครึกโครม
แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จได้เท่ากัน เพราะการประยุกต์ เทคโนโลยีสารสนเทศไว้ในธุรกิจหนึ่งๆ
นั้น ย่อมมิใช่เพียงการควักกระเป๋าซื้อซอฟต์แวร์มายัดใส่ระบบอย่างแน่นอน
หากจำต้องมีตัวตนความเป็นไอทีแมนอย่างสมบูรณ์แบบอยู่เป็นพื้นฐาน พร้อม กับมีความรู้สึกและจินตนาการเข้าไปสร้างความเพริศแพร้วให้แก่ความเป็นนามธรรมของธุรกิจใหม่นี้
พวกอี-ซีอีโอล้วนซาบซึ้งกับเรื่องนี้เป็นอันดี พวกเขาจะอธิบายว่าโลกของอินโฟเทคเป็นอะไรที่เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วเหลือเชื่อ
กระทั่งว่าเอาเข้าจริงแล้วในโลกแห่งนี้ไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรมตายตัว ไม่มีอะไรที่จับต้องได้
บิล แฮร์ริส ซีอีโอแห่งบริษัทอินทิวอิท เปิดความคิดออกมาตรงๆ ว่า "สิ่งที่เราทำอยู่นี้เป็นเรื่องของความคิดจิตใจล้วนๆ
ไม่มีอะไรที่เป็นกายภาพ ทุกอย่างจับต้องไม่ได้ และนั่นแหละที่ทำให้ผมหลงรักธุรกิจนี้"
คำพูดของแฮร์ริสน่าจะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เมื่อคำนึงถึงว่าบริษัทของเขาทำเงินจาก
จินตนาการแห่งพลังสมอง แล้วแปรรูป ออกเป็นการรังสรรค์ซอฟต์แวร์ขึ้นมา ซอฟต์แวร์ตัวที่เป็นมาสเตอร์พีซสำหรับ
แฮร์ริส คือ ควิกเก้นผู้คนในแวดวงนี้เผยความลับที่ไม่ถึงขั้นดำมืดว่า ธุรกิจของพวกตนสร้างขึ้นบนนามธรรมและแตกต่างกับธุรกิจอื่นๆ
อย่างสิ้นเชิง เพราะแม้แต่ธุรกิจด้านสื่อมวลชน ซึ่งทำธุรกิจบนพื้นฐานของทรัพย์สินทางปัญญาสารพัดประเภท
ธุรกิจเหล่านั้นยังต้องเกี่ยว พันอยู่กับสินทรัพย์ที่มีความเป็นกายภาพจับต้องได้จำนวนไม่น้อย
อาทิ ห้องบันทึกภาพบันทึกเสียง เครื่องมือผลิตข่าวสาร ยานพาหนะ หรือกระทั่ง
เครื่องมือสื่อสารต่างๆ
แต่หากแวะเข้าเยี่ยมชมกิจการของยาฮู ผู้ให้กำเนิดเว็บไซต ์อันมหึมา ซึ่งเป็นที่นิยมแพร่หลายของคนเรือนล้าน
สิ่งที่ปรากฏให้พบเห็นมีเพียงกล่อง โลหะสี่เหลี่ยมแบนสามอันวางซ้อนกัน โดยที่แต่ละกล่องมีขนาดเพียงสองฟุตคูณสองฟุตเท่านั้น
นอกนั้นเป็นป้ายเล็กๆ เขียนว่า อย่าจับวัสดุที่ดูน้อยชิ้นนี่แหละที่ให้บริการอย่างมหาศาลเดือนละหลายล้านเพจวิว
พร้อมกับนำมาซึ่งรายได้ค่าโฆษณาเดือนละหลาย ล้านดอลลาร์ ยาฮูทำได้อย่างนี้เพราะพวกเขาใช้วิธีกระจายงานออกไป
กับใช้ ระบบเช่าเป็นสำคัญ ดูเอาเถิด แม้แต่เซิร์ฟเวอร์สักหนึ่งยูนิต ยาฮูก็ไม่ได้มีไว้ในครอบครองเลยด้วยซ้ำ
ในท่ามกลางความเป็นนามธรรม และคลุมๆ เครือๆ นี้ สิ่งสำคัญหมาย เลขหนึ่งสำหรับธุรกิจจำต้องเป็นเรื่องของการมีวิสัยทัศน์ที่กระจ่างว่าจะเลือก
ทำบทบาทเสี้ยวส่วนใดในระบบเศรษฐ กิจแห่งอินเตอร์เน็ต พร้อมกับมีเป้าหมายของตัวเองที่มั่นคง
เรื่องนี้ต้องลองเปรียบเทียบกับธุรกิจการผลิตกระดาษสักเจ้าหนึ่ง เมื่อ
บริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล เปเปอร์ เริ่ม ธุรกิจค้ากระดาษ พวกเขาต้องใช้พื้น
ที่รองรับฝ่ายการผลิตขนาดไม่น้อยกว่าสนามฟุตบอลมาตรฐานสั่งหนึ่งผืน และเนรมิตอุปกรณ์ตลอดทุกขั้นตอนด้วยเม็ดเงินสักประมาณ
800 ล้านดอลลาร์ พร้อมกับมีพนักงานหลายพันรายมาเดินงานทั้งหมด โดยที่แต่
ละคนล้วนเห็นลักษณะงานของตัว เห็นขอบเขตความรับผิดชอบของตัวล่วงหน้าไปได้เป็นหลายปี
หากสักวันหนึ่ง พนักงานฝ่ายผลิตสักคนนึกวอบแวบขึ้นมาว่าอะลูมิเนียมก็เป็นสินค้าที่น่า
ผลิตน่าสนุก กระบวนงานของอินเตอร์ เนชั่นแนล เปเปอร์ ยังไงก็ไม่แกว่ง เพราะเครื่องมือเครื่องไม้ที่มีอยู่สามารถ
ผลิตได้แต่เฉพาะกระดาษเท่านั้น
