ความลงตัวของ "วอลโว่" เกิดขึ้นแล้ว และนับจากวินาทีนี้ การทวงถามจะเริ่มต้นขึ้น
ภาพลักษณ์ของรถยนต์วอลโว่ ในประเทศไทย ลดความโดดเด่นลงทันทีเมื่อเปิดเสรีนำเข้ารถยนต์
ความเป็นเจ้าตลาดรถยนต์นั่งระดับหรูหราของไทยห่างหายไป ปล่อยให้บีเอ็มดับ
เบิลยูกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ เร่งหนีออกไป
บทสรุปกว่า 7 ปีที่ผ่านมา
แต่เมื่อความลงตัวเกิดขึ้น สิ่งที่ขาดหายไป คงกลับคืนมาได้ไม่ยาก
17 สิงหาคมที่ผ่านมา บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) ได้จัดงานแถลงข่าวเกี่ยวกับแผนการฟื้นฟูกิจการของบริษัท
สวีเดนมอเตอร์ส จำกัด (มหาชน)
หัวข้อหลักบ่งชี้ชัดเจน "กระบวน การฟื้นฟูกิจการ คือ อีกก้าว สู่เป้าหมายของแบรนด์วอลโว่
ในเมืองไทย"
การอนุมัติแผนฟื้นฟู ภายใต้การ เกื้อหนุนอย่างเต็มที่ของวอลโว่ คาร์ ที่มี
ต่อสวีเดนมอเตอร์ส ได้ทำให้บรรยากาศ การเป็นคู่ค้าของทั้งสอง ชื่นมื่น หายข้อกังขา
อันจะส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์วอลโว่ในไทย อย่างไม่ต้องสงสัย
แม้ว่า นับจากที่วอลโว่ คาร์ ได้เข้ามาคุมกิจการวอลโว่ในไทย ในราว 1 ปี
ภาพลักษณ์และกิจกรรมของวอลโว่ไม่ได้โดดเด่นหรือพลิกฟื้นทันที ซึ่งเข้าใจได้ว่าเป็นปกติวิสัยของช่วงรอยต่อการ
ปรับองค์กร
นอกจากนี้ในตัวของวอลโว่ คาร์ แห่งสวีเดนเองก็ยังมีการปรับเปลี่ยนโครง
สร้างครั้งใหญ่ด้วยเช่นกัน กล่าวคือ ในส่วนกิจการของวอลโว่ รถยนต์นั่งได้ถูกฟอร์ดแห่งอเมริกาซื้อกิจการไป
ดังนั้น นโยบายเกี่ยวกับภารกิจในไทย จึงต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องกับแผนงานระดับเครือข่ายของกลุ่มฟอร์ดในไทยด้วยเช่นกัน
แต่นับจากนี้ หลังจากการแถลง ข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรก ภายใต้เงาของความเป็น
"กลุ่มฟอร์ด" ได้แสดง ให้เห็นว่า วอลโว่ นั้นพร้อมแล้ว
แอนเดอร์ส ลอฟเกรน กรรม การผู้จัดการ ของ วอลโว่ คาร์(ประ-เทศไทย) กล่าวว่า
ในขั้นตอนแรกนี้ วอลโว่ คาร์ได้ใช้เงินลงทุน 1,000 ล้านบาทเพื่อพัฒนาและปรับโครงสร้างธุรกิจรถยนต์วอลโว่ในประเทศไทย
โดยเงินทุนจำนวน 260 ล้านบาท ได้ถูกอัดฉีดเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างการดำเนินการและฟื้นฟูกิจการของ
สวีเดนมอเตอร์ส
อีก 497 ล้านบาท เพื่อซื้อสินทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้ในธุรกิจหลักของสวีเดน
มอเตอร์ส เช่น อาคารที่ดิน โรงงานประกอบรถยนต์ ไทยสวีดิชแอสเซมบลีย์ และผลประโยชน์ของสวีเดนมอ-
เตอร์สในโรงงานแห่งนี้ รวมถึงคลังอะไหล่ของสวีเดนมอเตอร์สด้วย
ส่วนที่เหลือนั้น วอลโว่ คาร์ได้เตรียมไว้เพื่อการขยายและปรับปรุงเครือ
ข่ายของวอลโว่ ในต่างจังหวัด ซึ่งนับจากนี้ วอลโว่ คาร์ จะเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบการดำเนินการวอลโว่ในไทยโดยตรง
ทั้งภาคการตลาด การผลิต การบริการ โดยลดบทบาท สวีเดนมอ-
เตอร์ส เหลือเพียงผู้แทนจำหน่ายและให้บริการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณ- ฑล เท่านั้น
แอนเดอร์ส ย้ำว่า ในส่วนของโรงงานประกอบนั้น วอลโว่ คาร์ จะเข้า ไปพัฒนา
