ไม่มีค่ายเพลงใหญ่หรือเล็กบนอินเตอร์เน็ต หลายคนเชื่อว่า ค่ายเพลงอย่าง Independent label หรือค่ายที่ไม่มีสื่อวิทยุและโทรทัศน์เป็นของตัวเอง หรือ INDI จะได้ประโยชน์สูงสุดจากการใช้อินเตอร์เน็ต

บนอินเตอร์เน็ตไม่มีคำว่าค่ายเพลงใหญ่หรือเล็ก ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ ไม่มีคำว่าสัมปทาน ไม่ต้องจ่ายค่าต๋ง ทุกคนเท่ากันหมด ขึ้นอยู่กับใครจะหาลูกเล่นอะไรใหม่ๆ ที่โดนใจกลุ่มคนฟังที่เล่นอินเตอร์เน็ต และรู้จักใช้ประโยชน์จากสื่อนี้ได้มากกว่ากัน

อินเตอร์เน็ตจึงเป็นโอกาสใหม่ของค่ายเพลงขนาดเล็ก ยิ่งเป็นค่ายเกิดใหม่ด้วยแล้ว ที่ต้องพึ่งพาสายส่ง หรือร้านขายเทป กว่าจะให้เป็นที่ยอมรับไม่ใช่เรื่องง่าย ในสหรัฐอเมริกา นักดนตรี ประเภทไม่มีค่าย ก็หันมาใช้เครือข่ายอิน เตอร์เน็ตเป็นช่องทางขายเพลง ยิ่งมี เทคโนโลยี MP 3 ด้วยแล้วลูกค้าก็เพียง แต่จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต จากนั้นก็ดาวน์โหลดเพลงไปฟังได้เลย เรียกว่าค่ายเทปหรือยี่ปั๊วหมดความหมายไปเลย

การเป็นดีเจ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะ ต้องเรียนรู้หาสิ่งใหม่ๆ เข้ามาเป็นข้อมูล สาลินี ปันยารชุน เองก็มีโอกาสเรียนรู้จากสถานที่ทำงานหลายแห่ง

"เดิมทีตอนเริ่มใช้อินเตอร์เน็ต ตั้งแต่ยังอยู่กับเบเกอรี่มิวสิค ซึ่งเป็นค่าย เพลงอินดี้เจ้าแรกที่ทำเว็บไซต์ ซึ่งเวลานั้น อินเตอร์เน็ตยังใหม่มาก มีเพียงบางค่าย เพลงเท่านั้นที่ทำ แต่กิจกรรมยังมีไม่มาก" สาลินี ปันยารชุน ย้อนหลังอดีต

หลังจากฉีกตัวออกจากเบเกอรี่มิวสิค มาตั้งค่ายเพลง House of Fund เป็นของตัวเอง โดยร่วมทุนกับนักลงทุนชาวญี่ปุ่น สาลินีก็ยังคงเห็นประโยชน์จากสื่อของอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะค่ายเพลงประเภท INDI ที่ไม่มีสื่อทั้งวิทยุ และโทรทัศน์ในมือ ไม่เหมือนกับค่ายเพลงใหญ่ๆ

ในมุมมองของสาลินี การทำเว็บไซต์ไม่ได้มีเป้าหมายอยู่ที่การเพิ่มยอดขายโดยตรง ไม่เหมือนกับในสหรัฐ อเมริกาที่การซื้อซีดีบนเว็บเป็นเรื่องปกติ ไปแล้ว แต่สำหรับเมืองไทยยังต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ แต่การใช้อินเตอร์ เน็ต เวลานี้จะได้ประโยชน์ในเรื่องการประชาสัมพันธ์ และใช้ทำกิจกรรมร่วมกับแฟนเพลง

"ค่ายเพลงเล็กๆ จะได้ประโยชน์ มากสำหรับการอาศัยสื่ออินเตอร์เน็ตในการโปรโมตเทป และตัวศิลปิน เพราะกลุ่มลูกค้าก็เป็นกลุ่มวัยรุ่น ที่เป็นผู้ใช้ส่วนใหญ่ในอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องของการทำกิจกรรมบนอินเตอร์เน็ต ที่จะใช้ประโยชน์ได้มาก เพราะเป็นสื่อสองทาง"

คราวนี้สาลินีไม่ได้ทำเว็บขึ้นมาโดยลำพัง แต่ทำในลักษณะของการทำร่วมกับพันธมิตรอย่างสามารถไซเบอร์ ในการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน สาลินีไม่ต้องควักเงินจ่ายเป็นค่าเว็บไซต์ สามารถไซเบอร์จะทำให้หมด ตั้งแต่เรื่องของอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือ ในขณะที่ค่ายเพลงอย่างเฮ้าส์ออฟ-ฟันด์เป็นคอนเทนท์ เพื่อป้อน content ให้กับสามารถไซเบอร์ ที่มีเว็บไซต์รวมเกี่ยวกับค่ายเพลงต่างๆ และส่งศิลปินมาร่วมในการออกบูทตามงานต่างๆ เพื่อ โปรโมตสามารถไซเบอร์

เว็บไซต์เฮาส์ออฟฟันด์ ของเธอไม่ใช่แค่การให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวศิลปิน ที่มีทั้งหมด 6 วง และโปรโมตเพลงในรูปของข้อมูลปกติเท่านั้น เพื่อให้สมกับ เป็นค่ายเพลง ดังนั้นจะต้องมีการให้ฟังเพลงทดลอง ที่ออกใหม่ล่าสุดได้ ซึ่งยังอยู่ในขั้นทดลองเช่นเดียวกับการให้ดาวน์โหลดเพลงตัวอย่างได้ฟรี

ค่ายเพลงใหญ่อย่างแกรมมี่ หรือ ค่ายเพลงเล็กๆ ที่ไร้สื่อทีวี และวิทยุ อย่าง House of Fund ประสบความสำเร็จบนเว็บ ที่ไม่มีคำว่าค่ายใหญ่ค่ายเล็กมากกว่ากันเวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่อง พิสูจน์