แต่ในโลกไอที เส้นแบ่งระหว่าง แต่ละส่วนเสี้ยวของ การประกอบการนั้นแสนจะบางเบา
ที่ยาฮู, ที่อินทิว-อิท, หรือที่อีเบย์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีอุปกรณ์การผลิตสำคัญในกระบวนงาน
เป็นพลังสมองมนุษย์ หากพนักงานสักรายหนึ่งนึกวอบแวบไปตั้งต้นพัฒนา สู่เป้าหมายอื่นที่ฉีกแนวต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงจากยุทธศาสตร์หลักของบริษัท
หมอนั่นย่อมสามารถทำได้ในชั่วกะพริบตาที่สมองของเขาสั่งการ อาทิว่า เออหนอ
อุทิศไซต์ส่วนหนึ่งให้แก่พวกลัทธิบูชาปีศาจดีกว่า ท่าทาง ว่าตลาดด้านนี้จะโตระเบิดเถิดเทิง
จากนั้นสินทรัพย์ของบริษัทก็แตกแถว กลายเป็นภาระให้ท่านจอมทัพต้องคอยพัฒนาความแข็งแกร่ง
และความชัดเจนของเป้าหมายยุทธศาสตร์บริษัทอยู่ไม่ขาด
ปัญหาเรื่องเป้าหมายและทิศทางของบริษัทในแวดวงเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นปัญหาวิกฤตอยู่บ่อยครั้ง
ด้วยความที่ธุรกิจตรงนี้มีความลึกซึ้งซับซ้อน อี-ซีอีโอทุกรายล้วนเคยประสบ
ความเย้ายวน ของโอกาสแต่แขนงกันเป็นว่าเล่น ซึ่งเป็นอะไรที่หากหลุดจาก กรอบอันชัดเจน
แล้วไปวิ่งไล่ตามความเย้ายวนเหล่านั้นครั้งแล้วครั้งเล่า บริษัทนั้นๆ จะไปไม่ถึงไหนเลย
เควิน โอ คอนเนอร์ ซีอีโอวัย 38 ปีแห่งดับเบิลคลิก เล่าว่า "เราได้รับไอเดียและข้อเสนอราคามหาศาลเข้ามาวันละเป็นพันๆ
รายการ จนชินเสียแล้ว กลยุทธ์ของเราตอนนี้คือ ครึ่ง หนึ่งของงานเราเกี่ยวพัน
อยู่กับการตัด สินใจว่าจะทำอะไร ส่วนอีกครึ่งหนึ่งหมด ไปกับการตัดสินใจว่าจะไม่ทำอะไร"
ด้านทิม คูเกิล ซีอีโอแห่งบริษัท ยาฮูบอกไว้อย่างท้าทายว่า "คุณต้องสามารถปฏิเสธข้อเสนอราคาสิบล้านดอลลาร์ได้"
หากจะคว้าความสำเร็จให้แก่งานที่ได้เลือกไว้อย่างชัดเจนแล้ว งานนี้คูเกิลมิได้ฟุ้งฟายแบบปลาตกน้ำตัวโต
วงการไอทีลือกันให้แซ่ดว่าเขาปฏิเสธดีลราคานั้นไปแล้วจริง เพียงแต่ว่าใครกันแน่
ที่ถูกเขาปฏิเสธนั้นยังเป็นความลับดำมืดอยู่
นอกเหนือจากวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ต่อเป้าหมายงานแล้ว ความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า
ต่อเป้าหมายที่แต่ละบริษัท เลือกทำ รวมทั้งความศรัทธาในตัวอุตสาหกรรม เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบ
หนึ่งสำคัญยิ่งยวดที่ทำให้ธุรกิจเทคโน-โลยีสารสนเทศพัฒนาตัวตนจนรุ่งเรืองขึ้นได้
เมื่อนายใหญ่แห่งดับเบิลคลิกถูกถามว่า เคยนึกระแวงบ้างไหมว่าศักยภาพของอินเตอร์เน็ตที่ถูกเล่าลือกันอย่างโอฬารอาจเป็นแค่คำอวดอ้างฟุ้งฟาย
ที่ใช้เทคนิคการหว่านล้อมจูงใจมาหากินกับนักลงทุน มากกว่าจะเป็นกระบวนการปฏิวัติกระบวนทัศน์แห่งระบบเศรษฐกิจ
ของมนุษยชาติอย่างแท้จริง คำตอบของเขาคือ ไม่เคยแม้แต่สักน้อยหนึ่ง โอ คอนเนอร์
ย้ำว่าความเชื่อในศักยภาพแห่งอินเตอร์ เน็ตเป็นอะไรที่ฝังลึกอยู่ในโครโมโซม
ในดีเอ็นเอ ของคนไอทีเชียวแหละ
บรรดาประกาศกแห่งเส้นทางไอทีมักจะเท้าความไปถึงกาลเวลาเมื่อแค่สองสามปีที่ผ่านมาว่า
ช่วงยามเหล่า นั้นอินเตอร์เน็ตเคยถูกมองด้วยสายตา เคลือบแคลงหนักหนาขนาดไหน
แล้ว ดูเอาเถิด เวลานี้พลังการทำงานของอิน เตอร์เน็ตถูกพิสูจน์และถูกใช้งานมหาศาลเพียงใด
ผู้คนตื่นเต้นแห่กันเข้า ร่วมเล่นโล้โต้คลื่นดิจิตอลในอินเตอร์ เน็ตกันขนาดไหน
"คุณอยู่ในอุตสาหกรรรมนี้ได้ คุณต้องมีศรัทธาเชื่อมั่น อย่างแรงกล้ามาก"
เฮลซี่ย์ ไมเนอร์ ซีอีโอหนุ่มใหญ่วัย 34 ปี แห่งบริษัทซีเนท บอกอย่างนั้น
และสำทับด้วยว่าคนในวงการ นี้ต้องกล้ารับเอาความฝันที่จะไปถึงปลายทางแห่งจินตนาการมาเป็นความเชื่อมั่นศรัทธาประจำใจ
