Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ตุลาคม 2542








 
นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2542
สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดนครธน             
 


   
search resources

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดนครธน




10 กันยายน 2542 เป็นวันสิ้นสุดความเป็นธนาคารท้องถิ่นอีกแห่งของไทย เมื่อธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด เข้าซื้อหุ้น 75% จากกองทุนเพื่อ การฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน (FIDF) ด้วยเม็ดเงินจำนวน 12,377 ล้านบาท แล้วเปลี่ยนชื่อธนาคารนครธน เป็นธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดนครธน (SCNB)

สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด สามารถ ถือหุ้นได้สูงถึง 75% ทั้งๆ ที่ลงทุนเพียง 12,377 ล้านบาท ขณะที่ทางการไทยโยน เงินเข้ามาถึง 14,000 ล้านบาท แต่ถือหุ้น ในธนาคารนครธนแค่ 24.97% นอกจากนี้สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดยังมีอำนาจดูแลการบริหารแบบเบ็ดเสร็จ โดยส่งคนเข้ามานั่งในคณะกรรมการบริหาร 5 คน แต่มาจาก FIDF เพียง 2 คน และกรรมการอิสระที่คัดเลือกโดยคณะกรรมการฯ 2 คน

นอกจากนี้ ยังมีข้อตกลงเกี่ยวกับผลการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นจากหนี้

ด้อยคุณภาพ โดยสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด จะรับภาระ 15% ของหนี้ด้อยคุณภาพที่จะเกิดในอนาคต ขณะที่รัฐบาลไทยรับภาระไปเต็มๆ 85% ในทาง กลับกันถ้าหากมีกำไรจะแบ่งตามสัด ส่วนของการถือหุ้น

ที่สำคัญ ตลอดระยะเวลา 5 ปี ในทุกๆ 6 เดือน FIDF จะจ่ายเงินช่วยเหลือในรายได้ที่ขาดหายไปให้กับ SCNB โดยคำนวณจากยอดคงค้างลูกหนี้ถัวเฉลี่ยย้อนหลัง 6 เดือนในอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน บวก 1%

เงื่อนไขเหล่านี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ จากวงการพอสมควร แต่อย่างไรก็ตาม ทางการก็เชื่อมั่นว่า ด้วยความสามารถของ การบริหารของแสตนดาร์ดชาร์เตอร์ด จะทำให้ธนาคารใหม่แห่งนี้ มีผลประกอบการดีขึ้น และได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าในอนาคต

สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด มีสำนัก งานใหญ่อยู่ลอนดอน และถือสัญชาติอังกฤษแต่ธนาคารกลับเรียกตัวเองว่า "GLOBAL BANK" ทั้งนี้เพราะลักษณะการทำธุรกิจจะแตกต่างจากธนาคารต่างประเทศรายอื่น ที่ในช่วงแรกจะเน้นสร้างฐานธุรกิจเฉพาะ ในประเทศของตนให้แข็งแกร่ง ก่อนสยายปีกออกสู่ตลาดต่างประเทศ แต่สำหรับธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด เริ่มต้นทำธุรกิจในต่างแดนพร้อมกับในประเทศ

เข้ามาดำเนินธุรกิจในเอเชียตั้งแต่ปี 1850 ซึ่งขณะนั้นได้เข้าไปเปิดสาขา อินเดีย และออสเตรเลียในนามธนาคารชาร์เตอร์ด (CHARTERED BANK) ต่อมาได้ผนวกกิจการกับธนาคารสแตนดาร์ด (STANDARD BANK) แล้วเปลี่ยน ชื่อมาเป็นสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ในปัจจุบัน

สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด เป็นธนาคารที่มุ่งดำเนินธุรกิจในตลาดเกิดใหม่ มีสำนักงานสาขาใน 50 ประเทศ เข้ามาก่อตั้งสำนักงานในไทยเมื่อปี 1894 และปัจจุบันดำเนินธุรกิจผ่านสำนักงานสาขาประจำกรุงเทพฯ

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us