ลงทุนเพิ่มเพื่อให้โรงงานแห่ง นี้มีสายการผลิตที่ครบวงจรสำหรับรถหนึ่งรุ่นในไทย
ซึ่งแผนงานนี้ได้ครอบ คลุมถึงการผลิตวอลโว่ S80 ตัวใหม่ที่คาดว่าจะทำการผลิตในไทยในราวเดือน
พฤศจิกายนนี้
นอกจาก S80 แล้ว วอลโว่ คาร์ ยังได้เปิดทำการผลิตรุ่นอื่นๆ อีก อาทิการผลิต
S/V 70 ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และ S/V40 ที่จะผลิตใน เดือน ตุลาคมนี้
การเริ่มต้นผลิตรถยนต์อีกครั้งหนึ่งหของ ไทยสวีดิชแอสเซมบลีย์ ภายใต้ความดูแลของวอลโว่
คาร์โดยตรง นั้นแม้ดูจะธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ผู้บริหารวอลโว่คาร์ ได้ชี้ว่า การที่โรงงานสามารถเปิดสายการผลิตได้ตามปกติอีกครั้ง
หลังจากเกิดวิกฤตเมื่อกลางปี 2540 นั้น แม้ดูว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าดูในบางแง่มุม
นี่ถือว่าไม่ธรรมดา
"เราเป็นรายแรกที่กลับมาผลิตได้ ตามปกติอีกครั้ง ในขณะที่ค่ายรถยนต์หรูอื่นๆ
ยังไม่เรียบร้อย นี่อาจจะเป็นจุด พลิกผันอีกครั้งก็ได้ หลังจากที่เราเคย
เพลี่ยงพล้ำเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งเรามั่นใจว่า ความพร้อมที่มีอยู่จะทำให้เราอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบคู่แข่ง"
นอกจากความพร้อมในการผลิต ความลงตัวของบทบาท และแผนฟื้นฟูกิจการของคู่ค้าแล้ว
วอลโว่ คาร์ ยังเตรียมพัฒนาในรายละเอียดของงานบริการที่จะมีให้กับลูกค้าวอลโว่ในไทยด้วย
เช่น การนำระบบ VADIS ซึ่งเป็นระบบการวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญ-หาเครื่องยนต์
ด้วยโปรแกรมคอมพิว เตอร์ เข้ามาใช้
ระบบ VADIS ของวอลโว่จะช่วยทำให้การระบุถึงสาเหตุของปัญหาเครื่องยนต์มีความถูกต้องแม่นยำขึ้น
ช่วยลดเวลาการซ่อมให้น้อยลง
นอกจากนี้ วอลโว่ คาร์ จะยกฐานะของศูนย์บริการอะไหล่วอลโว่ในไทย ขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์บริการอะไหล่รถยนต์วอลโว่ทั่วโลก
อันจะทำ ให้การบริการครอบคลุมรถยนต์วอลโว่ได้ทุกรุ่น ไม่เฉพาะที่มีจำหน่ายในไทย
ซึ่งส่วนนี้นำไปสู่ความหลากหลาย ของรุ่นรถยนต์ ในภาคบริการ
อีกประการหนึ่งที่อยู่ในแผน และ มีความสำคัญในการพลิกฟื้นสถานการณ์ ตลาดรถยนต์วอลโว่ในไทย
ก็คือ การบริการที่รวบยอด ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำประกัน จัดไฟแนนซ์
ลีสซิ่ง หรือแม้แต่การแลกเปลี่ยนรถยนต์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับการซื้อขายรถยนต์วอลโว่
สำหรับตลาดรถยนต์วอลโว่ในไทยนั้น วอลโว่ คาร์ คาดว่าภายในปีนี้จะจำหน่ายได้ราว
1,000 คัน หรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 25% ของตลาดรถยนต์หรูหราในไทย ซึ่งคาดการณ์นี้ไม่น่าจะถึงเป้าเนื่องจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมา
ยอดจำหน่ายวอลโว่มีอยู่ทั้งสิ้น 485 คัน
การแถลงข่าวครั้งนี้ วอลโว่คาร์ ไม่ได้ประกาศถึงเป้าหมายที่จะกลับมาครองความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์นั่งระดับหรูหราในไทยอีกครั้ง
แต่บังเอิญที่ว่า ผู้บริหารของฟอร์ด กลับคิด และก็มีสิทธิ์เป็นไปได้
บรรยากาศที่ตื่นเต้น เร้าใจ กำลัง จะกลับมาเยือนตลาดรถยนต์หรูหราของไทย
อีกครั้ง