ไมเนอร์บอกว่าในอุตสาหกรรมนี้ อาจไม่มีนายทุนที่มองเห็นศักยภาพการทำรายได้ของงานพวกเขา
มาโปรยหว่านเงินลงทุนให้พวกเขา ซ้ำพวกเขามีแต่จะเผชิญกับเสียงเย้ยหยันถากถาง
แต่ผู้ที่รักในงานนี้ต้องมีศรัทธาที่มั่นคงไม่หวั่นไหวว่าอินเตอร์เน็ตสามารถผันเปลี่ยน
เป็นอะไรบางอย่างที่สำคัญต่อมนุษย ชาติขึ้นมาได้
เป็นอี-ซีอีโอผู้ประสบความสำเร็จ
เฉือนกันที่ความเร็ว-สัญชาตญาณ
ในเมื่อโลกแห่งเทคโนโลยีสารสนเทศและธุรกิจแห่งพาณิชย์อิเล็ก ทรอนิกช่างเป็นนามธรรมขนาดนั้น
การ จะเป็นอี-ซีอีโอที่ประสบความสำเร็จ จะเป็นอะไรที่สามารถมองให้เห็นเป็นคุณลักษณ์องค์ประกอบได้บ้างหรือไม่
นิตยสารฟอร์จูนให้คำตอบในเรื่องนี้ โดยละเอียดลออ
ฟอร์จูนชี้จุดเด่นร่วมของอี- ซีอีโอทั้งหลายซึ่งสะดุดตาที่สุดว่าอยู่ ที่ความเร็วในการตัดสินใจ
"ในโลกธุรกิจทุกวันนี้ คุณต้อง เดินหน้าในอัตราเร่งสูง ด้วยความรู้สึก
ทั้งชื่นมื่นบันเทิงและทั้งหวาดเสียว บางครั้งคุณต้องตัดสินใจหักเหทิศทางอย่างกะทันหัน
โดยที่คุณไม่อาจหยุดกะพริบตาด้วยซ้ำ เพราะถ้าคุณมัวตรวจ มัวตรองข้อมูลไปมา
คุณก็ไม่ทันคว้าของดีได้ก่อนคนอื่น"
นั่นเป็นคำอุปมาจากรอเจอร์ ซิโบนี่ ซีอีโอของบริษัทเอพิฟานี่ ผู้ผลิต ซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้บริษัทธุรกิจที่หากินอยู่กับ
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกสามารถ เก็บข้อมูลลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อมูลสถิติความถี่ในการบริโภคข่าวสารข้อมูล
ซึ่งจะบ่งชี้ความโปรดปราน ที่ผู้บริโภคกระทำธุรกรรมบนอินเตอร์ เน็ต ซิโบนี่มีภูมิหลังเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการให้แก่บริษัทที่ปรึกษานามอุโฆษอย่างเคพีเอ็มจี
อีกทั้งมีประสบการณ์คร่ำหวอดกับลูกค้าใน ซิลิคอน แวลเล่ย์ นานกว่า 20 ปี
กรณีบริษัทซิฟ-เดวิส นำบริษัท ลูกเข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อปลายปีที่ แล้ว
เป็นตัวอย่าง ยอดนิยมที่ถูกนำไปอ้างกันมากเมื่อต้องวิพากษ์ถึงปัจจัยความเร็วในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิก
เมื่อซิฟ-เดวิสประกาศนำหุ้นบริษัทซีดีเนทเข้าตลาดหลักทรัพย์ หุ้นตัวนี้เป็นที่จับจ้องว่าน่าจะจุดประกายการผนวกกิจการตามมาเป็นเอิกเกริก
หุ้นของ ซีดีเนท เริ่มเทรดในตลาดเมื่อวันที่ 31 มีนาคมปีนี้ และในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
มูลค่าตลาดของซีดีเนทอยู่ที่ระดับ 2,600 ล้านดอลลาร์ สูงกว่ามูลค่าตลาดของซิฟ-เดวิสซึ่งเป็นบริษัทแม่
หนึ่งพันล้านดอลลาร์
ผู้หนึ่งที่จับตาความเคลื่อนไหวของซีดีเนทคือ เฮลซี่ย์ ไมเนอร์ ด้วย ความที่บริษัทซีเนทของเขาเป็นเพลย์
เยอร์รายใหญ่ด้านธุรกิจออนไลน์ ซึ่งให้บริการด้านข้อมูลผลิตภัณฑ์เทคโน โลยี
อีกทั้งการทำงานวิจัยวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีด้วย ไนเนอร์จึงมองเห็นแนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้นว่า
แผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ของซีดีเนท น่าจะสะท้อนว่าบรรดาบริษัทอื่นๆ ในเสี้ยวธุรกิจเดียวกัน
(ซึ่งหลายรายเป็นบริษัทที่ทางซีเนทเล็งๆ ไว้) ก็ต้องมองเห็นความสุกงอมของตลาดตรงนี้ได้เช่นกัน
และคงเตรียมความคิดจะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ด้วย
"ผมเลยไล่เก็บซะสามบริษัทในสามสัปดาห์เลยคุณ ผมมองว่าผมต้อง คว้าให้ทันก่อนทางซีดีเนทเข้าตลาด"
