Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กันยายน 2542








 
นิตยสารผู้จัดการ กันยายน 2542
อีริค บี บู๊ทซ์ ผู้นำจิม ทอมป์สัน รุ่นที่ 3             
 

   
related stories

จิม ทอมป์สัน ยุคใหม่ ยุคธุรกิจ "ครบวงจร"
ดีไซเนอร์ ผู้สั่งสมมรดกภูมิปัญญาของ จิม ทอมป์สัน
ฟาร์มหม่อนไหม ปัญหา-ความเสี่ยง-โอกาส และอนาคต

   
search resources

James H.W. Thompson
อีริค บี บูทซ์




อีริค บี บู๊ทซ์ ลูกชายคนเดียววัย 29 ปี ของวิลเลียม เอ็ม บู๊ทซ์ กรรมการผู้จัดการของบริษัทจิม ทอมป์สัน กำลังถูกจับตามองอย่างมากๆ ว่าการทำตลาดในยุคใหม่ของเขาจะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับที่ผู้เป็นพ่อประสบความสำเร็จหรือไม่

อีริค หรือ "ภวพันธ์" ชื่อภาษาไทยที่ไม่ค่อยมีใครคุ้นนักเป็นลูกชายคนแรกของบู๊ทซ์ ที่เกิดจากพัฒศรี บุนนาค ภรรยาคนแรก อีริคจึงมีส่วนผสมของความเป็นตะวันตกและตะวันออกที่ลงตัวอย่างน่าทึ่ง

ท่ามกลางความอ่อนน้อมแบบไทยๆ อีริคมองว่าตัวเองยังเป็นเด็กที่ไม่ต้องการทำอะไรที่เป็นการ "ล้ำหน้า" ผู้ใหญ่ท่านอื่นๆ ในบริษัท เขาเลยไม่ต้องการเปิดตัวกับสื่อมวลชนนัก แต่ดูเหมือนว่าบู๊ทซ์เองกำลังส่งเสริมให้เขาเปิดตัวมากขึ้น

"อีริค เป็นคนหนุ่มที่กล้าคิด กล้าตัดสินใจและเต็มไปด้วยไฟแห่งการสร้างสรรค์เช่นเดียวกับ ผู้ที่รับการศึกษาจากสังคมตะวันตกโดยทั่วไปและที่สำคัญเมื่อมีโอกาสก็พร้อมที่จะลงมือทำทันที เขาโชคดีมากที่ยังมีนายคอยถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับบริษัทมาตั้งแต่เล็กๆ " กรรมการท่านหนึ่งในจิม ทอมป์สัน พูดถึงอีริคให้ "ผู้จัดการ" ฟัง

ดังนั้นแม้มาเริ่มงานที่จิม ทอมป์สัน เพียง 2 ปี แต่จะว่าไปแล้วเขาก็รู้เรื่องราวความเป็นไปของบริษัทมาเกือบตลอดชีวิต

อีริค เกิดที่เมืองไทยเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ.2512 เป็นเวลาหลังจากที่นายห้างจิมหายไปประมาณ 2 ปี โรงงานทอผ้าที่อำเภอปักธงชัย เป็นสถานที่วิ่งเล่นของเขามาตั้งแต่เล็กๆ แม้เขาจะจากไปเรียนหนังสือที่ฝรั่งเศสตั้งแต่อายุ 5 ขวบ แต่ก็จะกลับมาคลุกคลีอยู่กับผู้เป็นพ่อทุกซัมเมอร์ และเกือบทุกวันหยุดช่วงคริสต์มาสจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าหนุ่มลูกครึ่งอเมริ-กัน-ไทย คนนี้พูดไทยได้ค่อนข้างชัดทีเดียว

เมื่อจบไฮสคูลจากโรงเรียนที่ฝรั่งเศส อีริคได้เดินทางไปศึกษาต่อที่อเมริกา เขาจบปริญญาตรีทางด้านประวัติศาสตร์ ที่ George Town University หลังจากนั้นก็เดินทางกลับมายังเมืองไทย เริ่มแรกเขาได้ไปหาประสบการณ์การทำงานที่บริษัทหลักทรัพย์ซิมิโก้ ซึ่งตอนนั้นบริษัทกำลังต้องการฝ่ายการตลาดที่สามารถพูดภาษาอังกฤษและไทยอย่างคล่องแคล่ว โดยไม่จำเป็นต้องจบมาทางด้านการเงิน เขาทำงานอยู่ที่ซิมิโก้เพียง 2 ปี ก็ลาออกไปทำงานในหน้าที่เดียวกันที่บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ อีก 2 ปี

