Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน18 มิถุนายน 2547
ปรับวิธีกัน "ฮั้ว" ชิงสมาร์ทการ์ด 5 กลุ่มยื่นใหม่             
 


   
search resources

กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี




กระทรวงไอซีทีเปิดประมูลสมาร์ทการ์ดรอบใหม่ ได้ผู้เข้าร่วมทั้งหน้าเก่าและใหม่ 5 กลุ่ม ภายใต้คณะกรรมการชุดเดิม "หมอเลี้ยบ" เปลี่ยนกฎใหม่ไม่ให้ คู่แข่งเห็นราคา หวังปิดโอกาสฮั้ว ยันยึดราคา 108 บาทเป็นเพดาน

น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที เปิดเผยถึงการประมูลบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ หรือสมาร์ทการ์ดว่า การเปิดประมูลสมาร์ทการ์ดรอบใหม่มีผู้เข้ายื่นซอง 5 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กลุ่มกิจการร่วมค้าซีเอสที มีบริษัท ไมโครอิเล็กทรอนิกส์กับอินเทลการ์ด 2.กลุ่มกิจการร่วมค้าดีพีทีเอฟ มีบริษัทเอ็กซัลโต้กับท็อปปังฟอร์ม 3.กลุ่มกิจการร่วมค้าแอลจีพี มีบริษัท เอ็มพลัส กับไทยบริทิส ซีเคียวริตี้ พรินติ้ง 4.กลุ่มกิจการร่วมค้าจีดีไอซี มีบริษัท จีแอนด์ดีกับอินเทล การ์ด และ 5.กลุ่มกิจการร่วมค้าเอสเอสไอ แอนด์ โอซีเอส มีบริษัท โอเบอร์ชัวร์กับจันวานิชย์

ส่วนบริษัทที่เข้าประมูล ในส่วนที่เป็นระบบปฏิบัติการสมาร์ทการ์ด เป็นบริษัทที่อยู่อันดับ 1 ใน 5 ของโลกเข้าร่วมประมูลคือ 1.เอ็กซัลโต้ 2.เจมพลัส 3.เจ แอนด์ ดี 4.เอสที ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ และ 5.โอเบอร์ชัวร์

สำหรับการประมูลสมาร์ทการ์ดครั้งใหม่นี้ กระทรวงไอซีทีจะใช้คณะกรรมการชุดเดิม โดยจะมีการประกาศผู้ที่ผ่านเงื่อนไขด้านพาณิชย์ในวันที่ 22 มิ.ย. ประกาศผู้ที่ผ่านเงื่อนไขทางด้านเทคนิคในวันที่ 28 มิ.ย. และเปิดประมูลแบบออนไลน์ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้

ส่วนรูปแบบการประมูลจะเปลี่ยนจาก English Auction ที่ให้ฝ่ายหนึ่งเห็นตัวเลขของอีกฝ่ายหนึ่งในการเคาะราคาบนกระดาษแต่ละครั้ง ซึ่งการประมูลด้วยวิธีนี้จะให้สำหรับอุปกรณ์ที่รู้มาตรฐานของราคาอยู่แล้ว อย่างการประมูลครั้งที่ผ่านมามีการกำหนดให้เสนอราคาครั้งละไม่เกิน 5 นาที ส่วนแบบใหม่ที่จะนำมาใช้คือแบบ Sealed Bid Auction รูปแบบคือแต่ละฝ่ายจะไม่เห็นตัวเลขของกันและกัน จะมีเพียงคณะกรรมการเท่านั้นที่เห็นตัวเลขในการประมูลแข่งกัน โดยผู้เคาะราคาแต่ละครั้งหากสูงกว่าอีกฝ่ายหนึ่งระบบจะไม่ตอบรับ หากต่ำกว่าระบบจึงจะตอบรับ

"ผู้ประมูลที่ราคายังสูงกว่าอีกฝ่ายก็ต้องเสนอราคาใหม่ในเวลาที่กำหนดข้อดีของการประมูลแบบนี้คือมีความเหมาะสมกับกรณีที่มีผู้เข้าร่วมประมูลจำนวนน้อย และโอกาสจะฮั้วกันยากขึ้น"

น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า การประมูลครั้งนี้มีผู้ยื่นซองมากกว่าครั้งที่แล้ว ซึ่งมีเพียงสามราย เป็นการแสดงให้เห็นว่าทั้งห้ากลุ่มตั้งใจแข่งขันกันเต็มที่ เพราะมีประสบการณ์จากครั้งที่แล้ว ว่าทางเราต้องการให้การประมูลจัดซื้อถูกต้องโปร่งใส รวมถึงการส่งมอบบัตรมีความผ่อนคลายมากขึ้น

ส่วนเรื่องราคาจะยึดฐานของผู้ที่ชนะการประมูลครั้งที่แล้วคือประมาณ 108 บาทเป็นเพดาน การทำ Auction ก็จะเริ่มจากราคาต่ำสุด เพื่อให้ได้ราคาในระดับที่พอใจ หากได้ราคาที่ดีแล้วก็จะเริ่มดำเนินการในขั้นต่อไปทันที

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้เข้าประมูลกังวลคือระยะเวลาการส่งมอบบัตรล็อตแรก คือตามทีโออาร์ กำหนดว่าล็อตแรกจะต้องส่งมอบภายใน 90 วัน ซึ่งการดำเนินการส่งมอบไม่น่าจะเกินเดือนต.ค.นี้

เดิมการส่งมอบบัตรสมาร์การ์ดล็อตแรกจำนวน 12 ล้านใบ ให้มีการส่งมอบจำนวน 1 หมื่นใบภายในระยะเวลา 3 อาทิตย์ 1 ล้านใบภายในเวลาเดือนครึ่ง ทั้งนี้ หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงคาดว่าล็อตแรกจะส่งมอบได้ครบภายในเดือนธ.ค.นี้ จากนั้นกระทรวงไอซีทีก็จะส่งให้กระทรวงมหาดไทย ไปดำเนินการในขั้นต่อไป

น.พ.สุรพงษ์กล่าวถึงกรณีที่มีผู้เป็นห่วงเกี่ยวกับข้อมูลที่เป็นสิทธิส่วนบุคคลว่า เรื่องนี้ได้มีการชี้แจงและทำความเข้าใจไปแล้วตั้งแต่มีการประมูลครั้งแรก แต่ถ้าเกิดมีผู้ที่เป็นห่วงในเรื่องดังกล่าวอีก ก็จะมีการชี้แจงอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าทุกอย่างไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us