ไมเนอร์เล่าไว้อย่างนั้น และดูเหมือนว่าไมเนอร์จะประเมินไม่พลาด เพราะหลายบริษัทด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกตบเท้าพาเหรดเข้า
ตลาดหลักทรัพย์โดยที่บริษัทคู่แข่งของซีเนทไม่จะทันขยับตัว อาทิ บริษัทดับเบิลคลิก
ซึ่งเป็นผู้ประกอบการด้านโฆษณาบนอิน เตอร์เน็ต ทำไอพีโอเสนอขายหุ้นแก่สาธารณะ
แบบไม่กระโตกกระตากให้ใคร ไหวตัวได้ภายในเวลาเพียง 90 วัน ทั้งที่ กระบวนการที่ทำๆ
กันอยู่นั้นมักใช้เวลาถึง 9 เดือน
ประเด็นเรื่องความเร็วเป็นหัว ข้อที่ทุกอี-ซีอีโอตระหนักซึ้งในใจ แต่ ละคนล้วนกล่าวตรงกันว่า
ธุรกิจตรงนี้เป็นธุรกิจเรียลไทม์ คือต้องตัดสินใจทันที ไม่มีคำว่ารอถึงพรุ่งนี้
หรือกระทั่งรอถึงมื้อเที่ยง ทอม เจอร์โมลูค จอมทัพแห่งแอทโฮมเนทเวิร์ค ให้ความเห็นไว้ว่า
"โลกตรงนี้เคลื่อนที่รวดเร็วมาก จนคุณต้องลองคิดทำโคลนนิ่งตัวเองขึ้นมา เพื่อทำให้คุณมีมือไม้เพียงพอจะรับมือกับสถานการณ์
ได้ เราต้องตัดสินใจเรื่องนั้นเรื่องนี้แทบจะนาทีละเรื่อง มันป่วนเหมือนโลกทั้งใบเป็นบ้ากันไปหมด
ยิ่งกว่านั้น เรื่องราวสารพัดอย่างนี้ล้วนเกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน"
โจเม่ย์ จาง แห่งบริษัทวิเตรีย เทคโนโลยี ออกความเห็นตอกย้ำขวัญผวาของคนไอทีขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง
ว่า "เมื่ออินเตอร์เน็ตมาลดอุปสรรคการสื่อสารไปอย่างมหาศาล มันคือการขยายให้จุดอ่อนอื่นๆ
ของบริษัทธุรกิจต่างๆ ทวีพิษสงขึ้น คุณจะไม่ เหลือที่ให้ซ่อนข้ออ่อน จุดบกพร่องของคุณอีกต่อไป
คุณต้องยืนหยัดพร้อมพรักทุกนาที พูดให้ถูกคงต้องบอกว่าทุกวินาทีด้วยซ้ำไป"
จางพูดเรื่อง นี้ได้อย่างมั่นใจเพราะบริษัทวิเตรีย เทคโนโลยีของหล่อนคือผู้ผลิตระบบซอฟต์แวร์ขนาดมหึมาเพื่อเชื่อมโยง
ระบบซอฟต์แวร์รายยักษ์อื่นๆ เข้าด้วยกัน
ด้านจอมทัพแห่งยาฮูก็สำทับความสำคัญของประเด็นความเร็ว ในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิก
ด้วยคำบอกเล่าว่า ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ใหม่ มาก อีกทั้งยังผิดแผกเหลือเกินจากประสบการณ์ที่โลกธุรกิจทั่วไปรู้จักกัน
ณ วัย 47 ปีของคูเกิลนี้ ต้องยอมรับว่าเขาได้สัมผัสได้เปรียบเทียบวัฒนธรรมองค์กรของ
โลกเก่าและโลกใหม่มาอย่างลึกซึ้งกว่าอี-ซีอีโอรายใด
สัญชาตญาณ-ศรัทธา-วิสัยทัศน์
องค์ประกอบสำคัญในธุรกิจไอที
อันเนื่องมาจากความจำเป็นที่อี-ซีอีโอต้องโลดแล่นในอัตราความเร็วสูง ยิ่ง
พวกเขาจึงกลายเป็นผู้บริหารที่สามารถตัดสินใจได้อย่างฉับพลันเหลือ เชื่อ
การดึงเอาคำวินิจฉัยของตนออกมาแบบสุดแสนจะเรียลไทม์ไม่แพ้การโหลดข้อมูลขึ้นมาบนหน้าจอคอมพิว
เตอร์เป็นอะไรที่อี-ซีอีโอทำได้โดยไม่แม้จะหยุดฉุกคิดลังเลสักน้อยหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม การที่จะทำอย่าง นั้นได้ อี-ซีอีโอจำต้องมีพื้นฐานแข็ง แกร่งรองรับประการหนึ่งคือ
ญาณวิสัยต่ออนาคตที่แรงกล้าด้วยความมั่น ใจ และเป็นญาณวิสัยที่เจ้าตัวปลาบ
ปลื้ม ฝักใฝ่จะสรรค์สร้างขึ้นมาให้เป็นจริงขึ้นให้ได้ ผู้บริหารสายพันธุ์ใหม่
แห่งโลกไอที ก่อนจะประสบความสำเร็จ ได้ พวกเขาได้สอบผ่านคุณลักษณ์ แห่งการมองทะลุอนาคต
และการรู้สึกได้ถึงภาพอนาคตที่เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถเสกสรรค์ขึ้นได้ โดยที่
ภาพอนาคตเหล่านั้นแสนจะฉีกหลุดออกจากครอบกรอบแห่งวิธีคิด-วิถีปฏิบัติของโลกปัจจุบัน
ซึ่งเป็นโลกที่ชราภาพลงเรื่อยๆ เป็นโลกที่จะถูกละทิ้งให้กลายเป็นโลกเก่าแก่
โลกโบราณสำหรับผู้คนที่ไม่กล้าก้าวสู่เสรีภาพแบบเกินร้อย
