เผย ททบ.5 เซ็นสัญญาให้บริษัทอาร์ทีเอเรียบร้อยแล้ว หลัง 2 ผอ.เก่า 2 ราย ยื้อจนถูกเด้ง
อาร์ทีเอฮุบบริหารจัดการการตลาดทั้งหมดของช่อง 5 หลังเข้าตลาดหุ้น เรียกผู้จัดกว่า
230 รายเข้าประชุมรับนโยบายผังใหม่ รื้อทิ้งรายการเล็กๆ พร้อมปรับค่าเช่าใหม่
หลังจากที่ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 คนล่าสุดคือ พล.ท.สหชัย ชวนชัยสิทธิ์
ได้ถูกปลดออกจากการเป็น ผอ. หลังจากที่ขึ้นนั่งเก้าอี้ได้เพียง 7 วัน โดยก่อนหน้านั้น
พล.อ.ปรีชา เปรมาสวัสดิ์ ซึ่งเป็นผอ.ช่อง 5 คนเดิม ก็ได้ถูกปลดเช่นกัน โดยมีสาเหตุเดียวกันคือ
ไม่ยอมลงนามมอบอำนาจให้กับบริษัท อาร์ทีเอ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เข้าไปดูแลเรื่องการแปรรูปช่อง
5 ก่อนที่จะนำเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อรับจัดผังรายการและขายเวลาทั้งหมดของสถานีโทรทัศน์ช่อง
5 และวิทยุในเครือข่าย ททบ.กว่า 200 สถานี ซึ่งขั้นตอนการลงนามควรจะเสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่
4 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด พล.ท.สุรฤทธิ์ จันทราทิพย์ รองผอ. ททบ 5 รักษาการผู้อำนวยการช่อง 5 เปิดเผยว่า
ทางสถานีได้มีการลงนามมอบอำนาจให้กับบริษัท อาร์ทีเอ เอนเตอร์เทนเมนท์ เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยมีสัญญา
30 ปี และต้องเสียค่าเช่าให้แก่ทางสถานีช่อง 5 มากกว่า 100 ล้านบาทต่อปี สำหรับการลงนามมอบอำนาจในครั้งนี้มีผู้สามารถลงนามได้สองคน
คือ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และตนเองผู้รักษาการแทนเท่านั้น
ทั้งนี้เพื่อคลายปมขัดแย้งทั้งหมด หลังจากที่หลายฝ่ายมองว่าการเข้าตลาดหลักทรัพย์ของสถานีช่อง
5 ด้วยการจัดตั้งบริษัท อาร์ทีเอ ไม่มีความโปร่งใส โดยขณะนี้ยืนยันว่าช่อง 5 จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ตามแผน
ที่วางไว้ไตรมาสสามของปีนี้
อย่างไรก็ตาม วานนี้ (15 มิ.ย.47) ทางสถานีได้เรียกผู้จัดการรายการทางสถานีช่อง
5 ทั้งหมดกว่า 234 ราย อาทิ ค่ายเวิร์กพอยท์เอนเตอร์เทนเมนต์ บริษัทเอ็กแซ็กท์
ฯลฯ เพื่อเรียกความมั่นใจของบรรดาผู้จัดรายการ รวมถึงรับทราบถึงหลักการต่างๆ ที่ผู้จัดรายการจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขหลังจากที่ช่อง
5 จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพราะบริษัท อาร์ทีเอฯ จะเป็นผู้ที่ดูแลด้านการตลาด การบริหารงาน
รวมถึงการจัดผังรายการใหม่ทั้งหมดซึ่งจะต้องผ่านคณะกรรมการ จำนวน 15 คน โดยมีจาก
3 ส่วน ได้แก่ ภาคเอกชน พลเรือน และผู้แทนสถานีกองทัพบกช่อง 5 ขณะที่ช่อง 5 จะเป็นเพียงผู้ให้บริษัทอาร์ทีเอเช่าสถานีเท่านั้น
พล.ท.เฉลิมศักดิ์ วรกิจโภคาทร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท
อาร์ทีเอ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ให้ผู้จัดรายการยื่นเรื่องแจ้งรายการให้กับทางบริษัทอาร์ทีเอ
