ใครจะรู้ว่า อินเตอร์เน็ตสามารถ สร้างโอกาสใหม่ๆ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เศรษฐีใหม่อันดับต้นๆ ของโลกเวลานี้ ล้วนแต่เกิดจากธุรกิจบนเว็บทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น amazon.com หรือ ebay. com

อะไรก็เกิดได้บนอินเตอร์เน็ต ที่ใครหลายคนเคยกล่าวไว้ ยังเป็นมนต์ขลังอยู่เสมอ

เมืองไทยเองก็เพิ่งมีเถ้าแก่ อายุเพียงแค่ 16 ปี ขึ้นในธุรกิจบนเว็บ

เมื่อเว็บไซต์ "ohoweb.com (โอโฮเว็บ.คอม) ที่เธียรรุจ ธรณวิกรัย ที่เขาสร้างขึ้นมาเมื่อเดือนพฤษภาคม ได้รับการติดต่อจากชินคอร์ปให้เข้าโครงการ venture club หรือ ทุนนวัต- กรรมใหม่ ซึ่งเป็นโครงการที่ตั้งขึ้นเพื่อให้ทุนสนับสนุนบรรดาเว็บไซต์ ซอฟต์ แวร์ และฮาร์ดแวร์ที่มีอนาคตทั้งหลาย

สิ่งที่ตามมาจากข้อตกลงดังกล่าว ก็คือ การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทโอโฮเว็บ จำกัด ที่เธียรรุจเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 60% และชินคอร์ป ถือหุ้น 40% พร้อมกับเงินทุนจดทะเบียนอีก 1 ล้านบาท

และนี่เอง เธียรรุจ ต้องเพิ่มสถานภาพจากเด็กนักเรียนมัธยมชั้นปีที่ 5 ของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษากลาย เป็นเถ้าแก่ใหม่ในโลกอินเตอร์เน็ต

ก่อนหน้านี้เธียรรุจ เป็นแค่เด็กนักเรียนธรรมดาๆ ที่ต้องยอมอดค่าขนม เพื่อขอเงินพ่อแม่ไปซื้อคอมพิวเตอร์ และเป็นจุดเริ่มที่ทำให้เขาได้สัมผัสกับอินเตอร์เน็ตเมื่ออยู่แค่ชั้นม.2 เธียรรุจ อาจโชคดีกว่าเด็กคนอื่นอยู่บ้าง ที่เขามีโอกาสได้ใช้อินเตอร์เน็ต จากที่บ้านค้าวัสดุก่อสร้างและเริ่มสมัครเป็นสมาชิกอินเตอร์เน็ตตั้งแต่ธุรกิจนี้เพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นาน และพื้นฐานภาษาอังกฤษที่ค่อนข้างดี เพราะอยู่โรงเรียนอัสสัมชัญมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เธียรรุจได้เรียนรู้และพบกับสังคมใหม่บนอินเตอร์เน็ต

จากนั้นก็หาความรู้ด้วยตัวเอง ผ่าน chat room เกี่ยวกับการเขียนเว็บไซต์ เธียรรุจร่วมกับเพื่อนอีก 3-4 คน สร้างเว็บไซต์ ที่มีชื่อว่า oho.web ที่ใส่เนื้อหาวาไรตี้ ขึ้นในเดือนพฤษภาคมปีนี้

แต่หลังจากเปิดเว็บไซต์ที่เป็น

วาไรตี้ได้เพียงเดือนเดียว เธียรรุจก็ตัดสินใจปรับโฉมเว็บไซต์ เมื่อเขาพบว่า เว็บไซต์ประเภทนี้มีอยู่มากมาย ครั้งนี้เขาลงมือโดยลำพัง ปรับปรุงเป็นเว็บไซต์ ที่ให้ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ ที่เขาแปลมาจากหนังสือต่างๆ และความรู้ที่เขาหาเอง และเปิด ohoweb.com ขึ้นใหม่ในเดือนพฤษภาคม 2542 ถัดจากนั้นไม่กี่เดือนเขาก็ได้รับการติดต่อจากชินคอร์ป