ว่าที่จริง ลักษณาการแห่งการตัดสินใจฉับพลันเป็น อะไรที่ผู้บริหารจำเป็น
ต้องกล้าทำ เพราะในธุรกิจทุกวันนี้ ขณะที่คุณไม่มีทางจะได้รับข้อมูลที่คุณต้องการใช้ไปเสียทุกสิ่ง
ทุกอย่าง ทุกแง่ทุกมุม คุณยังถูกข้อมูลท่วมทับในทุกขณะจิตแห่งการบริโภคข้อมูลของคุณด้วย
ดังนั้น ในท่ามกลางความเคลื่อนไหวอันเร็วจี๋ กับความเข้มข้นแห่งการแข่งขัน
อี-ซีอีโอ จำต้องกล้าตัดสินใจวันต่อวันทั้งที่มีข้อมูลไม่เพียงพอ การตรวจสอบฐานะการเงินก่อนหรือ
ก็ทำไปเถอะ แต่ในทางเป็นจริงแล้ว อี-ซีอีโอล้วนยอม รับว่าพวกตนตัดสินใจซื้อบริษัทนั้นนี้ไปตั้งมาก
โดยแทบจะไม่ทราบข้อมูลหลากหลายประการที่ควรได้รู้ก่อน พวกเขาเผยว่าอย่างไรเสียก็ต้องมั่นใจทำไป
เพราะขืนรีรอ ตื่นมาเช้ารุ่งขึ้นบริษัทคู่แข่งแย่งฉวยไปเสียแล้ว
"โลกแห่งนี้เรียกร้องให้คุณต้อง มีความอดทนใจกว้างกับอัตราเสี่ยง และความผิดพลาดค่อนข้างมาก"
นั่นเป็นคำแนะนำของ ทิม คูเกิล แห่งยาฮู ขณะที่บิล แฮร์ริส แห่งอินทิวอิท
กล่าวเป็นปรัชญาว่า "คุณจะต้องเต็มใจ ปลดปล่อยสารพัดสิ่งที่คุณรู้จัก เพื่อกระโจนเข้าสู่สิ่งแวดล้อมใหม่ที่เต็ม
ไปด้วยสรรพสิ่งที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน"
ผู้บริหารบางรายเติบโตรุ่งเรืองได้ภายในสภาพเงื่อนไขเหล่านี้ ขณะที่บางรายไปไม่รอด
มันขึ้นอยู่กับจริตพื้นฐานของแต่ละบุคคลโดยแท้จริง อย่างไรก็ตาม ศรัทธาอันแรงกล้า
และ สัญชาตญาณอันคร่ำหวอดจะมีบทบาท ช่วยได้มาก หากอี-ซีอีโอหนึ่งๆ เชื่อมั่นในทิศทางที่ธุรกิจกำลังมุ่งหน้าไป
เขาย่อมใช้ศรัทธาตรงนั้นมาขับเคลื่อนการตัดสินใจอันฉับพลันของเขา ตามแต่วิสัยทัศน์ที่เขาเล็งเห็นผลรออยู่ภายภาคหน้า
รวมทั้งรู้สึกได้ว่ามันเป็นอะไร ที่ต้องเป็นต้องไปอย่างนั้นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้
ข้างต้นนั้นคือทัศนะของแฮร์ริส ซึ่งได้ยกตัวอย่างกำกับให้ด้วยว่า เมื่อคุณตั้งคำถามว่าสถานการณ์ในอนาคตจะปรากฏมาไหมว่า
ผู้คนจะต้องพากันมาทำธุรกรรมการเงินส่วนตัว ของพวกเขาผ่านเครือข่ายอิเล็กทรอนิกที่เชื่อมโยงถึงกันเป็นหนึ่งเดียว
แล้วหากคำตอบคือ แน่นอน แน่นอนชนิดที่ไม่อาจเป็นอื่นไปได้ หากคุณเชื่อ คุณเห็น
คุณรู้สึกได้อย่างนั้น คุณก็แค่เดินหน้าไปทิศทางนั้นอย่างมั่นคง
ต้องเป็นนักการตลาด
ต้องเป็นประกาศกโลกปฏิวัติ
การมีต้นตอหน่ออ่อนแห่งความ เป็นไอทีแมนอาจเพียงพอให้อี-ซีอีโอทะยานโลดแล่นไปในโลกธุรกิจใหม่เอี่ยมแห่งสหัสวรรษที่
3 ได้ก็จริง แต่นั่นยังไม่พอจะทำให้บุคคลหนึ่งๆ กลาย เป็นอี-ซีอีโอที่ประสบความสำเร็จสูงสุด
อี-ซีอีโอระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรม ได้บอกเล่าถึงองค์ประกอบอื่นๆ ที่ซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
ซึ่งเป็นปัจจัยที่พวกเขาคิดว่าหากขาดหายไปแม้เพียงสักประการเดียว พวกเขาก็จะไม่ได้มีวันอันรุ่งโรจน์
ณ ปัจจุบัน
ประสบการณ์แห่งการทำตลาดผนวกกับญาณทัศน์ แห่งเทคโนโลยีคือเบื้องหลังสำคัญยิ่งยวดที่พวกเขาพูดถึง
พวกเขาบอกว่าความสำเร็จของพวกเขามาจากการผสมผสานความแตกฉาน ทางอินโฟเทคเข้ากับความเชี่ยวชาญในการสถาปนาให้ชื่อเสียง/ยี่ห้อขององค์กร
และของตัวสินค้าทวีความแข็งแกร่ง ปัจจัยทั้งสองประการนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นสองด้านของเหรียญเดียวกันเชียว
ด้วยว่าอี-ซีอีโอมิอาจประสบความสำเร็จ รุ่งเรืองโดยมีศักยภาพเพียงมิติหนึ่งใดมิติเดียว
ความสำเร็จทางธุรกิจของอีทอยส์และอเมซอนดอทคอมจะไม่เกิดขึ้น หากอี-ซีอีโอของบริษัททั้งสองมองไม่แตกว่าเทคโนโลยีใดที่ช่วยธุรกิจ