ช่วงระยะเวลา 4 ปี จากปี 2535 ถึง 2539 นั้นนับเป็นโชคดีอย่างมากที่มีโอกาสได้ไปทำงานเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และความรู้ทางด้านการเงินในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังรุ่งเรืองสุดขีดและถดถอยอย่างรวดเร็ว แต่... ณ เวลานั้นเขาก็รู้ตัวดีแล้วว่า สักวันหนึ่งเขาต้องกลับมาทำงานที่บริษัทจิม ทอมป์สัน อย่างแน่นอน ความผูกพันในงานศิลปะของผ้าไหม และความหลงใหลในเรื่องศิลปวัตถุโบราณ เป็นสิ่งที่อยู่ในสายเลือดของเขาไปแล้ว

อีริค เริ่มมาทำงานที่จิม ทอมป์สัน เต็มตัวเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยรับหน้าที่เป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดต่างประเทศ ซึ่งหน้าที่นี้เดิมก็คืองานหลักของบู๊ทซ์ที่ต้องเดินทางไปเมืองนอกเพื่อดูตลาดและปรึกษางานร่วมกับ เอเยนต์ปีละประมาณ 7-8 ครั้ง แต่เมื่อปีที่แล้วบทบาทนี้ได้ตกเป็นของอีริคแทน

"ทุกวันนี้คุณพ่อพยายามให้ผมเดินทางไปต่างประเทศแทนท่าน คุณพ่อทำงานมามากแล้วหากไม่ไปต่างประเทศคุณพ่อก็ไม่ไปไหนอยู่ในแต่ออฟฟิศ วันละประมาณ 18 ชั่วโมง แต่จะไปโรงงานที่ปักธงชัย อาทิตย์ละครั้ง" การเปิดตลาดใหม่ในเมืองไทยในเรื่องแฟชั่น และการคิดค้นกลยุทธ์ใหม่ จิม ทอมป์สัน ไลฟ์สไตล์ เป็นผลงานที่เขารับผิดชอบโดยตรง

จะว่าไปแล้ว อีริคมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่เหมือนกับนายห้างจิม คือในเรื่องชื่นชอบศิลปวัตถุโบราณ เมื่อมีวันว่างเขาชอบเดินทางท่องเที่ยวไปยังดินแดนที่นายห้างจิมเคยไปมาแล้วทั้งสิ้น เช่น เขาพระวิหาร ปราสาทพนมรุ้ง รวมทั้งจังหวัดต่างๆ แถบภาคอีสาน

เมืองชายแดน เช่น เขมร ลาว ถ้ามีเวลาอีริคก็ไปดูเกี่ยวกับเรื่องทอผ้าที่เขาบอกว่าชาวบ้านของเขาทอผ้าเก่งมาก แต่ไม่ได้รับการสนับสนุนให้มีการสานต่อในงานหัตถกรรมเหล่านี้ แต่ปัจจุบัน มีอาจารย์ไทยที่เห็นคุณค่าในงานตรงจุดนี้ที่ไปตั้งโรงเรียนที่โน่นไปสอนเด็กเขมร สอนวิธีการทอผ้าซึ่งเขาก็เคยได้มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยม

และเป็นพราะความหลงใหลในเรื่องศิลปะแบบไทยๆ นี้เองทำให้อีริค ได้เข้าไปรับดูแล "บ้านจิม" หรือพิพิธภัณฑ์ของจิม ทอมป์สัน ด้วยความรู้สึกที่ผูกพันเป็นพิเศษ ภายใต้การทำงานของมูลนิธิ James H.W. Thompson สถานที่นี้เป็นบ้านของนายห้างจิมที่สร้างขึ้นเมื่อปี 2501 หรือเมื่อ 41 ปีมาแล้ว และจิมเป็นผู้ออกแบบดูแลตกแต่งรวมทั้งเลือกสิ่งของเข้ามาไว้ทั้งหมด ไม้ที่เอามาสร้างบ้านก็ได้ไปเลือกมาจากจังหวัดอยุธยา และอ่างทอง ของเก่าหลายชิ้นเป็นสิ่งที่เขาเก็บสะสมไว้จากการเดินทางไปดูงานทอผ้าตามภาคอีสานของไทย เสียดายที่จิมมีโอกาสพำนักอยู่ที่นี่เพียง 7-8 ปีเท่านั้น

