Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2542








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2542
STAR WARS มากกว่าการดูหนัง             
 





ความยิ่งใหญ่ของ Star Wars Episode 1 กลับมาเขย่าวงการโลกภาพยนตร์อีกครั้งท่ามกลางการรอคอย ที่เมื่อไปดูกันมาแล้วหลายๆ คนอาจจะผิดหวังเพราะหวังไว้มากไป แต่หลายๆ คนอาจจะยังสะใจกับความมันของหนัง แอกชั่น ที่ยอดเยี่ยมด้วยด้วยระบบ เอฟเฟ็กต์ในหลายๆ ฉากของเรื่องนี้อยู่อย่างไม่หาย

แต่ผลจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ จอร์จ ลูคัส ผู้สร้างและผู้กำกับหนังเรื่อง นี้ไม่ขาดทุนแล้วแน่นอน และยังเก็บเกี่ยวรายได้อย่างต่อเนื่องเพราะมีการวางแผนสร้างมูลค่าเพิ่มจากการทำหนัง เรื่องนี้ไว้อย่างเยี่ยมยอด

สตาร์วอร์กำหนดลงโรงฉายในเมืองไทยวันที่ 18 มิถุนายน 2542 ที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นความคึกคักของกระแสสตาร์วอร์ฟีเวอร์ก็ได้เกิดขึ้นอย่าง มากมาย และระบาดมาเมืองไทยอย่าง รวดเร็ว ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าเป็นยุทธวิธีทางการตลาดของสปอนเซอร์ระดับโลกของสตาร์วอร์ ซึ่งได้แก่สินค้า ในเครือข่ายของกลุ่ม เป๊ปซี่ คือเป๊ปซี่ พิซซ่าฮัท เคเอฟซี่ พริโตเลย์ และ ทาโก้เบล

ซึ่งในเมืองไทยเองก็แน่นอนว่าพันธมิตรอย่างเช่นทอปซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านเอเอ็มพีเอ็ม โรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ เครือสยามยูเอ เครือ เอเพ็กซ์ ก็ต้องจัดกิจกรรมร่วมเกาะเกี่ยว ไปด้วยเช่นกัน

จอร์จ ลงทุนสร้างภาพยนตร์ภาค นี้ไปด้วยงบประมาณ 115 ล้านเหรียญ แต่การเป็นสปอนเซอร์ของเป๊ปซี่ในลักษณะของเวิลด์ไวด์นั้น เป๊ปซี่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้ลูคัสฟิล์ม เป็นเงินถึง 75,000 ล้านบาท หรือ 2.1 พันล้านเหรียญ ในขณะที่เลโก้ซื้อลิขสิทธิ์โลโก สตาร์วอร์ มาใส่ของเล่นตุ๊กตาตัวเองจ่าย เงินไปเพียง 50 ล้านเหรียญ แต่คาด ไว้สวยหรูว่าจะทำรายได้ถึง 1,000 ล้านเหรียญ

บริษัทเฮกเกอร์ เมเยอร์ประเทศไทยก็จ่ายไปไม่น้อยเช่นกันสำหรับการซื้อลิขสิทธิ์ตุ๊กตาโมเดลของสตาร์วอร์ รวมทั้งบริษัทที่ผลิตวิดีโอเกมต่างๆ ที่ทุ่มทุนผลิตออกมารองรับตามกระแส

ตัวละครทุกตัวที่โลดแล่นอยู่บนจอ เลยกลายเป็นสินค้าในโลกแห่งความ จริงที่ดึงดูดใจเด็กๆ และวัยรุ่นให้ให้จ่าย เงินซื้อสินค้าเหล่านี้อีกรอบ ไม่ว่าตัวอัศวินเจได อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ ราชินีวัยรุ่นอมิดาลา ที่เน้นการแต่งตัวในแต่ละฉากให้สวยงามเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ ตัวจาจาบิง และเจ้าเมืองนาบู รวมทั้งยานของเจได และดาบสะท้อนแสงด้วย

ในอเมริกานั้น ถึงแม้ว่าใน 2 สัปดาห์แรกจะมีรายงานข่าวเปิดเผย มาว่าสามารถกวาดรายได้ไปถึง 300 ล้าน เหรียญ เร็วกว่าหนังไททานิคที่ใช้เวลาถึง 44 วัน แต่พอหลังจากนั้นก็ตกอันดับลงมา ถูกหนังเรื่องทาร์ซานของวอลต์ดิสนีย์เบียดตกลงมาเช่นเดียวกับเมืองไทย ที่มนต์เสน่ห์ของสตาร์วอร์จางลงเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ

ข้อบกพร่องของหนังชุดนี้เป็นบท เรียนที่ทางลูคัสฟิล์ม ต้องเร่งหาข้อสรุป กันต่อไปเพื่องานชิ้นต่อไป แต่สำหรับสปอนเซอร์รายใหญ่นั้นคงไม่ยอมให้หนังลาโรงไปง่ายๆ แน่ แต่ต้องรีบหากลยุทธ์ใหม่โดยเร็วที่จะปลุกกระแส สตาร์วอร์ฟีเวอร์ขึ้นมาอีกครั้งและอีกนาน เพราะมีสินค้าอีกมากมายที่ต้องระบายออกไปให้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วงาน นี้อาจจะต้องเจ็บตัวไปตามๆ กัน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us