ของตนได้ดีที่สุดมาตั้งแต่ต้น กระนั้น ก็ตาม ขณะที่เทคโนโลยีเป็นปัจจัยอันสำคัญยิ่งยวดต่อการอยู่รอดเติบโตของ
ธุรกิจ มันยังไม่เพียงพอที่จะนำพาธุรกิจให้มีชัยชนะเหนือคู่แข่ง แต่การสร้างชื่อสร้างเสียงให้ติดตาขึ้นใจผู้บริโภค
ต่างหากที่เป็นตัวตัดสิน
"ในโลกอินเตอร์เน็ต ผู้บริโภค มีทางเลือกแสนจะมหาศาล ชื่อเสียงยี่ห้อจึงเป็นตัวเฉือนนำชัยเหนืออื่นใด
ยิ่งข้อมูลมีมากเพียงใด แบรนด์อันคุ้นหูเจนตาก็ยิ่งสำคัญเพียงนั้น" โอ คอนเนอร์
ฟันธงไว้อย่างคนที่มีประสบ การณ์ตรง
อี-ซีอีโอรายหนึ่งที่ไม่ประสงค์จะออกนามเพราะ บริษัทของเขากำลังอยู่ระหว่างซุ่มเตรียมนำหุ้นออกกระจาย
บอกว่าคุณต้องมองตัวเองเป็นเหมือนกับนายทวารดูแลความสุขสมบูรณ์ของชุมชน หากชุมชนที่คุณดูแล
กลายเป็นสถานที่ที่ตอบสนองผู้คนได้เป็นเลิศ ชุมชนนั้นจะไม่ร้างสมาชิก หนำซ้ำจะเติบใหญ่ขยายตัวรวดเร็วในลักษณาการแบบกึ่งแฟชั่นกึ่งสวนสวรรค์
ประมาณว่า ใครไม่รู้จักไซต์ของคุณคือเชย ใครไม่เข้าไซต์คุณจะถึงกับ พลาดประสบการณ์ร่วมสมัยทีเดียว
และคุณจะไปถึงจุดนี้ได้ คุณต้องผลักดันให้ชื่อเสียงขององค์กรขึ้นชั้นอุโฆษ
เป็น ที่รู้จักนิยมอย่างกว้างขวาง
อีเบย์คือตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้ ณ ปัจจุบัน ผู้คนที่ติดหนึบติดหนับกับการทำประมูลซื้อขายของ
เป็นต้องไม่พลาดเว็บไซต์รายนี้ เมื่ออีเบย์ตรึงนักเล่นอินเตอร์เน็ตได้อย่างนี้สม่ำเสมอ
ไม่ช้าไม่นานมูลค่าของมันจะทวีขึ้นเกินคณานับ (เท่าที่ผ่านมาอยู่ ณ ระดับประมาณ
22,000 ล้านดอลลาร์)
เมื่อคนไอทีมีอัจฉริยภาพครบถ้วน รู้ซึ้งเข้าใจมิติแห่งเทคโนโลยี พร้อมกับเชี่ยวชาญในการเล่นเกมจิตวิทยามวลชนกับผู้บริโภคแล้ว
พวกเขา ยังต้องให้ความสำคัญแก่การสร้างกอง ทัพนักปฏิวัติแห่งโลกอินโฟเทค
โดยสละเวลาหมั่นปลุกปลอบดูแลกำลังใจของทีมงาน ตลอดจนพูดคุยจับหัวใจใครต่อใครที่โฉบผ่านเข้ามาในเส้นทางของพวกเขาเสมอ
ประหนึ่งว่าพวกเขาคือประกาศกแห่งโลกยุคใหม่ที่ร้อนรนจะประกาศความเชื่อ และไม่รู้เบื่อ
ที่จะชักจูงผู้อื่นให้กลับใจมาเชื่อเหมือนพวกตน
เรื่องดังกล่าวนี้นับว่าเข้าใจได้เป็นที่ยิ่ง เมื่อคำนึงถึงว่าโลกแห่งเทค
โนโลยีสารสนเทศเป็นเรื่องใหม่อย่างแท้จริงตั้งแต่รากฐานขึ้นไปทีเดียว ซึ่งหมายความว่าผู้คนอีกมหาศาลยังไม่เข้าใจตัวตนและศักยภาพของโลกใหม่ใบนี้
จอห์น แชมเบอร์ส ซีอีโอแห่งบริษัทซิสโก้ ซิสเต็มส์ บอกว่าตนอุทิศเวลากว่าครึ่งหนึ่งแก่ภารกิจแห่ง
การชักจูงผู้อื่นให้ศรัทธาเชื่อมั่นในพลังสร้างสรรค์ของไอที แม้บริษัทของเขามีฐานะแข็งแกร่งมาเก่าแก่
แต่เขาไม่ยอมนิ่งนอนใจ เขามองว่าการตลาดผ่านอินเตอร์เน็ตคือวิสัยทัศน์แห่งโลกธุรกิจในอนาคต
และทุกวันนี้ ซิสโก้ ซิสเต็มส์มีระบบสนับสนุนลูกค้าผ่านอินเตอร์เน็ตในสัดส่วนถึง
70% ของระบบโดยรวม
ด้านเจอร์โมลูคแห่งแอทโฮม เนทเวิร์ค บอกว่าตนใช้เวลาไม่น้อยกว่า 50% ไปกับการคุยปลุกเร้าความมั่นใจของลูกทีมต่อธุรกิจอินโฟเทคของเขา
นอกจากนั้น เพื่อนร่วมงานเอย หุ้นส่วนเอย สื่อมวลชนเอย ไปจนถึงผู้คนที่พบปะกันทั่วไปล้วนอยู่ในข่ายที่เขาเห็นว่า
จำเป็นมากที่ต้องอธิบายให้เข้าใจโลกธุรกิจใหม่ใบนี้ ตลอดจนต้องจูงใจให้เกิดศรัทธาเชื่อมั่นอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย
"มันก็ต้องประสบทั้งจังหวะเวลา ขาขึ้นและจังหวะเวลาขาลง แต่ความศรัทธาจะตรึงให้ทุกคนเชื่อว่า
ณ สุดปลายสายรุ้งมีหม้อทองคำรอเป็นรางวัล สำหรับเราจริงๆ ผมไม่ได้หมายถึงแค่เงินทองทรัพย์ศฤงคารนะ
ผมหมายรวมถึงความสำเร็จ ความเป็นจริงแห่งญาณวิสัยของโลก ไอทีเลยแหละ" เจอร์