และเมื่อเร็วๆ นี้ในงานประมูลของบริษัทคริสตี้ส์ ประเทศไทย อีริคก็คือผู้หนึ่งที่เข้าไปประมูลหนังสือโบราณส่วนหนึ่งเข้าไปเก็บไว้เป็นสมบัติในบ้านจิมด้วย

มูลนิธิ เจมส์ เอช ดับเบิลยู ทอมป์สัน นี้ ไม่ได้ถือหุ้นในบริษัทอุตสาหกรรมไหมไทย รายได้เลี้ยงตัวเองของบ้านจิมก็คือการมีร้านค้าขายสิ่งของที่ระลึก รวมทั้งรายได้จากการเข้าไปชม ซึ่งทุกวันนี้จะมีผู้ที่เข้าไปเยี่ยมชมประมาณ 300 คนต่อวัน

และเมื่อเร็วๆ นี้มูลนิธิได้จัดประชุมทางด้านวิชาการครั้งใหญ่ขึ้นมาครั้งแรก ในหัวข้อ "ผ้าทอแห่งเอเชียบูรพา สายใยแห่งกาลเวลา" ขึ้นที่โรงแรมแชงกรี-ลา รูปแบบของการประชุมประกอบด้วยนักวิชาการชั้นนำ และผู้เชี่ยวชาญทางด้านการทอผ้าทั่วโลกมาฟังประมาณ 200 กว่าคน

อีริคเล่าให้ "ผู้จัดการ" ฟังว่า จุดประสงค์ของมูลนิธิฯ คือต้องการให้คนไทยได้รับความรู้ทางด้านนี้ เพราะเมืองนอกอย่างเช่นที่นิวยอร์ก ปารีส ซิดนีย์ จะมีงานประเภทนี้บ่อยมาก

"การที่ผู้บรรยายมาที่นี่โดยนักเรียนและคนไทยของเรามาฟังได้ฟรีเพื่อที่จะได้รับความรู้ด้วย เพราะโอกาสที่ไปฟังที่เมืองนอกอาจจะเป็นเรื่องยากเราต้องการให้ความรู้กับนักเรียนไทย และถ้าเขาต้องการทำรีเสิร์ชเขาก็จะทำได้" และเขาย้ำว่า ทางมูลนิธิฯ จะร่วมกับจิม ทอมป์สัน จัดงานอย่างนี้ประมาณ 2 ปีครั้ง

ในวันนี้บู๊ทซ์อายุ 61 ปีแล้ว อยู่ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการที่ดูแลหลักเรื่องการตลาดของบริษัทมาตลอดเวลา 26 ปี มากกว่าวัน เวลา ที่นายห้างจิม เคยบริหารอยู่ด้วยซ้ำไป จึงเป็นไปได้มากๆ ว่าวันนี้ บู๊ทซ์ จึงอาจจะต้องการรีไทร์ตัวเอง เพื่อพักผ่อนให้สมกับการทำงานหนักมาโดยตลอดของเขา การปลดภาระที่หนักอึ้งบนบ่าของเขาให้กับอีริคลูกชายคนเดียวกับทีมงานบริหารคนอื่นๆ จึงอาจจะเป็นสิ่งที่เขาอาจจำเป็นต้องทำในเวลาใกล้ๆ นี้

เมื่อ "ผู้จัดการ" ถามว่า คิดว่าเมื่อไหร่ที่อีริคจะมาช่วยคุณพ่อทำงานอย่างเต็มตัวเขาบอกว่า "ผมยังไม่คิดเรื่องนี้แต่ก็หวังว่าวันหนึ่งคงพร้อม"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us