ซึ่งวันที่ 21 มิ.ย.คณะกรรมการจะพิจารณาการจัดผังรายการใหม่ โดยคาดว่าผังรายการใหม่จะเริ่มวันที่
1 ก.ค.47 สำหรับนโยบายการจัดผังรายการใหม่หลังจากที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯแล้ว ทางคณะกรรมยังคงสัดส่วนระหว่างข่าวและบันเทิงเท่าเดิม
แต่ในส่วนของข่าวจะมีการปรับเนื้อหาให้มีความเข้มข้นมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาคุณภาพงานข่าวยังไม่ดี
รวมถึงพิจารณาปรับรายการที่มีเรตติ้งไม่ดี เช่น สารคดี เพราะมีคน ชมแค่เฉพาะกลุ่มทำให้เรตติ้งสู้ละครทางสถานีคู่แข่ง
ไม่ได้
ทั้งนี้ ยังเตรียมที่จะพิจารณาตัดรายการเล็กๆ หรือประมาณ 20-30 นาทีออกจากผัง
แต่ยังคงให้ความสำคัญกับผู้จัดรายเดิมๆเป็นหลัก โดยการปรับผังรายการใหม่ทั้งหมด
ทางคณะกรรมการจะให้ความสำคัญในการจัดสรรเวลาเพื่อไม่ให้ชนกับคู่แข่ง รวมทั้งเน้นรูปแบบการนำเสนอที่ทันสมัย
หลังจากที่ช่อง 5 เข้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว ทางคณะกรรมการจะพิจารณาปรับอัตราค่าจัดรายการแก่ผู้จัดรายการเพิ่มมากขึ้น
จากที่ผ่านมาคิดอัตราค่าจัดรายการช่อง 5 จะน้อยกว่าสถานีคู่แข่ง ทั้งนี้ การเพิ่มอัตราค่าโฆษณาในครั้งนี้เมื่อเทียบกับคู่แข่งก็ยังน้อยอยู่
เพราะเป้าหมายของการเข้าตลาดหลักทรัพย์ของช่อง 5 ก็เพื่อแสวงหาผลประกอบการให้เพิ่มมากขึ้น
และปันผลสำหรับผู้ถือหุ้น โดยทางบริษัท อาร์ทีเอ จะประกาศขายหุ้นให้ผู้ที่สนใจในเร็วๆ
นี้
พล.ท.เฉลิมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียนประมาณ 700 ล้านบาท
โดยหลายบริษัทของ ททบ.5 จำกัด เดิมทีขาดทุนทำให้มีหนี้สะสมทั้งหมดกว่า 1,500 ล้านบาท
เมื่อจะแปรรูป ททบ.5 เป็นบริษัท อาร์ทีเอ เอนเตอร์เทนเมนท์ เพื่อนำเข้าตลาดหุ้น
ก็ต้องมีการโอนหนี้ทั้งหมด มาเป็นหนี้ของทางททบ.5 ซึ่งได้มีการเซ็นสัญญาโอนเป็นลูกหนี้เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้เพื่อความโปร่งใสของอาร์ทีเอ ก่อนที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยมีบริษัท
อลันโฮเวอร์รี่ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน นอกจากนี้ยังมีอีกสถานีหนึ่ง ที่มีหนี้สินประมาณ
1,000 ล้านบาท เพราะได้รับผลกระทบในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540
นายถกลเกียรติ วีรวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กแซ็กท์ จำกัด ผู้ผลิตรายการให้กับ
ททบ. 5 เปิดเผยว่า สำหรับการขึ้นอัตราค่าจัดรายการนั้น ขณะนี้ทางอาร์ทีเอยังไม่แจ้งให้ทราบ
แต่เชื่อว่าจะมีการขึ้นอัตราค่าจัดรายการอย่างแน่นอนเป็นเรื่องธรรมดา และมีแนวโน้มว่าผู้จัดรายการเองจะปรับการซื้อเวลาในการโฆษณาเพิ่มขึ้น
ตาม โดยปัจจุบันนี้บริษัทมีผลิตรายการให้แก่ ททบ. 4 รายการ และยังไม่มีแผนที่จะเพิ่มรายการให้กับ
ททบ.5 หลังจากที่เข้าตลาดหลักทรัพย์