การประกาศรวมกิจการระหว่างกลุ่มบริษัท คอมเมอร์เชียล ยูเนี่ยน กับบริษัท
เยนเนอรัล แอ็คซิเดนท์ อินชัวรันส์ จำกัด ยักษ์ใหญ่ด้านประกันภัยในสหราชอาณาจักร
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2541 และ เปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น ซีจียู พี-แอลซี
ซึ่งการผนวกกิจการครั้งนี้ ส่งผลให้กลุ่มบริษัทซีจียูกลายเป็นผู้นำธุรกิจประกันภัย
1 ใน 15 อันดับแรก ของโลก และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ในทวีปยุโรป
ผลพวงจากการรวมกิจการกัน ของสองบริษัททำให้บริษัทในเครือทั่วโลกต้องรวมกันเป็นหนึ่งด้วย
เพื่อความเป็นเอกภาพ ดังนั้นเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2542 คอมเมอร์เชียลยู-
เนี่ยนประกันภัย (ประเทศไทย) และเยนเนอรัล แอ็คซิเดนท์ ประกันภัย (ประเทศไทย)
จึงได้รับอนุญาตจากกรมการประกันภัย กระทรวงพาณิชย์ ให้รวมกิจการตามความประสงค์ของบริษัทแม่และได้เปลี่ยนชื่อเป็น
ซีจียู ประกันภัย (ไทย)
กระแสการรวมตัวในทุกอุต-สาหกรรมยังเป็นไปอย่างต่อเนื่องตาม ภาวะวิกฤติการณ์ทางการเงิน
ธุรกิจประกันภัยได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์เบี้ยประกันภัยโดยรวมได้ลดลงกว่า
1 ใน 5 โดยเฉพาะเบี้ยประกันภัยรถยนต์จากภาวะเศรษฐกิจถดถอยรวมทั้งการเปิดเสรีทางการค้า
และการเงินของประเทศ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจประกันภัยด้วย การหดตัวในอุตสาหกรรมประกันภัยในประเทศไทยในช่วง
2 ปีที่ผ่านมามีความรุนแรงอย่างมาก มูลเหตุสำคัญมาจากตลาดรวมประกัน ภัยลดลงอย่างฮวบฮาบถึง
20% และ ในช่วง 3 เดือนแรกปีนี้หดตัวลงไปแล้ว ประมาณ 20% คาดว่าทั้งปีตลาดรวมธุรกิจประกันภัยจะตกลงประมาณ
15% ส่งผลให้บริษัทในธุรกิจนี้ไม่สามารถทำผลประกอบการได้ตามเป้า
"การรวมกิจการในครั้งนี้ไม่เพียงสร้างความแข็งแกร่งและความเป็นผู้นำตลาด
และสามารถลดต้นทุนให้กลุ่มซีจียูเท่านั้นยังลดค่าใช้จ่ายทั่วโลกได้ถึง 270
ล้านปอนด์สเตอลิงต่อปีภายในปี 2000" แพทริค เวลล์ กรรมการผู้จัดการสำนักงานประจำภูมิภาคเอเชียแห่งซีจียู
กล่าวถึงผลดีหลังการผนึกกิจการ
การรวมกิจการของทั้งสองไม่ได้หมายถึงการมีส่วนแบ่งในตลาดเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในธุรกิจประกันภัยในเอเชียและประเทศ
ไทย ซึ่งก่อนหน้าประกาศรวมกิจการ ในปี 2541 คอมเมอร์เชียลยูเนี่ยน ประกันภัยในไทย
มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 1,618 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2540 จำนวน 4% ทางด้านเยนเนอรัล
แอ็คซิเดนท์ ประกันภัย มีเบี้ยประกัน ภัยรับ 450 ล้านบาท เมื่อรวมกันแล้ว
จะมีเบี้ยประกันภัยรับกว่า 2,000 ล้าน บาท
"การรักษาความเป็นผู้นำเอาไว้นั้น ทำให้เราพร้อมที่จะปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
และต้องคงฐานะการเงินที่แข็งแกร่งเพื่อเผชิญกับเศรษฐกิจและตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้"
อรรณพ พรธิติ กรรมการผู้อำนวยการ ซีจียู ในไทยกล่าว
ซีจียู กำลังเร่งขยายกิจการรุกสู่ธุรกิจประกันภัยส่วนบุคคล เพราะมองเห็นระดับอัตราการเติบโตที่สูง
ปัจจุบันได้เข้ามาทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลแล้ว โดยมีเป้าหมายเป็นผู้นำประกันภัยและประกันชีวิต
1 ใน 3 อันดับแรกของตลาด