โมลูคพูดไว้อย่างนั้น สิ่งที่เขาพูดนี้ ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ เพราะทรัพย์ศฤงคาร
จากหม้อทองคำนั้นตกสู่มือพวกเขาเรียบร้อยเนิ่นนานแล้ว ทุกวันนี้มูลค่าการตลาดของบริษัทแอทโฮมอยู่ที่ระดับประมาณ
19,000 ล้านดอลลาร์
อี-ซีอีโอจำเป็นมากที่ต้องทำให้ได้อย่างนั้น เพราะโลกแห่งเทคโนโลยีสารสนเทศยังนับว่าใหม่นักสำหรับมนุษยชาติ
เมื่อเขารู้ว่าอินโฟเทคสามารถบันดาลคุณูปการใหญ่หลวงได้ เขาย่อมต้องเร่งประกาศข่าวดีออกไป
และสร้างชุมชนโลกใหม่ที่มีศักยภาพสูงกว่าปัจจุบัน ด้วยว่า เมื่อเอาเข้าจริง
แล้ว ขณะนี้คนที่เข้าใจเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลอดจนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกยังนับว่าหายากยิ่ง
และเมื่อคนเหล่า นี้โดดเข้าสู่ธุรกิจใหม่นี้ อี-ซีอีโอในฐานะผู้นำองค์กรจึงต้องใส่ใจปลุกเร้าความศรัทธา
เชื่อมั่นในอุตสาหกรรมให้เข้มแข็งร้อนรนอย่าได้สร่างซา
มีเพียงพวกขี้ระแวงที่อยู่รอด
สิ่งที่สร้างอี-ซีอีโอชั้นยอดขึ้นมา นอกจากจะประกอบด้วยเนื้อหาทางเทคโนโลยี
ความ ฉกาจฉกรรจ์ทางการตลาด ความศรัทธามั่นคงในตัวอุตสาหกรรม และความร้อนรนทางวิญญาณที่จะประกาศความเชื่อแล้ว
ยังต้องมีความพร้อมทางอารมณ์อีกประการหนึ่งด้วย องค์ประกอบทางอารมณ์ดังกล่าวนับว่าจำเป็นอย่างยิ่งยวด
เพราะมันจะผลักดันให้อี-ซีอีโอแต่ละรายปรับตัวอยู่ได้กับบุคลิกของอุต- สาหกรรม
อารมณ์ดังกล่าวนั้นได้แก่อารมณ์ประสาทเครียดขี้ระแวงแรงกล้าระดับพารานอยด์
ซึ่งหมายถึงว่า อี-ซีอีโอแต่ละนายแต่ละนางต้องพรักพร้อม อีกทั้งชาชินที่จะอยู่ในอารมณ์ดังกล่าวได้อย่างเมามัน
โดยไม่ตายตก ไปก่อนจะเฉือนนำหน้าคนอื่น มันหมายถึงความเคยชินที่จะอยู่ในท่าม
กลางความกดดัน ความสนุกเร้าใจที่จะ ต้องรีบร้อนไปกับบุคลิกภาพแห่งอุต-สาหกรรมไอที
ไปจนถึงการมีพลังแข็ง กร้าวทนทานที่จะแบกรับความหวั่นระแวงไม่หยุดหย่อนว่าจะถูกคู่แข่งแซง
หน้า ระแวงว่าจะตัดสินใจอะไรไปเห่ยๆ ระแวงไปหมดว่าตนมองพลาดข้ามเลยพลังการตลาดสำคัญตรงนั้นตรงนี้เสียหรือไร
พวกอี-ซีอีโอยอมรับอย่างหน้าชื่นได้ว่าพวกตนเป็นพารานอยด์ แต่ก็บอกด้วยว่า
มันเป็นพารานอยด์ที่เปี่ยมด้วยความภาคภูมิ แอนดี้ กรูฟ ประธาน บริษัทอินเทล
เขียนหนังสือชื่อเสียงโด่งดังเล่มหนึ่งที่ยืนยันคุณลักษณ์ข้อนี้ของผู้บริหารเผ่าพันธุ์ใหม่อย่าง
ตัวเขาเองและสหายในวงการหนัง สือเล่มนี้ชื่อว่า Only the Paranoid Survive
หรือพากย์เป็นไทยว่า มีเพียงพวกขี้ระแวงเท่านั้นที่อยู่รอด
ว่าแต่ทำไมพวกอี-ซีอีโอต้องหวาด ผวาหวั่นระแวงด้วยเล่า เจฟ เบซอส จอมอี-ซีอีโอ
แห่งอเมซอนดอทคอมบอกว่า ในยุคสมัยที่โลกโบราณมีอัตราขยายตัวของสิ่งมีชีวิตก้าวหน้าอย่างมโหฬารนั้น
สิ่งที่ไม่ใคร่มีใครสังเกตคืออัตราการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตบางประเภทก็รุนแรงมากด้วย
ดังนั้น ในยุคแห่งสหัสวรรษที่ 3 ของฝรั่งคอเคเชียนนี้ จะมีมวลมนุษย์มหาศาล
ทีเดียวที่ต้องสูญพันธุ์ไปจากสารบบธุรกิจ อันเนื่องมาแต่การไร้ความสามารถจะปรับตัวกับโลกในก้าวกระโดดใหม่ได้
อี-ซีอีโอเหล่านี้ปรารถนา เหลือเกินที่จะครองความเป็นเจ้า ยึดฉวยพื้นที่ว่างใดๆ
ก็ตามที่เกิดจากการสูญพันธุ์ของนักบริหารรุ่นเก่า และหวาดหวั่นว่าตนจะไม่ทันฉกฉวยได้ก่อนอี-ซีอีโอคนอื่น
แต่ที่สำคัญที่สุดคือความหวาด ระแวงอันเนื่องมาจากว่า "เราประสาทกันมากเพราะเราไม่ต้องการให้หน้าไหน
ทำกับเรา อย่างที่เราเคยกับคนอื่นมาก่อน" นั่นคือคำพูดของเดวิด โบฮ์ เนตต์
