29 เม.ย. - กรรมการอำนวย การ 3 คนมอบอำนาจการเบิกเงิน 300 ล้านบาท ให้ผศ.บุญส่ง
6-7 พ.ค. ซึ่งเป็นวันพฤหัสฯ และศุกร์ ผศ.บุญส่ง ไปเบิกเงินของสหกรณ์ ฯ
จากธนาคารกรุงเทพ สาขาท่าแพ ทั้งหมด 300 ล้านบาท เป็นแคชเชียร์เช็ค 6 ฉบับ
และตั๋วแลกเงิน 3 ฉบับ
10 พ.ค. - ได้มีการตรวจสอบความผิดปกติของเงินก้อนนี้ ว่า ยังไม่มีการแจ้งลงรับจากธนาคารกรุงเทพ
ทั้งๆ ที่ ผศ. บุญส่ง ได้เบิกไปกว่า 10 วันแล้ว จึงแจ้งให้ รศ.สมพร ภูติยานันต์
รองประธานฯ ทราบ
ในระหว่างนั้นมีการติดต่อประสานงานระหว่างกรรมการอำนวย การที่รู้เรื่องนี้
กับ ผศ.บุญส่ง แต่ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน
รศ. สมพร ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ลงนามมอบอำนาจเบิกเงินเข้าแจ้งความจับ ผศ.บุญส่ง
ที่สภ.ต.ภูพิงค์ หลังจากนั้นก็มีการประสานงานเข้าจับกุมผศ.บุญส่ง ได้ที่กรุงเทพฯ
11-12 พ.ค. เกิดการแห่ถอนเงินจำนวนร่วม 600 ล้านบาทออกจากสหกรณ์ฯ มช. และกรรม
การ 22 คนเข้าแจ้งความกับตำรวจไม่รู้เห็นกับการยักยอกเงินครั้งนี้ และยังมีแถลงการณ์มาก่อนหน้านี้ว่า
ผศ.บุญส่ง ถูกขบวนการ 18 มงกุฎกลั่นแกล้ง อย่างไรก็ตามในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบว่า
มีผู้ร่วมในการโยกย้ายเงินของสหกณ์เข้าสู่กระเป๋าของพรรคพวกถึง 15 คน แบ่งเป็น
3 กลุ่ม คือ
กลุ่มแกนนำ คือ ผศ.บุญส่ง และกลุ่มที่ดำเนินเรื่องเบื้องต้น เช่น อ้างตัวเป็นคนสนิทกับผู้บริหารธนาคาร
ในกลุ่มนี้มี 7 คน
กลุ่มที่รับเงินโอนจากพรรคพวกญาติพี่น้อง ในจำนวนนี้มีประมาณ 6 คน
และพนักงานธนาคารอีก 2 คนที่ช่วยเหลือในการทำเอกสาร
ขณะนี้ ผศ.บุญส่ง ยังถูกคุมขังในเรือนจำกลางเชียงใหม่ โดย ศาลกำลังดำเนินการพิจารณาคดี
ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆ ที่ร่วมอยู่ใน ขบวนการถอนเงินและกระจายเงินถูกจับกุมไปแล้ว
5 คน เหลือผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องอีก 9 คน ที่ยังหลบหนีอยู่ ในจำนวนที่จับกุมได้มีพนักงานธนาคารกรุงเทพ
จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ 2 คน หมายถึงว่ากระบวนการที่ ผศ.บุญส่งและ พวกเบิกเงินของสหกรณ์ฯ
และจ่ายเป็นตั๋วแลกเงินกับแคชเชียร์เช็ค โดยอ้างกับสหกรณ์ฯ ว่านำไปซื้อตั๋ว
NCD นั้น มีคนภายในธนาคารช่วย เหลือในการทำเอกสารการเงินชนิดต่างๆ
การสอบสวนเบื้องต้นพบว่า พนักงานธนาคารทั้งสองคนยอมรับว่า ได้เงินค่าจ้าง
5 แสนบาทในการนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถสรุปชัดเจนว่า กรณีการซื้อตั๋วเงิน NCD ครั้งนี้เป็นความจริงหรือไม่
และธนาคารรู้เห็นด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวแสดงให้เห็นชัดเจนว่า
มีความพยายามจะแอบอ้างถึงการระดมเงินนอกระบบจากขบวนการต้มตุ๋นไปยังสหกรณ์
หรือแหล่งที่มีเงินสดในมือจำนวนมาก อ้างว่าให้ผลตอบแทนสูงกว่าระบบการเงินทั่วๆ
ไป ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นเท็จทั้งสิ้น