จบไปแล้วสำหรับงานแอปเปิ้ล-เวิลด์"99 งานประจำปีของบรรดาชาวแมค อินทอช
ที่จะมาชุมนุมเพื่อแนวโน้มใหม่ๆ ของเทคโนโลยี ยอดผู้เข้าชมงานในปีนี้ยังคงตัวเลขผู้ชม
8,000 ราย ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
ไฮไลต์ของงานในปีนี้ หนีไม่พ้นเครื่อง "ไอบุ๊ค" เครื่องโน้ตบุ๊คของแมค
อินทอช ที่เปิดตัวในสหรัฐอเมริกามาก่อนหน้านี้ 2 เดือน และเพิ่ง Import เข้ามาโชว์ในงานแบบสดๆ
ร้อนๆ ก่อนหน้าวันงานเพียงแค่วันสองวัน และนำไปแสดงในงานแฟชั่นของห้องเสื้อเมตตา
ก่อนจะมาแสดงในงานแอปเปิ้ลเวิลด์
ความโดดเด่นของเครื่องไอบุ้ค ก็มาในแนวเดียวกับ "ไอแมค" คือเน้นรูปลักษณ์สีสันสดใส
และด้วยคุณ สมบัติของการใช้งานที่เน้นความง่ายผสมกับความเร็วในการประมวลผล
และเรียกดูข้อมูล ทำเอาสถานการณ์ที่เคยย่ำแย่ของแมคอินทอช เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว
พลิกฟื้นขึ้นมาทันตา
ก่อนหน้านี้แมคอินทอชสหรัฐอเมริกา ต้องตกอยู่ในภาวะย่ำแย่อย่างหนัก จนต้องไปดึงเอาสตีฟ
จอบ และหลังจากได้สตีฟ จอบ กลับมาโอกาสก็ตกเป็นของแมคอินทอชอีกครั้งและสตีฟ
จอบ ก็ทำได้สำเร็จกับการจับกระแสความต้องการของตลาดได้ถูกทาง
สำหรับเครื่องตั้งโต๊ะที่เป็นไฮไลต์ ก็หนีไม่พ้นเครื่อง G4 ที่ยังคงเน้นจุดขายแบบเดิม
คือ กล่องภายนอกสีโปร่ง ใส แต่คราวนี้สีขรึมลงมาหน่อย คือ เน้นเฉดสีตะกั่ว
และยังคงเน้นความเร็วในการทำงาน ที่มีการยืนยันว่าเร็วกว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิปของอินเทล
2 เท่า โดยจะใช้ตัวประมวลผล (ชิป) พาวเวอร์ พีซี ที่ออกแบบร่วมกับโมโตโรล่า
และไอบีเอ็ม
ไม่เพียงแค่เครื่องรุ่นใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองกับตลาดได้เท่านั้น แต่ราคาเครื่องของแมคอินทอช
ที่เป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่ง ที่ทำให้คนส่วนใหญ่แม้จะอยากใช้แต่ก็สัมผัสไม่ได้จะหมดไปด้วย
"ราคาเวลานี้เลิกพูดได้แล้วราคา ตลาดโลกจะเป็นตัวกำหนด ราคาของเครื่องเวลานี้จะต้องแข่งขันได้"
วิทยา ว่องวานิช กรรมการผู้จัดการ แมคอินทอชเซ็นเตอร์ ผู้รับผิดชอบการตลาดให้กับแมคอินทอช
ที่เชื่อมั่นกับการปรับตัวของแมคอินทอช ที่จะทำให้อีกไม่กี่วันจะได้เห็นในเมืองไทย
คำกล่าวของวิทยา ที่ไม่ใช่แค่ราคาเท่านั้น แต่เครื่องรุ่นใหม่ที่เห็นในเว็บไซต์ในไม่ช้าจะได้เห็นในเมืองไทย
อย่างไรก็ตาม แม้กระแสตอบรับจะมีมากเพียงใด แต่เครื่องไอบุ้ค และ G4 ที่นำมาแสดงในงานแอปเปิ้ลเวิลด์ของไทย
ก็ยังมีไว้สำหรับโชว์เท่านั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อขาย เพราะหากใครอยากได้ไปครอบครองจะต้องจับจองไว้ก่อน
ไม่ต่างจากรถยนต์ และยังไมรู้ว่าจะใช้เวลา กี่เดือนถึงจะได้ เพราะไปเจอเอาช่วงคริสต์มาสพอดี
ที่ยอดสั่งซื้อในสหรัฐอเมริกา โรงงานในไต้หวันคงผลิตได้ไม่พอแล้ว ยิ่งมาเจอกับแผ่นดินไหวด้วยแล้ว
งานนี้ลูกค้าคงต้องร้องเพลงรอไปก่อน