จะว่าไปแล้ว ดีลนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะความน่าสนใจของเว็บไซต์ที่เธียรรุจทำขึ้นมาเท่านั้น ที่มีโอกาสพัฒนา เป็นเว็บไซต์ที่ใช้ประโยชน์ทางธุรกิจได้เท่านั้น แต่แววเถ้าแก่ก็ฉายออกมาและ เข้าตาผู้บริหารชินคอร์ป

"เราต้องดูด้วยว่า เขามีความคิดของการเป็นเถ้าแก่ หรือเป็นความคิดของลูกจ้าง เพราะความคิดลูกจ้าง ก็มักจะเรียกเงินเดือนสูงๆ ขอนั่นขอนี่ เขาไม่มองว่า บริษัทจะไปอย่างไรต่อไป แต่สำหรับเด็กคนนี้เขามองว่า นี่เป็นบริษัทของเขา ถ้าเขาขอเงินเดือนมากๆ หรือลงทุนมากๆ ก็เท่ากับว่าบริษัทก็มีภาระหนัก และจะเอากำไรมาจากไหน" เหตุผลที่จุไรรัตน์ อุณหกะ กรรมการผู้จัดการ กองทุนนวัตกรรมไทย บอกความเป็นเถ้าแก่ของเธียรรุจที่ฉายแววออกมา

หลังบริษัทโอโฮเว็บจัดตั้งขึ้น เธียรรุจได้รับเงินเดือนจากบริษัทแห่งนี้ 2,000 บาท ในฐานะของกรรมการผู้จัดการและผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่จะวางนโย-บายและทิศทางของบริษัทร่วมกับจุไรรัตน์ เธียรรุจรับสมัครพนักงาน และสอบสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง เขาได้นักศึกษาปริญญาตรี 1 คน และโท อีก 2 คน มาเป็นผู้ช่วยปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีลูกเล่นที่หลากหลายขึ้น มีผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ 1 คน ที่เหลืออีก 2 คนรับผิดชอบด้านข้อมูลที่จะมาใส่ในเว็บ เธียรรุจบอกว่าเขาให้เวลาไว้กับตัวเอง 3 เดือน ที่จะทำให้ ohoweb.com กลายเป็นประชาคมใหม่บนเว็บ

ทุกวันนี้ เธียรรุจต้องใช้เวลาหลัง เลิกเรียน ตรวจงานผ่านอีเมล และประชุมพนักงานทั้ง 3 ผ่าน chat room และอาจต้องไปประชุมร่วมกับจุไรรัตน์อาทิตย์ละครั้ง

สำหรับเธียรรุจแล้ว ความใฝ่ฝันของเขาก็คือ การที่สามารถสร้างสรรค์สินค้า และบริการ ให้มีคนใช้ทั่วโลกไม่แปลกที่บุคคลที่เขาชื่นชมจะเป็นเจ้าพ่อซอฟต์แวร์ บิลเกตต์ และไมเคิล เดลล์

และหากเธียรรุจทำให้ ohoweb. com เป็นประชาคมใหม่บนเว็บสำเร็จ ข้อเสนอที่เขาได้รับจากชินคอร์ป เป็นพิเศษ ก็คือ การให้ทุนไปศึกษาต่อทางด้านอินเตอร์เน็ต หรือ อี-คอมเมิร์ซในต่างประเทศ และใครจะไปรู้ว่า เขาอาจจะกลับมาเป็นมันสมองใหม่ให้กับชินคอร์ป ในวันที่บริษัทแห่งนี้ต้องก้าวไปพร้อมกับอินเตอร์เน็ต

แม้ว่าจะต้องสละเวลาของการใช้ชีวิตที่มีแต่เรียนและเล่น แบ่งไว้สำหรับการทำงาน เธียรรุจบอกว่า ทางเลือกของเขาครั้งนี้คุ้มค่ายิ่งกว่ากับการที่เขาได้ทำงานก่อนเด็กในวัยเดียวกันถึง 6 ปีเต็ม