หมอเลี้ยบเปิดแผนไอซีทีโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งใหม่ ก.พ.48 เดินหน้าสร้างมูลค่า เพิ่มหน่วยงานเร่งสรรหาซีอีโอทศท หาพาร์ตเนอร์ไทยโมบายใน 2 เดือน ดันซีดีเอ็มเอถ่ายโอนอำนาจ การกำกับดูแลโดยเฉพาะเรื่องการจัดสรรเลขหมายให้กรมไปรษณีย์ฯ ในฐานะสำนักงานเลขากทช.พร้อม ผลักดันไทยให้เป็นศูนย์ไอซีทีอาเซียน พิสูจน์จากงาน ICT EXPO ที่ถือเป็นขาขึ้นต้องใหญ่กว่างานคอมมูนิคเอเชียสิงคโปร์ที่เป็นขาลง

น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึงเป้าหมายในอีก 8 เดือนข้างหน้าก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่ว่าจะเร่งดำเนินการเรื่องต่างๆ ประกอบด้วย 1.ในเรื่องการกำกับดูแลจะมีการถ่ายโอนอำนาจหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้กรมไปรษณีย์โทรเลข ในฐานะสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการ โทรคมนาคมแห่งชาติ ให้เสร็จสิ้นก่อนการจัดตั้งกทช.ในอีก 3 เดือนข้างหน้า หรือภายในเดือนก.ย.ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าเชื่อมโยงโครงข่าย (Interconnection Charge) เรื่องการจัดสรรเลขหมายโทรศัพท์ (Numbering Plan) เรื่องเลขหมายโทรศัพท์เดียวข้ามระบบ (Number of Portability)

2.การเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของหน่วยงาน โดยต้องเร่งกระบวนการสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น โดยนโยบายไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นคนในหรือคนนอก และไม่จำเป็นต้องรอให้มาสมัครสามารถใช้วิธีทาบ ทามคนที่มีความรู้มีประสบการณ์

3.เรื่องไทยโมบาย ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในระบบ 1900 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งต้องหาพาร์ตเนอร์มาตอบสนองแนวทางการพัฒนาไปสู่ 3G ให้ได้ภายใน 2 เดือน

4.เร่งโทรศัพท์มือถือในระบบ ซีดีเอ็มเอ ของบริษัท กสท โทรคมนาคม ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของครม.โดยให้ดำเนินการขั้นตอน ประกวดราคาได้เลย

5.การเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ โดยรูปธรรมที่ชัดเจนคือการจัดงาน ICT EXPO ซึ่งถือได้ว่าจะเป็นงานระดับภูมิภาค ที่อยู่ในช่วงขาขึ้นที่ใหญ่กว่างานคอมมูนิคเอเชียที่ประเทศสิงคโปร์ที่ถือว่าอยู่ในช่วงขาลง

6.มุ่งเน้นเรื่องธุรกิจ BPO หรือ Business Process Out-sourcing ที่จะทำรายได้ให้ประเทศ 1 แสนล้านบาทในเวลา 3 ปี โดยธุรกิจที่จะให้บริการแตกต่างกว่าฟิลิปปินส์หรืออินเดีย โดยไทยจะมุ่งเน้น Non Voice BPO เป็นหลัก

7.ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง Web Service Super Hub ในทศวรรษหน้า โดยจะเป็นการร่วมมือกับไมโครซอฟท์ เนื่องจากธุรกิจ Web Service คาดว่าจะมีมูลค่าถึง 31 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2010

8.งาน TAM 2005 ซึ่งไม่ใช่จะมีแค่แอนิเมชัน แต่จะมีฟิล์มด้วย ตามเป้าหมายที่ต้องการเป็น Hollywood of Asia

9.โครงการคลังความรู้แห่งชาติ (Thailand Knowledge Center) 10.โครงการ Good Net 11.โครงการ 1 วัด 1 ศูนย์คอมพิวเตอร์ 12.โครงการทำให้หนังสือด้านไอซีทีราคาถูกลง

"ส่วนการแปรสัญญาเป็นเรื่องของคู่สัญญาที่จะตกลงกัน"

น.พ.สุรพงษ์กล่าวในวันแถลงผลงานกระทรวงไอซีทีในรอบ 626 วัน โดยมีผลงานมากถึง 16 โครงการหลักครอบคลุม 76 จังหวัดทั่วไทย อย่างโครงการคอมพิวเตอร์ไอซีที,โครงการลดค่าบริการโทรศัพท์ทางไกลในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะต่างประเทศลด ลงเฉลี่ย 7-70% แล้วแต่ประเทศ, โครงการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 1 ล้านพอร์ต ฯลฯ

นายอรัญ เพิ่มพิบูลย์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทศท กล่าวว่า ทศทเปิดให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศผ่านรหัส 002,007 และ 009 ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมาทั้งระบบ IDD และ VoIP ภายใต้นโยบายการใช้เกตเวย์ของกสท หากกสทคิดค่าบริการถูกกว่า หรือเทียบเท่ากับประเทศเพื่อนบ้านที่ทศทเป็นพันธมิตร แต่หากทศทสามารถหาเกตเวย์ที่ถูกกว่าได้ ก็ต้องมาเจรจากับกสท เพื่อต่อรองให้ได้ราคาที่ดีที่สุด หากกสทไม่สามารถให้บริการได้ในราคาถูกกว่า ทศทก็จะไปใช้เกตเวย์เพื่อนบ้าน

ส่วนค่าบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ ต้องมีการเจรจากับกสทเพื่อกำหนดเป็นเพดานราคามาตรฐาน หลังจากนั้นแต่ละหน่วยงานก็สามารถลดราคาลงมาเพื่อทำโปรโมชันในแต่ละช่วงได้

"ต่อไปเราอาจทำโปรโมชันนาทีละ 9 บาท 9 ประเทศก็ได้ ตราบเท่าที่ต้นทุนเราสามารถทำได้ เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชน สำหรับไทยโมบายนั้นเดิมที่จะเลือกเอ็นทีที โดโคโม เป็นโชว์เคสสำหรับการให้บริการโทรศัพท์มือถือ 3G เราก็ไม่ทำแล้วจะเลือกพาร์ตเนอร์เลย ซึ่งอาจเป็นโดโคโมก็ได้ ขึ้นอยู่กับรายละเอียดการลงทุน"