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์นามกระเดื่อง จีโอ ซิตี้ส์ ซึ่งสะท้อนความตรงไปตรงมา แบบโหดสุดๆ
สไตล์นักบริหารสายพันธุ์ ใหม่แห่งโลกเทคโนโลยีสารสนเทศของแท้
อี-ซีอีโอมีความเสี่ยงจะสูญพันธุ์สูง
เบื้องลึกเบื้องหลังก้นบึ้งหัวใจคนอี-ซีอีโอเหล่านี้เองที่เป็นที่มาของปรากฏการณ์มหัศจรรย์ประเภทว่า
ราคาตลาดของบริษัทด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสามารถทะยานเป็น หลายหมื่นล้านดอลลาร์ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว
ทั้งที่ บางรายยังไม่เคยมีตัว เลขกำไรมาสร้างความชื่นใจแก่ผู้ถือหุ้น ขณะที่บางรายเติบใหญ่ในอัตราก้าว
หน้าระดับเลขสองหลักสามหลักเป็น ว่าเล่น
อย่างไรก็ตาม เอาเข้าจริงแล้วเรื่องราวของคนไอทียังมิได้พิสูจน์ตัวเองจบม้วน
เพราะทุกอย่างยังอยู่ในช่วงรุ่งสางแห่งการปฏิวัติระบบเศรษฐ กิจโลกด้วย เครื่องมือแห่งอินโฟเทคโดยแท้
ใครจะรู้ ในอีกห้าเดือนข้างหน้า ประดาจอมเซียนอภิมหาเศรษฐีแห่งธุรกิจไอทีจะถูกธรรมชาติความ
รวดเร็วของเทคโนโลยีเล่นตลกเอาอย่างสาหัสก็ได้ อาจเกิดกระบวนทัศน์ ใหม่ของเทคโนโลยีที่ดึงให้ผู้คนละทิ้งกระบวนทัศน์
ณ ปัจจุบันนี้ไปกันหมด บางอี-ซีอีโออาจปรับตัวไม่ได้และเฉาตายกลายเป็นตำนานเลือดไว้สอนกันในรั้วมหาวิทยาลัย
บางอี-ซีอีโออาจถูกดูแคลนจากชาวโลกในฐานะสปีชี่ที่ล้มเหลว ไม่สามารถเคลื่อนไหลไปกับพัฒนาการของอินโฟเทค
บางอี-ซีอีโออาจถูกคณะกรรมการผู้บริหารขับไล่ออกจากตำแหน่งด้วยไฟโทสะ อันเนื่องจากการตัดสินใจเฉียบพลัน
แต่อนิจจาผิดพลาดฉกรรจ์ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ รูปลักษณ์แห่งอี-ซีอีโอ ผู้ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงยังอยู่เพียงขั้นต้นร่างเท่านั้น
อี-ซีอีโอผู้ไม่ประมาทและ พารานอยด์ได้อย่างถึงแก่น ย่อมเตือน ตัวเองว่าโลกในสหัสวรรษหน้าจะมีความ
เร็วเสียยิ่งกว่าที่พวกเขาเผชิญมาแล้ว น่าจะไม่มีบริษัทธุรกิจด้านอินโฟเทค
รายใดครองความเป็นเจ้าได้อย่างยั่งยืนเป็นหลายทศวรรษ ได้อย่างที่เคยเห็นกันในสหัสวรรษที่ผ่านมา
พร้อมกัน นั้น พวกเขายังรู้ซึ้งลึกในใจถึงอนิจจังของราคาสินทรัพย์แห่งบริษัทของพวกเขา
อันเป็นอะไรที่สามารถระเหิดหายไปสิ้นก่อนที่พวกเขาจะ ทันแปลงกระดาษ เหล่านั้นไปเป็นเงินตรา
เหนือกว่าอื่นใด อี-ซีอีโอผู้คร่ำหวอดยังตระหนักถึงความเป็นอนัตตาแห่งโลกอินโฟเทคที่พวกเขา
มีส่วนร่วมปลูกสร้างขึ้นมา พวกเขาหยั่งรู้ได้ว่าขณะที่กำลังต่อสู้อย่างหนักแข่งกับความ
เคลื่อนไหวอันรวดเร็วของไอที วันหนึ่งวันใดพวกเขาอาจพบตนเองตาย ซาก เนื่องจากที่เร่งเผาผลาญพลังสมองทุกอนูไปหมดสิ้นก่อนกาลอัน
ควร และวันนั้น พวกเขาจะถูกกวาดออกจากจักรวาลเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่เขาเป็นผู้สร้างขึ้นมากับมือ
ประดุจสัตว์โลกเผ่าพันธุ์หนึ่งที่ถึงเวลาสูญหาย ไปจากทุ่งหญ้าซาวานนา และถูกเขมือบ
กลืนกินในพริบตาเดียวที่เผลอหลับตาพักคลายเครียด
นวนิยายชีวิตของคนอี-ซีอีโอจะเกิดและจบได้แบบลัดนิ้วมือเดียว เชียวล่ะ
แม้มันจะเป็นโลกที่มากด้วยข้อเรียกร้อง แม้มันจะเปี่ยมด้วยความไม่แน่นอน
แม้มันจะผันผวนทะยานคว้าง ไปกับหมู่ดวงดารา แล้วร่วงผล็อยสู่ก้นบึ้งแห่งอเวจี
แม้มันจะคลุกเคล้าอยู่กับความน่าประหวั่นแห่งเส้นทางปฏิวัติ กับสัญญาใจไม่รู้จบของอี-ซีอีโอ
จอมวิสัยทัศน์ กับการฟาดฟันไร้ความ ปรานี
แต่กระนั้น พวกอี-ซีอีโอบอกกันว่า "มันเป็นโลกที่แสนวิเศษ และเราชอบมันแบบที่มันเป็นอย่างนี้
นี่แหละ"